What Laboratory Testing May Be Help

What Laboratory Testing May Be Helpful in Distinguishing Bacterial from Viral Meningitis?

In patients with CSF findings consistent with a diagnosis of bacterial meningitis, but in whom the CSF Gram stain and culture results are negative, there is no test that is definitive for or against the diagnosis of bacterial meningitis. A combination of test results, however, may permit an accurate prediction of the likelihood of bacterial versus viral meningitis. In one analysis of 422 patients with acute bacterial or viral meningitis, a CSF glucose concentration of 2000 leukocytes/mm 3, or a CSF neutrophil count of >1180 neutrophils/mm 3 were individual predictors of bacterial, rather than viral, meningitis, with ⩾99% certainty [20]. This model was validated in one retrospective review of adult patients with bacterial or viral meningitis [21], although proof of the clinical utility of this model will require a prospective application. This model, however, should not be used to make clinical decisions regarding the initiation of antimicrobial therapy in individual patients with meningitis. Therefore, other diagnostic tests have been examined.

Determination of lactate concentration. Elevated CSF lactate concentrations may be useful in differentiating bacterial from nonbacterial meningitis in patients who have not received prior antimicrobial therapy. In one study of 78 patients with acute meningitis in which CSF lactate concentrations of >4.2 mmol/L were considered to be a positive discriminative factor for bacterial meningitis [22], the sensitivity of the test was 96%, the specificity was 100%, the positive predictive value was 100%, and the negative predictive value was 97%. However, despite the high sensitivity and positive predictive value of CSF lactate concentrations in the diagnosis of bacterial meningitis, the results are generally nonspecific and provide little additional diagnostic information. Furthermore, other factors (e.g., cerebral hypoxia/ischemia, anaerobic glycolysis, vascular compromise, and metabolism of CSF leukocytes) also may elevate CSF lactate concentrations. Therefore, measurement of CSF lactate concentrations is not recommended for patients with suspected community-acquired bacterial meningitis (D-III). However, measurement of CSF lactate concentrations was found to be superior to use of the ratio of CSF to blood glucose for the diagnosis of bacterial meningitis in postoperative neurosurgical patients, in which a CSF concentration of 4.0 mmol/L was used as a cutoff value for the diagnosis [23]. The sensitivity was 88%, the specificity was 98%, the positive predictive value was 96%, and the negative predictive value was 94%. CSF lactate concentrations may be valuable in this subgroup of patients, in whom the usual CSF findings—elevated WBC counts (total and differential), positive Gram stain results, diminished glucose concentrations, and elevated protein concentrations—are neither sensitive nor specific to reliably distinguish bacterial from a nonbacterial meningeal syndrome. Therefore, in the postoperative neurosurgical patient, initiation of empirical antimicrobial therapy should be considered if CSF lactate concentrations are ⩾4.0 mmol/L, pending results of additional studies (B-II).