3.4. Yield, evapotranspiration (ET)

3.4. Yield, evapotranspiration (ET) and water use
efficiency (WUE)
Data showed a significance test by ANOVA analysis for Yield, ET
and WUE (Table 3). During the three experimental years, watermelon
yield was lowest for conventional ridge planting (treatment
7), which was significantly lower than that for flat gravel–sand
mulched field and RFRHS with plastic covered ridge. Yield was highest
for the RFRHS with 1:1 ridge furrow ratio, gravel–sand mulched
furrow and plastic mulch on the entire surface (treatment 2). This
indicated that gravel–sand mulch, assisted with plastic film, certainly
resulted in yield improvement. However, this effect varied
with different ratio of ridge:furrow. The ratio of 1:1 was the best,
followed by 5:3 ratio and 4:3 ratio in decreasing order. In addition,
the yield for RFRHS with plastic mulched ridge was significantly
higher than that without plastic mulch (treatment 2, or 3, or 4, or 6
vs. 5). The yield effect of RFRHS with plastic mulch was greater than
conventional ridge planting (treatment 6 vs. 7), but it was smaller
than RFRHS with gravel–sand mulched furrow and plastic mulched
ridge (treatment 6 vs. 2, or 3, or 4).
Rainfall varied during the three trial years and resulted in different
evapotranspiration (ET) amounts (Table 3). Compared with
each pair of same treatments between 2007 and 2009, reductions
in ET ranged from 37 mm to 107 mm, with a minimum ET value in
all treatments in 2009 due to lower rainfall. Among the treatments,
ET was the lowest for the conventional ridge planting in all three
years, and it was second lowest for RFRHS with plastic mulched
furrow and ridge. The three-year average ET decreased as the ratio
of ridge:furrow increased. In the three years, ET was highest for flat
gravel–sand mulched field plus irrigation, especially in 2007 and
2008, when it was significantly higher than all other treatments.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

3.4. yield, evapotranspiration (ET) และการใช้น้ำประสิทธิภาพ (WUE)ข้อมูลพบว่าการทดสอบนัยสำคัญ โดยวิเคราะห์ ANOVA สำหรับผลผลิต ETและ WUE (ตาราง 3) ปีสามทดลอง แตงโมผลผลิตได้ต่ำสุดสำหรับธรรมดาริดจ์ปลูก (รักษา7), ซึ่งเป็นนัยสำคัญต่ำกว่าแบนกรวดทรายฟิลด์ mulched และ RFRHS มีพลาสติกคลุมริดจ์ ผลผลิตได้สูงสุดสำหรับ RFRHS อัตราส่วน 1:1 ริดจ์ตีนกา กรวดทราย