Asperger’s Syndromebikeboy1HistoryA

Asperger’s Syndrome

bikeboy1

History

Asperger’s syndrome (also known as Asperger’s Disorder) was first described in the 1940s by Viennese pediatrician Hans Asperger, who observed autism-like behaviors and difficulties with social and communication skills in boys who had normal intelligence and language development. Many professionals felt Asperger’s syndrome was simply a milder form of autism and used the term “high-functioning autism” to describe these individuals. Uta Frith, a professor at the Institute of Cognitive Neuroscience of University College London and editor of Autism and Asperger Syndrome, describes individuals with Asperger’s as “having a dash of autism.”

Asperger’s Disorder was added to the American Psychiatric Association’s Diagnostic and Statistical Manual of Mental Disorders (DSM-IV) in 1994 as a separate disorder from autism. However, there are still many professionals who consider Asperger’s Disorder a less severe form of autism. In 2013, the DSM-5 replaced Autistic Disorder, Asperger’s Disorder and other pervasive developmental disorders with the umbrella diagnosis of autism spectrum disorder.

Characteristics

What distinguishes Asperger’s Disorder from classic autism are its less severe symptoms and the absence of language delays. Children with Asperger’s Disorder may be only mildly affected, and they frequently have good language and cognitive skills. To the untrained observer, a child with Asperger’s Disorder may just seem like a neurotypical child behaving differently.

Children with autism are frequently viewed as aloof and uninterested in others. This is not the case with Asperger’s Disorder. Individuals with Asperger’s Disorder usually want to fit in and have interaction with others, but often they don’t know how to do it. They may be socially awkward, not understand conventional social rules or show a lack of empathy. They may have limited eye contact, seem unengaged in a conversation and not understand the use of gestures or sarcasm.

Their interests in a particular subject may border on the obsessive. Children with Asperger’s Disorder often like to collect categories of things, such as rocks or bottle caps. They may be proficient in knowledge categories of information, such as baseball statistics or Latin names of flowers. They may have good rote memory skills but struggle with abstract concepts.

One of the major differences between Asperger’s Disorder and autism is that, by definition, there is no speech delay in Asperger’s. In fact, children with Asperger’s Disorder frequently have good language skills; they simply use language in different ways. Speech patterns may be unusual, lack inflection or have a rhythmic nature, or may be formal, but too loud or high-pitched. Children with Asperger’s Disorder may not understand the subtleties of language, such as irony and humor, or they may not understand the give-and-take nature of a conversation.

Another distinction between Asperger’s Disorder and autism concerns cognitive ability. While some individuals with autism have intellectual disabilities, by definition, a person with Asperger’s Disorder cannot have a “clinically significant” cognitive delay, and most possess average to above-average intelligence.

While motor difficulties are not a specific criterion for Asperger’s, children with Asperger’s Disorder frequently have motor skill delays and may appear clumsy or awkward.

Diagnosis

Diagnosis of Asperger’s Disorder has increased in recent years, although it is unclear whether it is more prevalent or more professionals are detecting it. When Asperger’s and autism were considered separate disorders under the DSM-IV, the symptoms for Asperger’s Disorder were the same as those listed for autism; however, children with Asperger’s do not have delays in the area of communication and language. In fact, to be diagnosed with Asperger’s, a child must have normal language development as well as normal intelligence. The DSM-IV criteria for Asperger’s specified that the individual must have “severe and sustained impairment in social interaction, and the development of restricted, repetitive patterns of behavior, interests and activities that must cause clinically significant impairment in social, occupational or other important areas of functioning.”

