Current thermal comfort theories an

Current thermal comfort theories and standards are mainly concerned with people in waking state. The effects of air temperature on sleep quality and thermal comfort of sleeping people were investigated in this study by experimenting on human subjects. Sleep quality was evaluated by subjective questionnaires performed in the morning as well as electroencephalogram (EEG) signals, which were continuously recorded during the all-night sleep period. Subjective assessments on thermal comfort were performed both before and after sleep. Analysis on EEG signals indicated that the subjects took longer time to fall asleep and experienced shorter period of slow wave sleep (SWS) when the room temperatures moderately deviated from neutral.

Consistently, they reported poorer subjective sleep quality in such conditions. The returned subjective questionnaires on thermal comfort from subjects reflected that the thermal comfort temperature was higher in sleep compared with that in waking state. Their skin temperatures were increased with air temperature and fluctuated during the sleeping period. In view of the distinctive requirements from waking people, it makes sense to study the thermal comfort of sleeping people. The results also have practical implications on energy savings in bedrooms.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ทฤษฎีความร้อนสิ่งปัจจุบันและมาตรฐานส่วนใหญ่กังวลกับคนที่อยู่ในสถานะตื่นมา ผลกระทบของอุณหภูมิของอากาศบนคุณภาพการนอนหลับ และพักร้อนนอนคนถูกสอบสวนในการศึกษานี้ โดยการทดสอบในอาสาสมัคร คุณภาพการนอนหลับซึ่งประกอบ ด้วยแบบสอบถามอัตนัยที่ดำเนินการในช่วงเช้าเช่นกันเป็นสัญญาณ electroencephalogram (EEG) ซึ่งต่อเนื่องบันทึกช่วงนอนหลับจำนวนคืน ประเมินอัตนัยบนความร้อนจึงดำเนินการทั้งก่อน และ หลังการนอนหลับ วิเคราะห์สัญญาณ EEG แสดงว่า วัตถุเอาเวลานานไปตกนอนหลับ และมีประสบการณ์ลดระยะคลื่นช้านอนหลับ (SWS) เมื่ออุณหภูมิห้องค่อนข้างแตกต่างออกไปจากกลาง อย่างต่อเนื่อง พวกเขารายงานคุณภาพการนอนหลับอัตนัยด้อยในเงื่อนไขดังกล่าว แบบสอบถามอัตนัยคืนสะดวกสบายความร้อนจากวัตถุที่สะท้อนว่า อุณหภูมิความร้อนจึงสูงกว่าเมื่อเทียบกับที่ในสถานะตื่นนอน อุณหภูมิผิวของพวกเขาเพิ่มขึ้นกับอุณหภูมิอากาศ และความผันผวนในช่วงเวลานอนหลับ มุมมองความต้องการแตกต่างจากคนตื่น มันทำให้รู้สึกการเรียนความร้อนนอนคน ผลยังมีผลทางปฏิบัติในการประหยัดพลังงานในห้องนอน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ปัจจุบันทฤษฎีความสะดวกสบายในการระบายความร้อนและมาตรฐานส่วนใหญ่จะเกี่ยวข้องกับคนในรัฐตื่น ผลของอุณหภูมิของอากาศที่มีต่อคุณภาพการนอนหลับและความสะดวกสบายในการระบายความร้อนของผู้คนนอนหลับถูกตรวจสอบในการศึกษาครั้งนี้โดยการทดลองในมนุษย์ คุณภาพการนอนหลับถูกประเมินโดยใช้แบบสอบถามอัตนัยดำเนินการในตอนเช้าเช่นเดียวกับอิเล็คโทร (EEG) สัญญาณที่ถูกบันทึกไว้อย่างต่อเนื่องในช่วงระยะเวลาการนอนหลับทุกคืน การประเมินผลอัตนัยกับความสะดวกสบายระบายความร้อนได้ดำเนินการทั้งก่อนและหลังการนอนหลับ การวิเคราะห์สัญญาณคลื่นไฟฟ้าสมองชี้ให้เห็นว่าวิชาที่ต้องใช้เวลานานในการนอนหลับและมีประสบการณ์ระยะเวลาที่สั้นของคลื่นช้านอนหลับ (SWS) เมื่ออุณหภูมิห้องเบี่ยงเบนปานกลางจากเป็นกลาง. อย่างต่อเนื่องพวกเขารายงานคุณภาพการนอนหลับอัตนัยยากจนในเงื่อนไขดังกล่าว กลับแบบสอบถามอัตนัยกับความสะดวกสบายความร้อนจากวิชาที่สะท้อนให้เห็นว่าอุณหภูมิความสะดวกสบายความร้อนสูงในการนอนหลับเมื่อเทียบกับที่อยู่ในสภาพตื่น อุณหภูมิที่ผิวของพวกเขาเพิ่มขึ้นกับอุณหภูมิของอากาศและความผันผวนในช่วงระยะเวลาการนอนหลับ ในมุมมองของความต้องการที่โดดเด่นจากคนตื่นก็จะทำให้ความรู้สึกที่จะศึกษาสภาวะน่าสบายของผู้คนนอนหลับ ผลยังมีผลกระทบต่อการปฏิบัติเกี่ยวกับการประหยัดพลังงานในห้องนอน