mulchedตีนกาและม้เพิ่มพลาสติกบนพื้นผิวทั้งหมด (การรักษา 2) นี้ระบุว่า มรูปกรวดทราย ช่วย ด้วยฟิล์มพลาสติก แน่นอนผลในการปรับปรุงผลผลิต ผลนี้แตกต่างกันอย่างไรก็ตามด้วยอัตราส่วนที่แตกต่างกันของริดจ์: ตีนกา อัตราส่วน 1:1 สุดตาม ด้วยอัตราส่วน 5:3 และ 4:3 อัตราลำดับที่ลดลง นอกจากนี้ผลตอบแทนสำหรับ RFRHS กับสันพลาสติก mulched อย่างมีนัยสำคัญสูงกว่าที่ไม่มีวัสดุคลุมดินพลาสติก (การรักษา 2 หรือ 3 หรือ 4 หรือ 65) ผลผลผลิตของ RFRHS กับพลาสติกมรูปเป็นมากกว่าปกติริดจ์ปลูก (รักษา 6 กับ 7), แต่มันมีขนาดเล็กกว่า RFRHS ด้วยกรวดทราย mulched ตีนกาและพลาสติก mulchedริดจ์ (รักษา 6 เจอ 2 หรือ 3 หรือ 4)ฝนแตกต่างกันในช่วงสามปีทดลองใช้ และผลแตกต่างกันจำนวนเงิน evapotranspiration (ET) (ตารางที่ 3) เมื่อเทียบกับแต่ละคู่ของรักษาเดียวกันระหว่าง 2007 และ 2009 ลดในร้อยเอ็ดที่โจมตีระยะไกลจาก 37 mm 107 มม. มีค่า ET ต่ำสุดในทรีทเมนท์ทั้งหมดในปี 2552 เนื่องจากปริมาณน้ำฝนต่ำ ระหว่างการรักษาET เป็นต่ำสุดสำหรับสันทั่วไปการปลูกทั้งสามปี และมันก็สองต่ำสุดสำหรับ RFRHS พลาสติก mulchedตีนกาและริดจ์ ET 3 ปีเฉลี่ยที่ลดลงเป็นอัตราส่วนของสัน: ตีนกาขึ้น ใน 3 ปี ET เป็นสูงสุดสำหรับแบนกรวดทราย mulched ฟิลด์บวกชลประทาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งใน 2007 และ2008 เมื่อมันเป็นอย่างมีนัยสำคัญมากกว่าการรักษาอื่น ๆ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

3.4 ผลผลิตการคายระเหย (ET) และการใช้น้ำ
อย่างมีประสิทธิภาพ (WUE)
ข้อมูลแสดงให้เห็นว่าการทดสอบอย่างมีนัยสำคัญโดยการวิเคราะห์ความแปรปรวนสำหรับผลผลิต ET
และ WUE (ตารางที่ 3) ในช่วงสามปีทดลองแตงโม
อัตราผลตอบแทนต่ำสุดสำหรับการเพาะปลูกแบบเดิมสัน (การรักษา
7) ซึ่งเป็นอย่างมีนัยสำคัญต่ำกว่าสำหรับแบนกรวดทราย
สนามและ RFRHS mulched ด้วยพลาสติกปกคลุมสันเขา อัตราผลตอบแทนสูงสุด
สำหรับ RFRHS ด้วยอัตราส่วน 1: 1 สันร่องกรวดทราย mulched
ร่องและคลุมด้วยหญ้าพลาสติกบนพื้นผิวทั้งหมด (การรักษา 2) นี้
แสดงให้เห็นว่าวัสดุคลุมดินกรวดทรายช่วยด้วยฟิล์มพลาสติกอย่างแน่นอน
มีผลในการเพิ่มผลผลิต อย่างไรก็ตามผลกระทบนี้แตกต่างกัน
ในอัตราส่วนที่แตกต่างกันของสันเขา: ร่อง อัตราส่วน 1: 1 ที่ดีที่สุด,
ผู้ติดตาม 5: 3 อัตราส่วนและอัตราส่วน 4: 3 ในการลดการสั่งซื้อ นอกจากนี้
อัตราผลตอบแทนสำหรับ RFRHS ด้วยพลาสติก mulched สันเขาอย่างมีนัยสำคัญ
สูงกว่าโดยไม่ต้องคลุมด้วยหญ้าพลาสติก (ทรีทเมนท์ 2 หรือ 3 หรือ 4 หรือ 6
กับ 5) ผลผลผลิตของ RFRHS กับคลุมด้วยหญ้าพลาสติกสูงกว่า
การปลูกสันธรรมดา (ทรีทเมนท์ 6 กับ 7) แต่มันก็มีขนาดเล็ก
กว่า RFRHS กับร่องกรวดทราย mulched และพลาสติก mulched
สัน (ทรีทเมนท์ 6 เมื่อเทียบกับ 2 หรือ 3 หรือ 4 ).