The first step to diagnosis is an assessment, including a developmental history and observation. This should be done by medical professionals experienced with autism and other PDDs. Early diagnosis is also important as children with Asperger’s Disorder who are diagnosed and treated early in life have an increased chance of being successful in school and eventually living independently.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ของสเปอร์เจอร์bikeboy1ประวัติครั้งแรกของสเปอร์เจอร์ (หรือที่เรียกว่าโรคของ Asperger) ถูกอธิบายในทศวรรษ 1940 โดย โดยกุมารชาญฮันส์ Asperger ผู้สังเกตพฤติกรรมคล้ายโรคออทิซึมและความยากลำบากกับทักษะทางสังคมและการสื่อสารในเด็กผู้ชายที่มีการพัฒนาสติปัญญาและภาษาปกติ ผู้เชี่ยวชาญหลายความรู้สึกของสเปอร์เจอร์มีเพียงแบบฟอร์มพะแนงของโรคออทิซึม และใช้ในคำว่า "ทำงานสูงโรคออทิซึม" เพื่ออธิบายถึงบุคคลเหล่านี้ ฟริธโนะอุตะ อาจารย์ที่สถาบันรับรู้ประสาทวิทยาศาสตร์ของมหาวิทยาลัยวิทยาลัยลอนดอนและแก้ไขของโรคออทิซึมและสเปอร์เจอร์ อธิบายถึงบุคคลที่ มีของ Asperger "มีเส้นประของโรคออทิซึม"ของ Asperger โรคมีเพิ่มการวินิจฉัยของสมาคมจิตแพทย์อเมริกันและสถิติด้วยตนเองของจิตผิดปกติ (DSM-IV) ในปี 1994 เป็นโรคแยกจากโรคออทิซึม อย่างไรก็ตาม ยังมีผู้เชี่ยวชาญจำนวนมากที่พิจารณาโรค Asperger เป็นแบบไม่รุนแรงของโรคออทิซึม ในปี 2013, DSM-5 แทน โรค Autistic โรคของ Asperger และโรคอื่น ๆ พัฒนาชุมชนที่แพร่หลาย ด้วยร่มการวินิจฉัยของโรคโรคออทิซึมสเปคตรัมลักษณะที่แตกต่างของ Asperger โรคจากโรคออทิซึมคลาสสิกมีอาการรุนแรงน้อยกว่าและการขาดงานของภาษาความล่าช้า เด็ก Asperger ของโรคอาจมีผลเฉพาะ mildly และพวกเขามักจะมีภาษาที่ดีและทักษะการรับรู้ การแหล่งฝึกฝน เด็กที่ มีโรคของ Asperger อาจเพียงเหมือนเด็ก neurotypical ศีลธรรมแตกต่างกันเด็กโรคออทิซึมมักจะดูอยู่ห่าง ๆ และ uninterested ในคนอื่น นี่ไม่ใช่กรณีที่ มีโรคของ Asperger บุคคลที่ มีโรคของ Asperger จะต้องพอดี และมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น แต่มักจะไม่ทราบวิธีการทำมัน พวกเขาอาจตกใจสังคม ไม่เข้าใจกฎธรรมดาสังคม หรือแสดงการขาดความเอาใจใส่ พวกเขาอาจมีจำกัดตา ดู unengaged ในการสนทนา และไม่เข้าใจการใช้ท่าทางหรือประชดประชันกันความสนใจในเรื่องใดอาจเส้นขอบบน obsessive เด็ก Asperger ของโรคมักจะต้องการรวบรวมหมวดหมู่ของสิ่งต่าง ๆ เช่นหิน หรือขวดฝา พวกเขาอาจมีความเชี่ยวชาญในความรู้ประเภทของข้อมูล เช่นสถิติเบสบอลหรือละตินชื่อดอกไม้ พวกเขาอาจมีหน่วยความจำอาจดีทักษะแต่ต่อสู้กับแนวคิดนามธรรมหนึ่งความแตกต่างสำคัญระหว่างของ Asperger โรคโรคออทิซึมเป็น โดยคำจำกัดความ มีว่าไม่เลื่อนเสียงของ Asperger ในความเป็นจริง เด็ก Asperger ของโรคมักจะมีทักษะภาษาที่ดี พวกเขาเพียงแค่ใช้ภาษาในลักษณะต่าง ๆ รูปแบบเสียงอาจจะผิดปกติ ขาดการผันคำ หรือมีธรรมชาติจังหวะ หรืออาจจะเป็น ทาง แต่เกินไปเสียงดัง หรือ high-pitched เด็ก Asperger ของโรคอาจไม่เข้าใจรายละเอียดอื่นของภาษา ประชดและอารมณ์ขัน หรือพวกเขาอาจไม่เข้าใจธรรมชาติ give-and-take ของการสนทนาอีกความแตกต่างระหว่างโรคและโรคออทิซึมเป็น Asperger เกี่ยวข้องกับความสามารถในการรับรู้ ในขณะที่บางคน มีโรคออทิซึมมีความพิการทางปัญญา นิยาม บุคคลที่ มีโรคของ Asperger ไม่มีเลื่อนรับรู้ "สำคัญทางคลินิก" และมีปัญญาโดยเฉลี่ยจะสูงกว่าค่าเฉลี่ยมากที่สุดปัญหามอเตอร์ไม่ มี เกณฑ์เฉพาะสำหรับของ Asperger เด็ก Asperger ของโรคมักมีทักษะมอเตอร์ความล่าช้า และอาจปรากฏป้ำ ๆ หรือตกใจการวินิจฉัยวินิจฉัยโรค Asperger ของได้เพิ่มขึ้นในปีที่ผ่านมา แม้ว่ามันไม่ชัดเจนไม่ว่าจะเป็นแพร่หลายมากขึ้น หรือเพิ่มเติมผู้เชี่ยวชาญจะตรวจ เมื่อเป็น Asperger และโรคออทิซึมถูกพิจารณาแยกโรคภายใต้ DSM-IV อาการในโรค Asperger ของได้เหมือนกับที่แสดงในโรคออทิซึม อย่างไรก็ตาม เด็ก Asperger ของได้ล่าช้าในการสื่อสารและภาษา ในความเป็นจริง การได้รับการวินิจฉัย Asperger ของ เด็กต้องพัฒนาภาษาปกติเป็นปกติปัญญา เกณฑ์ของ DSM-IV สำหรับของ Asperger ระบุว่า แต่ละคนต้องมี "รุนแรง และ sustained ผลในสังคม และการพัฒนาจำกัด ซ้ำรูปแบบของลักษณะการทำงาน สถานที่ และกิจกรรมที่ต้องทำให้เกิดผลอย่างมีนัยสำคัญทางคลินิกในพื้นที่สำคัญทางสังคม อาชีพ หรืออื่น ๆ ทำงาน"The first step to diagnosis is an assessment, including a developmental history and observation. This should be done by medical professionals experienced with autism and other PDDs. Early diagnosis is also important as children with Asperger’s Disorder who are diagnosed and treated early in life have an increased chance of being successful in school and eventually living independently.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