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ห้องปฏิบัติการทดสอบสิ่งอาจเป็นประโยชน์ในการแยกแบคทีเรียจากเยื่อหุ้มสมองอักเสบไวรัสในผู้ป่วยที่มีน้ำไขสันหลังพบสอดคล้องกับการวินิจฉัยของกะโหลก แต่ ในบุคคลที่ ผลการย้อมสีและวัฒนธรรมกรัมน้ำไขสันหลังมีลบ มีไม่ทดสอบที่สมบูรณ์สำหรับ หรือ กับการวินิจฉัยของกะโหลก การรวมกันของผลการทดสอบ อย่างไรก็ตาม สามารถอนุญาตให้การทำนายแม่นยำของโอกาสของแบคทีเรียกับไวรัสเยื่อหุ้มสมองอักเสบ ในการวิเคราะห์หนึ่งของแบคทีเรีย หรือไวรัสโดยทั่ว ความเข้มข้นของน้ำตาลในน้ำไขสันหลังของผู้ป่วยที่ 422 < 34 มิลลิกรัม/dL อัตราส่วนของน้ำไขสันหลังที่ระดับน้ำตาลในเลือดของ < 0.23, CSF โปรตีนเข้มข้น > 220 mg/dL จำนวนเม็ดเลือดขาวในน้ำไขสันหลังของ > 2000 เม็ดเลือดขาว/มม. 3 หรือ CSF neutrophil จำนวน > 1180 วโทร/มม. 3 ถูกทำนายแต่ละตัวของแบคทีเรีย มากกว่าไวรัส เยื่อหุ้มสมอง อักเสบ ด้วย ⩾99% ความเชื่อมั่น [20] รุ่นนี้ถูกตรวจสอบในในหนึ่งการตรวจสอบย้อนหลังของผู้ป่วยผู้ใหญ่เฉพาะเชื้อแบคทีเรีย หรือไวรัส [21], แม้ว่าหลักฐานของยูทิลิตี้ทางคลินิกของรุ่นนี้จะต้องมีโปรแกรมประยุกต์ที่คาดหวัง แบบนี้ อย่างไรก็ตาม ไม่ควรใช้การตัดสินใจทางคลินิกเกี่ยวกับการเริ่มต้นของการรักษาด้วยยาต้านจุลชีพในผู้ป่วยเยื่อหุ้มสมองอักเสบแต่ละ ดังนั้น การทดสอบวินิจฉัยอื่น ๆ ได้ถูกตรวจสอบการกำหนดความเข้มข้นของน้ำนม ความเข้มข้นของน้ำนมสูงในน้ำไขสันหลังอาจเป็นประโยชน์ในความแตกต่างแบคทีเรียจาก nonbacterial เยื่อหุ้มสมองอักเสบในผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาด้วยยาต้านจุลชีพก่อน ในการศึกษาของผู้ป่วยเยื่อหุ้มสมองอักเสบเฉียบพลันในน้ำไขสันหลังซึ่งแลความเข้มข้นของ 78 > 4.2 mmol/L ก็ถือว่าเป็นกะโหลก [22] discriminative ปัจจัยบวก ความไวของการทดสอบ 96% ความจำเพาะที่เป็น 100% ค่าคาดการณ์บวกถูก 100% และทำนายค่าลบ 97% อย่างไรก็ตาม แม้ มีความไวสูงและค่าคาดการณ์บวกของน้ำไขสันหลังน้ำนมเข้มข้นในการวินิจฉัยเชื้อแบคทีเรีย ผลลัพธ์เป็นแบบทั่วไป และให้ข้อมูลการวินิจฉัยเพิ่มเติมเล็กน้อย นอกจากนี้ ปัจจัยอื่น ๆ (เช่น กรณี/ขาดเลือดสมอง ไม่ใช้ออกซิเจน glycolysis ประนีประนอมหลอดเลือด และการเผาผลาญของเม็ดเลือดขาวในน้ำไขสันหลัง) ยังอาจยกระดับความเข้มข้นของนมน้ำไขสันหลัง ดังนั้น การวัดความเข้มข้นของนมน้ำไขสันหลังจะไม่แนะนำสำหรับผู้ป่วยที่สงสัยว่าเป็นชุมชนที่ได้รับกะโหลก (D-III) อย่างไรก็ตาม การวัดความเข้มข้นของนมน้ำไขสันหลังที่พบจะดีกว่าใช้อัตราส่วนของน้ำไขสันหลังที่ระดับน้ำตาลในเลือดเพื่อการวินิจฉัยเชื้อแบคทีเรียในผู้ป่วยศัลยกรรมประสาทหลังการผ่าตัด ที่ความเข้มข้นของน้ำไขสันหลัง 4.0 mmol/l ถูกใช้เป็นค่าตัดยอดสำหรับการวินิจฉัย [23] ความไว 88% ความจำเพาะที่ได้ 98% ทำนายค่าบวกเป็น 96% และทำนายค่าลบ 94% น้ำไขสันหลังน้ำนมเข้มข้นอาจจะมีคุณค่าในกลุ่มผู้ป่วย ในที่นี้การค้นพบน้ำไขสันหลังปกติ — ยกระดับ WBC นับจำนวน (รวม และส่วนที่แตกต่าง), กรัมสีย้อมผลบวก ความเข้มข้นกลูโคสลดลง และความเข้มข้นของโปรตีนสูง — ไม่ใช่บอบบาง หรือเฉพาะแบคทีเรียที่แยกได้จากมีอาการโอกาส nonbacterial ดังนั้น ในผู้ป่วยหลังการผ่าตัดศัลยกรรมประสาท เริ่มต้นของจุลินทรีย์บำบัดเชิงประจักษ์ว่า CSF แล ⩾4.0 mmol/L รอผลจากการศึกษาเพิ่มเติม (B-II) มีความเข้มข้น

