About four years ago, a guy wrote a

About four years ago, a guy wrote an article in the house publication of Harvard Business
School—the Harvard Business Review—called “IT Doesn’t Matter,” which really captured the
spirit of the post dot-com era, and the pessimism that went along with it. It essentially said,
“Look, we’re spending huge amounts of money on what is essentially a utility. It’s like
electricity, it’s like water, it’s like toner paper, or paper clips.” It’s good, right? We like this
stuff. It’s actually useful input to your business. But we all can buy it, we all have access to
it. It’s getting cheaper all the time, we’re not writing it ourselves, we’re buying it off the
shelf. Everyone can buy the same stuff off the shelf. As a result, none of us are getting
ahead of anyone else, and we’re in this massive spending frenzy in an arms race that’s not
getting anyone anything important.
So he made a very strong argument and he got beat up for it, like you can imagine. My
colleagues and I were doing most of the lumping. But he actually made a couple of pretty
interesting points. If this stuff is universally easy to come by, it’s not a really good place to
go look for competitive advantage. We hope you all learned that while you were here.
So he put the challenge out there to go articulate what’s going on. Does IT matter? If it
doesn’t, why on earth are we spending, on average, 5 percent of revenue inside big
companies on it? This is a fairly deep puzzle.
So one of the things that we get to do at HBS when we’re confronted with a puzzle like this
is to go out and talk to companies and write cases, and learn about the phenomenon by
immersing yourself in it. So that’s what I’ve been doing for a while. And I want us to start to
get toward an answer to this question by telling you three stories, three cases that I’ve
written in recent years. And it’s pretty clear that if you want to understand the impact of IT,
you go watch a motorcycle race, right?

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ประมาณสี่ปีที่ผ่านมา คนเขียนบทความในประกาศบ้านธุรกิจฮาร์วาร์ดโรงเรียน — ตรวจสอบธุรกิจฮาร์วาร์ดซึ่งเรียกว่า "มันไม่เรื่อง จริง ๆ จับจิตวิญญาณของยุคสบู่ดอตคอมโพสต์ pessimism ที่ไปพร้อมกับ มันเป็นกล่าว"ดู เราใช้เงินมากในหลักอรรถประโยชน์คืออะไร เหมือนไฟฟ้า เป็นเช่นน้ำ มันเช่นกระดาษหมึกพิมพ์ หรือคลิปหนีบกระดาษ" ก็ดี ขวา เราเช่นนี้สิ่งที่ ป้อนข้อมูลจริงมีประโยชน์กับธุรกิจของคุณได้ แต่เราสามารถซื้อได้ เราสามารถเข้าถึงมัน ได้รับถูกกว่าตลอดเวลา เราไม่เขียนมันเอง เรากำลังซื้อจากการชั้น ทุกคนสามารถซื้อสิ่งเดียวปิดชั้น เป็นผล ไม่มีเราจะได้รับก่อนคนอื่น และเราอยู่ในนี้ใช้เกมส์ในการแข่งขันอาวุธที่ไม่ใหญ่ใครรับสิ่งสำคัญดังนั้นเขาทำโต้เถียงมาก และเขาได้ชนะสำหรับมัน เช่นคุณสามารถจินตนาการ ของฉันเพื่อนร่วมงานและได้ทำส่วนใหญ่ lumping แต่เขาทำให้คู่ของสวยจริงจุดที่น่าสนใจ ถ้าสิ่งนี้เป็นเรื่องง่ายแบบมา ไม่ดีจริง ๆ ไปไปหาที่เปรียบ เราหวังว่า คุณทั้งหมดได้เรียนรู้ว่าไปที่นี่ดังนั้น เขาใส่ความท้าทายค่ะไปบอกจะเกิดอะไรขึ้น มันไม่สำคัญ ถ้ามันไม่ได้ ทำไมบนโลกเราใช้จ่าย เฉลี่ย ร้อยละ 5 ของรายได้ภายในใหญ่บริษัทนั้นหรือไม่ นี่คือปริศนาที่ค่อนข้างลึกดังนั้นหนึ่งในสิ่งที่เราไปทำที่ HBS เมื่อเรากำลังเผชิญกับปริศนานี้จะออกไปพูดคุยกับบริษัท และเขียนกรณี และเรียนรู้เกี่ยวกับปรากฏการณ์โดยแช่ตัวเองใน เพื่อ ที่ว่าผมเคยได้ทำอะไรในขณะ และขอให้เริ่มรับ โดยบอกคุณสามชั้น สามกรณีที่ฉันไปคำตอบคำถามนี้เขียนในปีที่ผ่านมา การเดินทางสวยที่คุณจะเข้าใจผลกระทบของมันไปชมการแข่งขันจักรยานยนต์ ขวา