Asperger 's Syndrome bikeboy1 ประวัติของโรค Asperger (หรือเรียกว่าความผิดปกติของ Asperger) เป็นครั้งแรกในปี 1940 โดยกุมารแพทย์เวียนนา Hans Asperger ที่สังเกตพฤติกรรมออทิสติกเหมือนและความยากลำบากกับสังคมและทักษะการสื่อสารในเด็กผู้ชายที่มีสติปัญญาปกติและการพัฒนาภาษา ผู้เชี่ยวชาญหลายคนรู้สึกว่าโรค Asperger เป็นเพียงรูปแบบอ่อนโยนของออทิสติกและใช้คำว่า "ออทิสติกทำงานสูง" เพื่ออธิบายบุคคลเหล่านี้ Uta Frith ศาสตราจารย์ที่สถาบันประสาทองค์ของมหาวิทยาลัยคอลเลจลอนดอนและบรรณาธิการของออทิสติกและโรค Asperger อธิบายบุคคลที่มี Asperger ว่า "มีเส้นประของออทิสติก." ความผิดปกติของ Asperger 's ถูกบันทึกอยู่ในสมาคมจิตแพทย์อเมริกันคู่มือการวินิจฉัยและสถิติของการเกิด ผิดปกติทางจิต (DSM-IV) ในปี 1994 เป็นความผิดปกติที่แยกต่างหากจากออทิสติก แต่ยังคงมีหลายคนที่ผู้เชี่ยวชาญด้านการพิจารณาความผิดปกติของ Asperger ของรูปแบบที่รุนแรงน้อยกว่าของออทิสติก ในปี 2013 DSM-5 ความผิดปกติของออทิสติกแทนที่, ความผิดปกติของ Asperger และความผิดปกติของการพัฒนาอื่น ๆ ที่แพร่หลายกับการวินิจฉัยร่มของออทิสติกสเปกตรัมความผิดปกติ. ลักษณะความผิดปกติของสิ่งที่แตกต่างจาก Asperger ออทิสติกคลาสสิกที่มีอาการรุนแรงน้อยลงและการขาดความล่าช้าภาษา เด็กที่มีความผิดปกติของ Asperger อาจจะได้รับผลกระทบเพียงเล็กน้อยและพวกเขามักจะมีภาษาที่ดีและทักษะการเรียนรู้ เพื่อสังเกตการณ์ได้รับการฝึกฝนเป็นเด็กที่มีความผิดปกติของ Asperger เพียงอาจดูเหมือนเด็กมีพฤติกรรมที่แตกต่างกัน neurotypical. เด็กออทิสติกจะดูบ่อยห่างและไม่สนใจในคนอื่น ๆ กรณีนี้ไม่ได้มีความผิดปกติของ Asperger บุคคลที่มีความผิดปกติของ Asperger 's มักจะต้องการที่จะใส่ในและมีปฏิสัมพันธ์กับคนอื่น ๆ แต่พวกเขามักจะไม่ทราบวิธีการที่จะทำมัน พวกเขาอาจจะอึดอัดใจที่สังคมไม่เข้าใจกฎระเบียบทางสังคมธรรมดาหรือแสดงการขาดความเอาใจใส่ พวกเขาอาจจะมีการติดต่อตา จำกัด ดูเหมือน unengaged ในการสนทนาและไม่เข้าใจการใช้ท่าทางหรือถากถาง. ผลประโยชน์ของพวกเขาในเรื่องใดเรื่องหนึ่งอาจชายแดนในครอบงำ เด็กที่มีความผิดปกติของ Asperger มักจะชอบที่จะเก็บรวบรวมประเภทของสิ่งเช่นหินหรือฝาขวด พวกเขาอาจจะมีความเชี่ยวชาญในประเภทความรู้เกี่ยวกับข้อมูลเช่นสถิติเบสบอลหรือชื่อภาษาละตินของดอกไม้ พวกเขาอาจมีทักษะความทรงจำที่ดี แต่ท่องจำต่อสู้กับแนวคิดที่เป็นนามธรรม. หนึ่งในความแตกต่างที่สำคัญระหว่างความผิดปกติของ Asperger