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

สิ่งที่ห้องปฏิบัติการทดสอบอาจจะเป็นประโยชน์ในเด่นแบคทีเรียจากไวรัสเยื่อหุ้มสมองอักเสบ?

ในผู้ป่วยที่มีการค้นพบน้ำไขสันหลังสอดคล้องกับการวินิจฉัยของเยื่อหุ้มสมองอักเสบจากเชื้อแบคทีเรีย แต่ในผู้ที่ CSF ย้อมสีแกรมและวัฒนธรรมผลเป็นลบจะไม่มีการทดสอบที่เป็นที่ชัดเจนสำหรับหรือกับ การวินิจฉัยโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบจากเชื้อแบคทีเรีย การรวมกันของผลการทดสอบ แต่อาจอนุญาตให้มีการคาดการณ์ที่ถูกต้องของความน่าจะเป็นของแบคทีเรียเมื่อเทียบกับเยื่อหุ้มสมองอักเสบจากไวรัส ในการวิเคราะห์หนึ่งในผู้ป่วย 422 เฉียบพลันเยื่อหุ้มสมองอักเสบจากเชื้อแบคทีเรียหรือไวรัสที่มีความเข้มข้น CSF กลูโคส <34 mg / dL อัตราส่วนของน้ำไขสันหลังไประดับน้ำตาลในเลือดของ <0.23, ความเข้มข้นของโปรตีนในน้ำไขสันหลังของ> 220 mg / dL นับ CSF เม็ดโลหิตขาว ของ> 2000 เม็ดเลือดขาว / มม 3 หรือนับ CSF neutrophil ของ> 1180 นิวโทรฟิ / mm 3 ทำนายบุคคลของแบคทีเรียมากกว่าไวรัสเยื่อหุ้มสมองอักเสบที่มีความเชื่อมั่น⩾99% [20] รุ่นนี้ได้รับการตรวจสอบในการตรวจสอบย้อนหลังหนึ่งในผู้ป่วยผู้ใหญ่ที่มีเชื้อแบคทีเรียหรือไวรัสเยื่อหุ้มสมองอักเสบ [21] แม้ว่าหลักฐานของยูทิลิตี้ทางคลินิกของรุ่นนี้จะต้องมีการประยุกต์ใช้ในอนาคต รุ่นนี้ แต่ไม่ควรที่จะใช้ในการตัดสินใจทางคลินิกเกี่ยวกับการเริ่มต้นของการรักษาด้วยยาต้านจุลชีพในผู้ป่วยแต่ละคนที่มีเยื่อหุ้มสมองอักเสบ ดังนั้นการตรวจวินิจฉัยอื่น ๆ ได้รับการตรวจสอบ.

