Flint claims that the ‘primary cond

Flint claims that the ‘primary condition’ for an audit is that there must be a relationship of accountability* between two parties arising explicitly by agreement or by some form of construction. This formulation is certainly an advance on Mautz and Sharaf and connects Flint’s thinking to that of agency theory. But whereas agency theory views the role of the auditor in an economically reductive way as a monitoring cost between two parties, Flint emphasizes the ethical as well as the economic dimension of audit practice. The auditor is not merely an economic agent but has a moral mission which must somehow be safeguarded – whether by regulation or otherwise. Although Flint considers the ‘economic or social benefit’ of the audit process, in contrast to agency theory, he regards this as a ‘postulate’ rather than an open empirical question.
(Michael Power, 1990: 72)

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

หินเหล็กไฟที่อ้างว่า เป็น 'เงื่อนไขหลัก' สำหรับการตรวจสอบว่า มีความสัมพันธ์ของความรับผิดชอบ * ระหว่างสองฝ่ายเกิดขึ้น โดยสัญญา หรือ โดยรูปแบบการก่อสร้างอย่างชัดเจน สูตรนี้เป็นการล่วงหน้า Mautz และมชะร็อฟ และเชื่อมต่อฟลินท์คิดของทฤษฎีตัวแทน แต่ในขณะที่ทฤษฎีตัวแทนมุมมองบทบาทของผู้สอบบัญชีในทางกล้าหาญอย่างประหยัดเป็นต้นทุนการตรวจสอบระหว่างสองฝ่าย หินเหล็กไฟเน้นจริยธรรมเป็นมิติทางเศรษฐกิจการปฏิบัติตรวจสอบ ผู้สอบบัญชีไม่ได้เป็นเพียงตัวแทนในทางเศรษฐกิจ แต่มีภารกิจทางศีลธรรมซึ่งต้องอย่างใดต้องคุ้มครองไม่ว่าจะ ด้วยกฎระเบียบ หรืออื่น ๆ แม้ว่าหินเหล็กไฟ 'เศรษฐกิจ หรือสังคมประโยชน์' ของกระบวนการตรวจสอบ ตรงข้ามกับทฤษฎีหน่วยงาน พิจารณาเขาพิจารณานี้เป็น 'postulate' มากกว่าคำถามเชิงประจักษ์ที่เปิด(ไมเคิลพลังงาน 1990:72)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ฟลินท์อ้างว่า 'เงื่อนไขหลักสำหรับการตรวจสอบคือการที่จะต้องมีความสัมพันธ์ของความรับผิดชอบ * ระหว่างสองฝ่ายที่เกิดขึ้นอย่างชัดเจนตามข้อตกลงหรือตามรูปแบบของการก่อสร้างบางส่วน สูตรนี้แน่นอนล่วงหน้า Mautz และ Sharaf และเชื่อมต่อความคิดของฟลินท์กับที่หน่วยงานของทฤษฎี แต่ในขณะที่ทฤษฎีหน่วยงานมุมมองบทบาทของผู้สอบบัญชีในทางที่ลดลงทางเศรษฐกิจเป็นค่าใช้จ่ายในการตรวจสอบระหว่างสองฝ่ายใน Flint เน้นจริยธรรมเช่นเดียวกับมิติทางเศรษฐกิจของการปฏิบัติงานตรวจสอบ ผู้สอบบัญชีไม่ได้เป็นเพียงตัวแทนทางเศรษฐกิจ แต่มีภารกิจทางศีลธรรมซึ่งจะต้องได้รับการปกป้องอย่างใด - ไม่ว่าจะโดยการควบคุมหรืออื่น ๆ แม้ว่า Flint พิจารณาทางเศรษฐกิจหรือสังคมได้รับประโยชน์ของกระบวนการตรวจสอบในทางตรงกันข้ามกับทฤษฎีหน่วยงานนี้เขานับถือเป็น 'สมมุติ' แทนที่จะเป็นคำถามเชิงประจักษ์เปิด.
(ไมเคิลพาวเวอร์, 1990: 72)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ฟลิ้นท์ อ้างว่าหลัก " เงื่อนไข " เพื่อตรวจสอบว่า จะต้องมีความสัมพันธ์ที่น่าเชื่อถือ * ระหว่างสองฝ่ายเกิดขึ้นอย่างชัดเจน โดยมีข้อตกลง หรือบางรูปแบบของการก่อสร้าง สูตรนี้แน่นอนเป็นล่วงหน้าและ mautz ชาราฟและเชื่อมต่อของฟลินท์คิดของทฤษฎีตัวแทน แต่ในขณะที่ทฤษฎีตัวแทนความคิดเห็นบทบาทของผู้สอบบัญชีในการตรวจสอบซึ่งเป็นวิธีประหยัดค่าใช้จ่ายระหว่างสองฝ่าย ฟลินท์ เน้นจริยธรรม ตลอดจนมิติทางเศรษฐกิจของการตรวจสอบ ผู้สอบบัญชีไม่ได้เป็นเพียงตัวแทนทางเศรษฐกิจ แต่มีภารกิจทางจริยธรรม ซึ่งก็จะต้องได้รับการปกป้อง และว่า โดยระเบียบ หรืออื่น ๆ แม้ว่า . . จะพิจารณา " ผลประโยชน์ " ทางเศรษฐกิจหรือทางสังคมของกระบวนการตรวจสอบ ในทางตรงกันข้ามกับทฤษฎีตัวแทน เขานับถือเป็นสัจพจน์ " " แทนที่จะเป็นคำถามเชิงประจักษ์เปิด( ไมเคิล พลังงาน , 1990 : 72 )