และออทิสติกคือว่าโดยความหมายมีความล่าช้าในการพูด Asperger ไม่มี ในความเป็นจริงเด็กที่มีความผิดปกติของ Asperger 's มักมีทักษะการใช้ภาษาที่ดี พวกเขาก็ใช้ภาษาในรูปแบบที่แตกต่างกัน รูปแบบการพูดอาจจะผิดปกติโรคติดเชื้อขาดหรือมีลักษณะเป็นจังหวะหรืออาจจะเป็นอย่างเป็นทางการ แต่เสียงดังมากเกินไปหรือแหลมสูง เด็กที่มีความผิดปกติของ Asperger 's อาจจะไม่เข้าใจรายละเอียดปลีกย่อยของภาษาเช่นประชดและอารมณ์ขันหรือพวกเขาอาจจะไม่เข้าใจให้และใช้ธรรมชาติของการสนทนา. ความแตกต่างระหว่างความผิดปกติของ Asperger ของออทิสติกและความกังวลความสามารถทางปัญญาอีก ในขณะที่บางคนออทิสติกที่มีความพิการทางปัญญาโดยนิยามคนที่มีความผิดปกติของ Asperger 's ไม่สามารถมี "นัยสำคัญทางคลินิก" ล่าช้าองค์ความรู้และส่วนใหญ่มีค่าเฉลี่ยความฉลาดสูงกว่าค่าเฉลี่ย. ในขณะที่ความยากลำบากมอเตอร์ไม่ได้เป็นเกณฑ์ที่เฉพาะเจาะจงสำหรับ Asperger ของเด็กที่มี ความผิดปกติของ Asperger 's มักมีความล่าช้าทักษะยนต์และอาจปรากฏเงอะงะหรืออึดอัด. วินิจฉัยการวินิจฉัยความผิดปกติของ Asperger ได้ที่เพิ่มขึ้นในปีที่ผ่านมาถึงแม้ว่ามันจะไม่ชัดเจนไม่ว่าจะเป็นมืออาชีพที่แพร่หลายมากขึ้นหรือมากขึ้นมีการตรวจสอบมัน เมื่อ Asperger และออทิสติกได้รับการพิจารณาความผิดปกติที่แยกจากกันภายใต้ DSM-IV อาการผิดปกติสำหรับ Asperger ของคนเช่นเดียวกับที่ระบุไว้สำหรับออทิสติก; แต่เด็กที่มี Asperger 's ไม่ได้มีความล่าช้าในพื้นที่ของการสื่อสารและการใช้ภาษา ในความเป็นจริงที่จะได้รับการวินิจฉัยที่มี Asperger ของเด็กจะต้องมีการพัฒนาภาษาปกติเช่นเดียวกับหน่วยสืบราชการลับตามปกติ เกณฑ์ DSM-IV สำหรับ Asperger 's ที่ระบุว่าบุคคลที่ต้องมี "การด้อยค่าอย่างรุนแรงและต่อเนื่องในการปฏิสัมพันธ์ทางสังคมและการพัฒนา จำกัด รูปแบบซ้ำ ๆ ของพฤติกรรมความสนใจและกิจกรรมที่จะต้องทำให้เกิดการด้อยค่าอย่างมีนัยสำคัญทางคลินิกในสังคมการงานหรือพื้นที่ที่สำคัญอื่น ๆ ในการทำงาน. " ขั้นตอนแรกในการวินิจฉัยคือการประเมินรวมถึงประวัติศาสตร์การพัฒนาและการสังเกต นี้ควรจะทำโดยผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ที่มีประสบการณ์กับออทิสติกและ PDDs อื่น ๆ วินิจฉัยเป็นสิ่งที่สำคัญเป็นเด็กที่มีความผิดปกติของ Asperger ของผู้ที่ได้รับการวินิจฉัยและรับการรักษาในช่วงต้นชีวิตมีโอกาสที่เพิ่มขึ้นของการประสบความสำเร็จในโรงเรียนและการใช้ชีวิตในที่สุดก็เป็นอิสระ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