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ประมาณสี่ปีที่ผ่านมาเป็นคนเขียนบทความในสิ่งพิมพ์ที่บ้านของฮาร์วาร์ธุรกิจ
โรงเรียนฮาร์วาร์ทบทวนธุรกิจที่เรียกว่า "มันไม่สำคัญ" ซึ่งจับจริงๆ
จิตวิญญาณของยุคโพสต์ดอทคอมและมองในแง่ร้ายว่า ไปพร้อมกับมัน มันเป็นหลักกล่าวว่า
"ดูเรากำลังใช้จ่ายเงินจำนวนมากในสิ่งที่เป็นหลักยูทิลิตี้ มันก็เหมือนกับการ
ไฟฟ้าก็เหมือนน้ำก็เช่นกระดาษหมึกหรือคลิปหนีบกระดาษ. "มันเป็นเรื่องที่ดีใช่มั้ย? เราชอบแบบนี้
สิ่งที่ มันเป็นอินพุทที่มีประโยชน์จริงกับธุรกิจของคุณ แต่เราทุกคนสามารถซื้อได้เราทุกคนมีการเข้าถึง
มัน มันได้รับราคาถูกตลอดเวลาที่เราไม่ได้เขียนมันเองเราจะซื้อมันออก
หิ้ง ทุกคนสามารถซื้อสิ่งเดียวกันออกจากชั้นวาง เป็นผลให้ไม่มีของเราจะได้รับ
ข้างหน้าของคนอื่นและเราในความบ้าใช้จ่ายขนาดใหญ่นี้ในการแข่งขันทางด้านอาวุธที่ไม่
ได้รับอะไรใครสำคัญ.
ดังนั้นเขาจึงทำอาร์กิวเมนต์ที่แข็งแกร่งมากและเขาได้รับการตีขึ้นสำหรับมันเหมือน คุณสามารถจินตนาการ ของฉัน
เพื่อนร่วมงานและผมกำลังทำส่วนใหญ่ของก้อน แต่จริง ๆ แล้วเขาทำให้คู่ของสวย
จุดที่น่าสนใจ หากสิ่งนี้เป็นเรื่องง่ายในระดับสากลที่จะมาด้วยก็ไม่ได้เป็นสถานที่ที่ดีจริงๆที่จะ
ไปมองหาเปรียบในการแข่งขัน เราหวังว่าทุกท่านได้เรียนรู้ว่าในขณะที่คุณอยู่ที่นี่.
ดังนั้นเขาจึงนำความท้าทายออกมีที่จะไปชัดเจนสิ่งที่เกิดขึ้น มันไม่สำคัญ? ถ้ามัน
ไม่เป็นเช่นนั้นทำไมในโลกเรามีการใช้จ่ายโดยเฉลี่ยร้อยละ 5 ของรายได้ภายในใหญ่
บริษัท เมื่อวันที่มันได้หรือไม่ นี่คือปริศนาลึกอย่างเป็นธรรม.
ดังนั้นหนึ่งในสิ่งที่เราได้รับกลับไปทำที่ HBS เมื่อเรากำลังเผชิญหน้ากับปริศนาเช่นนี้
คือการออกไปและพูดคุยกับ บริษัท และเขียนกรณีและเรียนรู้เกี่ยวกับปรากฏการณ์โดย
แช่ตัวเองใน มัน นั่นคือสิ่งที่ฉันได้ทำในขณะที่ และผมต้องการให้เราเริ่มต้นที่จะ
ได้รับต่อการตอบคำถามนี้โดยบอกคุณสามชั้นสามกรณีที่ผมเคย
เขียนไว้ในปีที่ผ่านมา และเป็นที่ชัดเจนสวยว่าถ้าคุณต้องการที่จะเข้าใจผลกระทบของมัน
ที่คุณไปชมการแข่งขันรถจักรยานยนต์ใช่มั้ย?

