Before Bangkok became the capital o

Before Bangkok became the capital of Thailand in 1782 and the center of Thai government, many city-states formed loosely organized principalities. Military might determined which state was ruler within the larger area.
In order to unify the Thai states into a unitary nation, government officials and the Thai people requested by invatation Phra Buddha Yodea Chulaloke to become the first king of the Chakri period and became known as King Rama I.

Ayuthia at the time was virtuly completely destroyed by constant attacks from the Burmese. The Palace was then located in Thonburi and stood in a bend of the Chao Phraya river and was threatened by erosion. It was also sandwiched between two monistaries so extending its precints were not possible. Thus King Rama I moved the palace to a more strategic site across the river where it stands today. The raising of the city pillar took place on the 21st of April, 1782 at 6:45 AM.

King Chulaloke ordered that a moat be dug at a distance of 2 kilometers from the Royal Palace and 7.2 kilometers long. This moat today is called Klong Bang Lamphu and Klong Ong Ang leaving the river to the north of the city and rejoining it in the south. Strong and solid walls were then constructed along the inner side of the moat being 3.6 meters high and 2.7 meters thick broken by 16 gates and 16 forts. two of the forts remain today as historic monuments along with 200 meters of the wall, namely, Fort Mahakan and Fort Phrasumen.

One of the Kings important duties is to promote Buddhism along with enccouraging the other religions of his people. Thus the the renovation of the old temples and building of new ones have been the characteristic tradition of the Kingdom and her society up to the present day. The history of Bangkok is depected in her all important palaces, temples, building, and monuments.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ก่อนที่กรุงเทพฯ กลายเป็น เมืองหลวงของไทยใน 1782 และศูนย์กลางของรัฐบาล city-states หลายก่อตั้งราชรัฐซึ่งจัด กำลังกำหนดสถานะที่ถูกไม้บรรทัดภายในพื้นที่ขนาดใหญ่เพื่อรวมรัฐไทยเข้าประเทศ unitary รัฐบาล ข้าราชการและคนไทยที่ร้องขอ โดย invatation พระพุทธเจ้า Yodea จุฬาเป็น กษัตริย์องค์แรกของจักรี และกลายเป็นว่าพระรามฉันAyuthia เวลาถูก virtuly วอด โดยโจมตีคงจากพม่า ถูก แล้วอยู่ในธนบุรี และยืนอยู่ในส่วนโค้งของแม่น้ำเจ้าพระยา และถูกคุกคาม โดยการพังทลาย ยังได้ถูกชาวลาวอระหว่างสอง monistaries เพื่อขยายของ precints ไม่ได้ ดังนั้น พระรามผมย้ายวังไปเชิงกลยุทธ์มากขึ้นข้ามแม่น้ำที่มันยืนอยู่ในปัจจุบัน ยกเสาหลักเมืองเกิดขึ้นในที่ 21 ของเดือนเมษายน 1782 ที่ 6:45 AMพระจุฬาสั่งว่า คูที่จะขุดในระยะทาง 2 กิโลเมตร จากพระบรมมหาราชวัง และ 7.2 กิโลเมตร คูนี้ปัจจุบันเรียกว่าคลองบางลำภูและคลองอ่างทองอ๋องออกแม่น้ำทางเหนือของเมือง และเข้าร่วมใหม่ในภาคใต้ ผนังทึบ และแข็งแรงขึ้น แล้วสร้างด้านข้างด้านในของคูเมืองกำลังสูง 3.6 เมตร และ 2.7 เมตรหนาเสีย 16 ประตูและป้อมปราการที่ 16 สองของป้อมปราการยังคงวันนี้เป็นอนุสาวรีย์ทางประวัติศาสตร์กับ 200 เมตรผนัง ได้แก่ Mahakan ป้อมและป้อม Phrasumenหนึ่งในหน้าที่สำคัญของพระมหากษัตริย์จะส่งเสริมพระพุทธศาสนาพร้อมกับ enccouraging ศาสนาประชากรของพระองค์ ดังนั้นการบูรณะวัดเก่าและอาคารใหม่ได้รับลักษณะประเพณีของสังคมจนถึงปัจจุบันและราชอาณาจักร ประวัติความเป็นมาของกรุงเทพมหานคร depected เธอสำคัญพระราชวัง วัด อาคาร และอนุสาวรีย์ได้

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ก่อนกรุงเทพเป็นเมืองหลวงของประเทศไทยใน 1782 และศูนย์กลางของรัฐบาลสหรัฐ หลายเมืองมีอาณาเขตที่จัดอย่างหลวม ๆ ทหารอาจจะพิจารณา ซึ่งรัฐเป็นผู้ครอบครอง ภายในมีพื้นที่ .
เพื่อรวมกันเป็นประเทศที่แสดงให้เห็นว่ารัฐไทย ,ข้าราชการและประชาชนไทยร้องขอ โดย invatation พระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช yodea กลายเป็นกษัตริย์องค์แรกของระยะเวลาฯ และกลายเป็นที่รู้จักในฐานะรัชกาลที่ฉัน

ayuthia ตอน virtuly ทำลายโดยค่าคงที่การโจมตีจากพม่า วังก็อยู่ในกรุงธนบุรี และ ยืน เป็น โค้งของแม่น้ำเจ้าพระยา และถูกคุกคามจากการกัดเซาะเป็นแซนวิชระหว่างสอง monistaries ดังนั้นการขยาย precints ไม่ได้ . ดังนั้นรัชกาลที่ย้ายพระราชวังไปมากกว่ากลยุทธ์เว็บไซต์ข้ามแม่น้ำที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ การเพิ่มของศาลหลักเมืองเอาสถานที่วันที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2325 เวลา 6.45 น.

พระยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชรับสั่งคูเมืองเป็นขุดที่ระยะทาง 2 กิโลเมตร จาก พระราชวัง และ 7.2 กิโลเมตรนี้ปัจจุบันเรียกว่าคลองบางคู คลองโอ่งอ่างไปบางและแม่น้ำไปทางทิศเหนือของเมืองและจากมัน ในภาคใต้ แข็งแรงและผนังทึบถูกสร้างแล้วตามด้านในของคูเมืองเป็น 3.6 เมตร สูง 2.7 เมตร หนาเสีย 16 ประตู และ 16 ป้อม สองของป้อมยังคงในวันนี้เป็นอนุสาวรีย์ประวัติศาสตร์พร้อมกับ 200 เมตร ผนัง คือป้อมปราการ มหาขันธ์และป้อม phrasumen

หนึ่งของกษัตริย์ที่สำคัญหน้าที่คือการส่งเสริมพระพุทธศาสนา พร้อมกับ enccouraging ศาสนาอื่น ๆของผู้คนของเขา ดังนั้นปรับปรุงวัดเก่า และอาคารใหม่ได้รับการประเพณีลักษณะของอาณาจักรของเธอและสังคมขึ้น มาจนถึงปัจจุบัน ประวัติศาสตร์ของกรุงเทพฯ depected ในทั้งหมดของเธอสำคัญ พระราชวัง วัด อาคารและอนุสาวรีย์