อาการ Asperger ' s





bikeboy1 ประวัติศาสตร์ Asperger ของซินโดรม ( หรือที่เรียกว่าโรค Asperger ' s ) เป็นคนแรกที่อธิบายไว้ในยุค 40 โดยเวียนนา Hans Asperger ออทิสติก กุมารแพทย์ ผู้สังเกต เช่น พฤติกรรมและปัญหากับสังคม และมีทักษะในการสื่อสาร เด็กที่มีสติปัญญาปกติ และพัฒนาการทางภาษาผู้เชี่ยวชาญหลายคนรู้สึกอาการ Asperger ' s เป็นเพียงรูปแบบของออทิสติก พะแนง และใช้คำว่า " การทำงานสูงโรคออทิซึม " หมายความว่า บุคคลเหล่านี้ ทา ฟริท เป็นศาสตราจารย์ที่สถาบันประสาทวิทยาศาสตร์ปริชานของมหาวิทยาลัยคอลเลจ ลอนดอนและบรรณาธิการของโรคออทิซึม และกลุ่มอาการไคลน์เฟลเตอร์ อธิบายบุคคลกับ Asperger ' s " ที่มีเส้นประของออทิสติก "

โรค Asperger ' s มีการเพิ่มของสมาคมจิตเวชอเมริกันЃ ( dsm-iv ) ในปี 1994 เป็น แยก จากความผิดปกติของออทิสติก . อย่างไรก็ตาม ยังคงมีหลายผู้เชี่ยวชาญพิจารณาโรค Asperger ' s รูปแบบที่รุนแรงน้อยกว่าของโรคออทิซึม ใน 2013 , dsm-5 แทนที่ออทิสติกความผิดปกติโรคและความผิดปกติในพัฒนาการอื่น ๆโรค Asperger ' s แพร่หลายกับร่มการวินิจฉัยของโรคออทิซึมสเปกตรัมโรค

3

สิ่งที่แตกต่างจากคลาสสิกออทิสติกโรค Asperger ' s มีน้อยลง อาการรุนแรง และการขาดงานของภาษาล่าช้า เด็กที่มีโรค Asperger ' s จะได้รับผลกระทบเพียงเล็กน้อย และพวกเขามักมีภาษาที่ดีและทักษะการคิดผู้สังเกตการณ์มือใหม่ เด็กที่มีโรค Asperger ' s อาจดูเหมือน neurotypical เด็กทำตัวแตกต่าง

เด็กออทิสติกมักมองว่าเป็นห่างและไม่ไยดีในผู้อื่น กรณีนี้ไม่ได้กับ Asperger ของโรค ผู้ที่มีโรค Asperger ' s มักจะต้องการที่จะพอดีและมีปฏิสัมพันธ์กับคนอื่น ๆแต่พวกเขามักจะไม่ทราบวิธีที่จะทำมันพวกเขาอาจจะไม่ค่อยเข้าสังคม ไม่ค่อยเข้าใจกฏของสังคมทั่วไป หรือแสดงการขาดการเอาใจใส่ พวกเขาอาจติดต่อกัดตา , ดู unengaged ในการสนทนา และเข้าใจการใช้ท่าทางหรือคำพูดประชด