การกำหนดความเข้มข้นของน้ำนม ความเข้มข้นของน้ำไขสันหลังให้น้ำนมสูงขึ้นอาจเป็นประโยชน์ในการสร้างความแตกต่างที่เกิดจากแบคทีเรียเยื่อหุ้มสมองอักเสบ nonbacterial ในผู้ป่วยที่ไม่ได้รับการรักษาด้วยยาต้านจุลชีพก่อน ในการศึกษาหนึ่งในผู้ป่วย 78 ห้องพร้อมด้วยเยื่อหุ้มสมองอักเสบเฉียบพลันที่ความเข้มข้นของน้ำไขสันหลังให้น้ำนมของ> 4.2 มิลลิโมล / ลิตรได้รับการพิจารณาว่าเป็นปัจจัยจำแนกเชิงบวกสำหรับแบคทีเรียเยื่อหุ้มสมองอักเสบ [22] ความไวของการทดสอบเป็น 96% ความจำเพาะเป็น 100% ค่าพยากรณ์บวกได้ 100% และค่าพยากรณ์เชิงลบเป็น 97% อย่างไรก็ตามแม้จะมีความไวสูงและบวกค่าพยากรณ์ความเข้มข้นของน้ำไขสันหลังแลคเตทในการวินิจฉัยโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบจากเชื้อแบคทีเรียผลโดยทั่วไปจะเชิญชมและให้ข้อมูลการวินิจฉัยเพิ่มเติมเล็ก ๆ น้อย ๆ นอกจากนี้ปัจจัยอื่น ๆ (เช่นการขาดออกซิเจนในสมอง / ขาดเลือด anaerobic glycolysis ประนีประนอมหลอดเลือดและการเผาผลาญของเซลล์เม็ดเลือดขาว CSF) ก็อาจยกระดับความเข้มข้นของน้ำนมน้ำไขสันหลัง ดังนั้นการวัดความเข้มข้นของน้ำนม CSF ไม่แนะนำสำหรับผู้ป่วยที่มีสงสัยว่าชุมชนที่ได้มาเยื่อหุ้มสมองอักเสบจากเชื้อแบคทีเรีย (D-III) อย่างไรก็ตามการวัดความเข้มข้นของน้ำนมน้ำไขสันหลังพบว่าจะดีกว่าที่จะใช้ของอัตราส่วนของน้ำไขสันหลังเพื่อน้ำตาลในเลือดสำหรับการวินิจฉัยของเยื่อหุ้มสมองอักเสบจากเชื้อแบคทีเรียในผู้ป่วยศัลยกรรมประสาทหลังการผ่าตัดซึ่งในความเข้มข้นของน้ำไขสันหลัง 4.0 มิลลิโมล / ลิตรถูกนำมาใช้เป็นค่าตัดสำหรับ การวินิจฉัยโรค [23] ความไวเป็น 88% ความจำเพาะเป็น 98% ค่าพยากรณ์บวกเป็น 96% และค่าพยากรณ์เชิงลบเป็น 94% ความเข้มข้นของน้ำไขสันหลังให้น้ำนมอาจจะมีคุณค่าในกลุ่มย่อยของผู้ป่วยในผู้ที่ CSF ปกติผลการวิจัยยกระดับนับ WBC (ค่าทั้งหมด) ผลการย้อมสีแกรมบวกความเข้มข้นของน้ำตาลกลูโคสลดลงและโปรตีนสูงความเข้มข้น-มีค่าที่มีความสำคัญไม่เฉพาะเจาะจงได้อย่างน่าเชื่อถือแยกแยะความแตกต่าง ที่เกิดจากแบคทีเรียกลุ่มอาการของโรคเยื่อหุ้มสมอง nonbacterial ดังนั้นในผู้ป่วยศัลยกรรมประสาทหลังการผ่าตัด, การเริ่มต้นของการรักษาด้วยยาต้านจุลชีพเชิงประจักษ์ควรพิจารณาถ้าความเข้มข้นของน้ำไขสันหลังให้น้ำนมมี⩾4.0มิลลิโมล / L ผลลัพธ์ที่รอดำเนินการศึกษาเพิ่มเติม (B-II)