ปริมาณน้ำฝนที่แตกต่างกันในช่วงสามปีที่ผ่านการทดลองและผลในการที่แตกต่างกัน
การคายระเหย (ET) จำนวนเงิน (ตารางที่ 3) เมื่อเทียบกับ
คู่ของการรักษาเดียวกันในแต่ละระหว่างปี 2007 และ 2009 ลดลง
ใน ET ตั้งแต่ 37 มิลลิเมตรถึง 107 มิลลิเมตรขั้นต่ำค่า ET ใน
การรักษาทั้งหมดในปี 2009 อันเนื่องมาจากปริมาณน้ำฝนที่ลดลง ท่ามกลางการรักษา,
ET เป็นที่ต่ำที่สุดสำหรับการปลูกสันธรรมดาในทุกสาม
ปีที่ผ่านมาและมันเป็นครั้งที่สองที่ต่ำที่สุดสำหรับ RFRHS ด้วยพลาสติก mulched
ร่องและสัน เฉลี่ยสามปี ET ลดลงตามสัดส่วน
ของสันเขา: ร่องเพิ่มขึ้น ในช่วงสามปีที่ผ่านมา ET สูงสุดสำหรับแบน
กรวดทรายฟิลด์บวกชลประทาน mulched โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปี 2007 และ
ปี 2008 เมื่อมันสูงกว่าการรักษาอื่น ๆ ทุกอย่างมีนัยสำคัญ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

3.4 . ผลผลิต , การคายระเหยน้ำ ( ET ) และการใช้น้ำประสิทธิภาพ ( WUE )ข้อมูลที่แสดงความสำคัญการทดสอบโดยการวิเคราะห์ ANOVA สำหรับผลผลิต , และแล้วมีค่า ( ตารางที่ 3 ) ในช่วงทดลองทั้ง 3 ปี แตงโมผลผลิตต่ำที่สุดสำหรับปลูก ( รักษาแบบริดจ์7 ) ซึ่งลดลงกว่าที่ทรายและกรวดแบนข้อมูล กาแฟ rfrhs ด้วยพลาสติกคลุมสันเขา ผลผลิตมากที่สุด คือสำหรับ rfrhs สันร่องกับ 1 : 1 อัตราส่วน กรวด ทราย และกาแฟร่องและคลุมด้วยหญ้าพลาสติกบนพื้นผิวทั้งหมด ( การรักษา 2 ) นี้พบว่า กรวดและทราย ปุ๋ย ช่วยด้วยฟิล์มพลาสติกแน่นอนผลในการปรับปรุงผลผลิต อย่างไรก็ตาม ผลกระทบนี้จะแตกต่างกันด้วยอัตราส่วนที่แตกต่างกันของริดจ์ : 59 . อัตราส่วน 1 : 1 เป็นดีที่สุดตามด้วยอัตราส่วน 4 : 3 5 : 3 และอัตราส่วนในการสั่ง นอกจากนี้ผลผลิตสำหรับ rfrhs ด้วยพลาสติกกาแฟ ริดจ์ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติสูงกว่า โดยไม่มีการคลุมดินด้วยพลาสติก ( รักษา 2 หรือ 3 หรือ 4 หรือ 6และ 5 ) ผลผลิตผลของ rfrhs ด้วยการคลุมพลาสติกมากกว่าวิธีริดจ์ ( การปลูก 6 กับ 7 ) แต่มันก็เล็กกว่ากว่า rfrhs กรวดและทรายร่องพลาสติกกาแฟ และกาแฟริดจ์ ( การรักษา 6 กับ 2 หรือ 3 หรือ 4 )ปริมาณน้ำฝนที่แตกต่างกัน ในช่วงสามปีและผลการทดลองต่าง ๆการคายระเหยน้ำ ( ET ) จํานวน ( ตารางที่ 3 ) เมื่อเทียบกับแต่ละคู่ของการรักษาเดียวกันระหว่าง 2007 และ 2009 ลดลงในและอยู่ระหว่าง 37 มม. ถึง 107 มม. กับต่ำสุดและค่าในการรักษาทั้งหมดในปี 2009 เนื่องจากการลดลงของปริมาณฝน ระหว่างการรักษาและต่ำสุดที่ปลูกทั้งสามแบบริดจ์ปี และเป็นสองต่ำสุด rfrhs ด้วยพลาสติกกาแฟริ้วรอย และสันเขา สามปีที่ลดลงเมื่ออัตราส่วนเฉลี่ยและริดจ์ : ริ้วรอยเพิ่มขึ้น ใน 3 ปี และสูงสุดสำหรับแบนกรวดและทรายกาแฟ ด้านบวก ชลประทาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปี 2007 และ2008 , เมื่อมันสูงกว่าวิธีอื่น