ความสนใจในเรื่องใดเรื่องหนึ่งอาจชายแดนที่หมกมุ่น เด็กที่มีโรค Asperger ' s มักจะชอบเก็บประเภทของสิ่งต่างๆ เช่น หิน หรือฝาขวดพวกเขาอาจจะมีความรู้ประเภทของข้อมูล เช่น สถิติเบสบอลหรือชื่อภาษาละตินของดอกไม้ พวกเขาอาจมีทักษะการท่องจำหน่วยความจำ แต่ต่อสู้กับแนวคิดที่เป็นนามธรรม .

หนึ่งของความแตกต่างที่สำคัญระหว่างโรค Asperger ออทิสติกและคือโดยนิยามไม่มีการพูดล่าช้าใน Asperger ' s . ในความเป็นจริงเด็กที่มีโรค Asperger ' s มักมีทักษะภาษาที่ดี พวกเขาเพียงแค่ใช้ภาษาในวิธีที่แตกต่างกัน รูปแบบการพูดอาจจะผิดปกติ ขาดการผันคำหรือมีลักษณะเป็นจังหวะหรืออาจจะธรรมดา แต่ดังเกินไปหรือสูงแหลม เด็กที่มีโรค Asperger ' s จะไม่เข้าใจความละเอียดอ่อนของภาษา เช่น การประชด และอารมณ์ขันหรือพวกเขาอาจจะไม่ เข้าใจ ให้และรับธรรมชาติของการสนทนา

แยกระหว่าง Asperger ออทิสติกความผิดปกติเกี่ยวกับปัญญาและความสามารถ ในขณะที่บางคนออทิสติกมีความบกพร่องทางสติปัญญา โดยนิยาม คนที่มีโรค Asperger ' s ไม่สามารถมี " ในความหมาย " การล่าช้า และส่วนใหญ่มีคะแนนเหนือสติปัญญาเฉลี่ย

ในขณะที่มอเตอร์ยากไม่ใช่เกณฑ์ที่เฉพาะเจาะจงเพื่อโรค Asperger ' s , เด็กกับ Asperger ' s โรคมักมีความล่าช้าทักษะมอเตอร์และอาจปรากฏเงอะงะหรืออึดอัด



การวินิจฉัยการวินิจฉัยของโรค Asperger ' s มีเพิ่มขึ้นในปีล่าสุด แต่ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่ามันเป็นอาชีพที่แพร่หลายมากขึ้นหรือมากกว่าการตรวจสอบมันเมื่อพิจารณาแยกเป็น Asperger ออทิสติกและความผิดปกติใน dsm-iv , อาการโรค Asperger ' s เป็นเช่นเดียวกับที่ระบุไว้สำหรับออทิสติก แต่ลูกกับ Asperger ' s ไม่ได้มีความล่าช้าในพื้นที่ของการสื่อสารและภาษา ในความเป็นจริงจะได้รับการวินิจฉัยกับโรค Asperger ' s , เด็กต้องพัฒนาภาษาปกติ ตลอดจนสติปัญญาปกติการ dsm-iv เกณฑ์ Asperger ' s ระบุว่า แต่ละคนต้องมี " รุนแรงและได้รับการในการปฏิสัมพันธ์ทางสังคม และการพัฒนา จำกัด รูปแบบที่พฤติกรรม ความสนใจ และกิจกรรมที่ต้องให้ความบกพร่องในการเข้าสังคม หรือพื้นที่ที่สำคัญอื่น ๆของการทำงาน "

ขั้นตอนแรกเพื่อการวินิจฉัย คือ การประเมินรวมถึงประวัติพัฒนาการ และการสังเกต นี้ควรทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ pdds ออทิสติกและอื่น ๆ วินิจฉัยเป็นสำคัญ เป็นเด็กที่มีโรค Asperger ' s ที่ได้รับการวินิจฉัยและรักษาได้เร็ว ในชีวิตมีโอกาสเพิ่มขึ้นของการประสบความสำเร็จในโรงเรียนและในที่สุดการใช้ชีวิตอย่างอิสระ