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ประมาณ 4 ปี ที่แล้ว เขาเขียนบทความในบ้านสิ่งพิมพ์ของโรงเรียนธุรกิจฮาร์วาร์ด Harvard Business Review
เรียกว่า " มันไม่สำคัญ " ซึ่งถูกจับจริงๆ
จิตวิญญาณของการโพสต์ดอทคอมยุค และการมองโลกในแง่ร้ายที่ไปพร้อมกับมัน มันเป็นหลักกล่าวว่า ,
" ดูสิ เราใช้จ่ายเงินจำนวนมากในสิ่งที่เป็นหลักเป็นสาธารณูปโภค มันเหมือน
ไฟฟ้ามันก็เหมือนน้ำ มันเหมือนกระดาษหมึกหรือกระดาษคลิป มันดีใช่ไหม เราชอบเรื่องนี้

จริงๆแล้วข้อมูลที่มีประโยชน์กับธุรกิจของคุณ แต่เราสามารถซื้อมัน เราทุกคนมีการเข้าถึง
. มันคือการถูกตลอดเวลา เราไม่ได้เขียนเอง เราก็ซื้อมันซะ
ชั้นวางของ ทุกคนสามารถซื้อสิ่งเดิมจากหิ้ง ผลคือ จะไม่มีพวกเรา
ก่อนใคร และพวกเราในนี้ขนาดใหญ่ใช้ความบ้าในการแข่งขันอาวุธที่ไม่ได้รับใคร

อะไรที่สำคัญ จึงทำให้อาร์กิวเมนต์ที่แข็งแกร่งมาก และเขาถูกทำร้ายมัน เหมือนที่คุณสามารถจินตนาการ เพื่อนร่วมงานและฉันทำของฉัน
ส่วนมากบวม . แต่เขาก็ทำให้คู่สวย
จุดที่น่าสนใจ . ถ้าสิ่งนี้เป็นระดับง่ายที่จะมาด้วยมันไม่ได้เป็นสถานที่ที่ดีจริงๆ

ไปดูเพื่อความได้เปรียบทางการแข่งขัน เราหวังว่าคุณได้เรียนรู้ในขณะที่คุณอยู่ที่นี่
เขาใส่ท้าทายออกมีไปชัดเจน ว่าเกิดอะไรขึ้น มันสำคัญด้วยเหรอ ? ถ้ามัน
ไม่ได้ ทำไมเราใช้เวลาโดยเฉลี่ยร้อยละ 5 ของรายได้ภายใน บริษัท ใหญ่
มัน ? นี่คือปริศนา
ค่อนข้างลึกดังนั้นสิ่งหนึ่งที่เราได้รับการทำที่ HBS เมื่อเรากำลังเผชิญกับปริศนาแบบนี้
คือออกไปพูดคุยกับบริษัทและเขียนราย และเรียนรู้เกี่ยวกับปรากฏการณ์
แช่ตัวเองอยู่ในนั้น นั่นคือสิ่งที่ผมทำไปสักพัก และอยากให้เราเริ่ม

รับต่อ ตอบคำถามนี้ โดยบอกว่า สามเรื่องสามกรณีที่ผม
เขียนในปีล่าสุดและมันก็ค่อนข้างชัดเจนว่า ถ้าคุณต้องการที่จะเข้าใจผลกระทบของมัน
ไปชมการแข่งขันรถจักรยานยนต์ ใช่ไหม ?