“ภาวะ เด็กนิยม” (Childism) หรือ การให้ความสำคัญกับเด็ก สำหรับประเทศไทยมีพัฒนาการของการคุ้มครองเด็กค่อนข้างมาก และให้ความดูแลเด็กมากกว่าในอดีต มีพัฒนาการที่รวดเร็วกว่าประเทศเพื่อนบ้านในภูมิภาคนี้ หรือแม้แต่ประเทศพัฒนาแล้วบางประเทศ หน่วยงานต่างๆ ที่ให้ความช่วยเหลือมีจำนวนมากสามารถให้ความช่วยเหลือเด็กได้ค่อนข้างทั่ว ถึง แต่การปรับเปลี่ยนเจตคติที่มีต่อเด็กในสังคมไทยอาจต้องใช้เวลาในการปรับ เปลี่ยนบ้าง
เจตคติของการใช้เด็กเป็นแรงงาน เป็นปัจจัยของการผลิต และเป็นทรัพย์สินของครอบครัวต้องมีการทบทวนและสร้างเจตคติที่มีต่อเด็ก หรือบุตรธิดาให้เหมาะสม นอกจากนั้นแบบแผนการเลี้ยงดูเด็กที่รับเอาวัฒนธรรมและค่านิยมต่างชาติเข้ามา ใช้เลี้ยงดูเด็กไทย ต้องมีการจัดระดับและระบบของค่านิยมพื้นฐานตามบริบทของสังคมไทย
การ ส่งเสริมให้เด็กกล้าแสดงออก มีความคิดสร้างสรรค์ ต้องมีการนิยามและกำหนดวิธีการที่เหมาะสมสำหรับเกณฑ์ที่ใช้สำหรับการตัดสิน คุณค่าของการแสดงออกและความคิดสร้างสรรค์ของเด็กไทยอย่างเหมาะสม
การ ศึกษาข้ามวัฒนธรรม (Cross-culture Studies) ถึงแม้จะมีความซับซ้อน แต่เป็นความจำเป็นสำหรับการพัฒนาประเทศในภาวะของการแข่งขัน การอยู่ร่วมกับประเทศเพื่อนบ้านอย่างผู้ที่รู้และเข้าใจพวกเขา เป็นความมั่นคงของประเทศ เป็นความมั่นใจของฝ่ายการเมือง และการสร้างความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจ
ซึ่งสิ่งเหล่านี้ต้องใช้เวลานาน ในการดำเนินการและต้องการผู้ที่มีคุณภาพสำหรับการทำภารกิจที่ต่อเนื่องและ ยาวนานนี้ และ “เด็กวันนี้” คือ ผู้ที่ต้องรับผิดชอบสำหรับอนาคตต่อไป การให้ความคุ้มครองป้องกันเด็กจากภัยต่าง ๆ ทั้งทางตรงและทางอ้อม พร้อมทั้งการสนับสนุนพัฒนาการเพื่อสมรรถนะสูงสุดของเด็กจึงเป็น “ความรับผิดชอบของผู้ใหญ่” ตลอดไป.