Taiwanese President Ma Ying-jeou me

Taiwanese President Ma Ying-jeou met with Chinese President Xi Jinping in the first ever meeting between the leaders of the two countries on 7 November 2015 in Singapore.

The timing of the meeting is interesting and controversial. President Ma is an unpopular president whose term is about to end. His party, the Kuomintang (KMT), is widely predicted to lose both the next presidential and parliamentary elections. Many see Ma’s decision to meet Xi as an attempt to secure his historical legacy and provide a boost to his struggling party.

Xi is meeting Ma from a position of strength. He is the leader of the world’s second-largest economic and military power and the most powerful Chinese leader since Deng Xiaoping. Yet Xi has made an important symbolic concession by agreeing to address each other as ‘mister’, avoiding using each other’s official titles.

There is also an important international dimension to the meeting. For the past two years, Beijing has been pursuing an assertive policy in the East and South China Seas. Many neighbouring Asian states have been spooked and have turned to the United States, strengthening the Obama administration’s ‘pivot’ to Asia strategy. In this context, Beijing launched a series of initiatives to counter-balance the US strategy.

Xi has launched the so-called ‘One Belt and One Road’ initiative to cement trade and economic relations with Southeast and Central Asian neighbours. Beijing has dialled down tensions with Tokyo by taking part in a trilateral meeting with South Korea and Japan at the end of October.

Xi has even attempted to reduce tension with Vietnam, one of the most vocal opponents to China’s South China Sea policy, by visiting Hanoi in a show of socialist camaraderie before meeting Ma in Singapore. Though these measures may not amount to much, they are signs of Beijing’s efforts to reassure its jittery neighbours.

Xi’s overture to Ma can be seen as part of this broader strategy. As Douglas Paal, former unofficial US representative to Taiwan, says, ‘it seems natural that Xi might want to add Taiwan to the picture of a calmer diplomacy on China’s periphery, if sovereignty issues can be managed adequately’.

Ma’s decision to meet Xi has been hugely polarising in Taiwan. Many, including the opposition Democratic Progress Party (DPP), have accused him of damaging Taiwan’s democracy. But Ma’s supporters have hailed the trip as a truly historic meeting between two former enemies. They hope Ma will set a precedent to institutionalise future meetings between the leaders of the two countries.

Ma should be commended for his courageous decision to meet Xi. He has worked hard during his terms to improve the cross-Strait relationship and has deescalated tensions between Taiwan and China. But he has not been able to convince the electorate of the benefits of closer ties with China. The Taiwanese public are growing increasingly sceptical of both Ma’s policies and Beijing.

The big question is, apart from its symbolic value, what will the historic meeting achieve? The most important outcome is all about setting a precedent. Taiwan and China have managed to reach a consensus on the conditions for a bilateral leader summit. The most important element is for both sides to maintain the political fiction of ‘One China’ — the so-called 1992 Consensus.

It seems that if Taiwan’s leaders are willing to play along, which the KMT has no trouble doing, Beijing is willing to be more flexible in its approach towards Taiwan. But this formula is an anathema to the pro-independence DPP.

The practical effect of the Ma–Xi meeting will be to create a very high bar for DPP leader Tsai Ing-wen to jump to maintain the status quo, as she has pledged to do. The big test is whether the new Taiwanese president, who is likely to be Tsai, will take advantage of the new precedent. Similarly, will Xi agree to meet any DPP leaders, who are known for their pro-independence stance?

Tsai is in a much stronger position than the outgoing Ma to play the ‘Nixon in China’ role. As an advocate for pro-independence policy, she is inoculated against accusations of being a ‘Manchurian candidate’. If she could take advantage of the new precedent, the next meeting between a pro-independence Taiwanese president and a Chinese leader would be truly groundbreaking.

The next Taiwanese president also needs to find a more permanent solution for the current Taiwan–China standoff. For decades the position of both parties in Taiwan has been to prolong the current status quo indefinitely. But the reality is that Taiwan cannot indefinitely preserve the status quo. At some point in the future, China will force the issue.

So the job for future Taiwanese presidents is to preserve the country’s democracy against a nuclear-armed superpower. One possible route could be to lay down conditions for a permanent peace treaty or even nominal reunification. Taiwan’s leaders could ask Beijing to give up the option of invasion and make democratisation in China a precondition for a peace treaty or unification. If the DPP could take such a leap, Taiwan could regain a considerable degree of initiative in its struggle with Beijing.

For this to happen, Beijing needs to accept that it must deal with the pro-independence DDP, whose electoral fortunes are on the rise. The KMT’s stance is no longer welcome. More importantly, Xi and his successors have to accept that Taiwan has changed. It has new democratic and indigenous aspirations.

All these options may seem outlandish at the moment. But preserving Taiwan’s democracy against an emerging superpower requires imagination and bold action. At the moment, none of the parties involved are showing signs of innovation in resolving one of the world’s most dangerous geopolitical fault lines.

Peter Yuan Cai is an Australian journalist.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ประธานาธิบดีไต้หวันมายิง-jeou พบกับประธานาธิบดีจีน Xi Jinping ในแรกเคยประชุมร่วมกันระหว่างผู้นำของทั้งสองประเทศบน 7 2015 พฤศจิกายนในสิงคโปร์ระยะเวลาของการประชุมเป็นที่น่าสนใจ และแย้ง อธิการบดีมาเป็นประธานเติบเป็นระยะซึ่งจะสิ้นสุด อย่างกว้างขวางมีการคาดว่า พรรคของเขา พรรคก๊กมินตั๋ง (KMT), การสูญเสียทั้งต่อประธานาธิบดี และรัฐสภาเลือกตั้ง หลายคนดูตัดสินของ Ma กับสิเป็นความพยายามที่จะป้องกันมรดกทางประวัติศาสตร์ของเขา และเพิ่มให้พรรคเขาดิ้นรนสิมีประชุมมาจากตำแหน่งของแรง เขาเป็นผู้นำของโลกที่สองที่ใหญ่ที่สุดทางเศรษฐกิจ และทางทหารอำนาจและผู้นำจีนมีประสิทธิภาพมากที่สุดตั้งแต่ Xiaoping เต็ง ยัง สิได้ทำสัมปทานเป็นสัญลักษณ์สำคัญ โดยภายใต้ที่อยู่กันเป็น 'mister' หลีกเลี่ยงการใช้ชื่ออย่างเป็นทางการของผู้อื่นนอกจากนี้ยังมีประชุมมิตินานาชาติเป็นสำคัญ สำหรับสองปีที่ผ่านมา ปักกิ่งได้รับการใฝ่หามีนโยบายการทำในตะวันออกและทะเลจีนใต้ อเมริกาเอเชียหลายประเทศได้ spooked และได้หันไปสหรัฐอเมริกา เสริมสร้างการบริหาร Obama 'สาระสำคัญ' ถึงเอเชีย ในบริบทนี้ ปักกิ่งเปิดตัวชุดของทวนสมดุลกลยุทธ์สหรัฐมีเงินลงทุนซีได้เปิดตัวโครงการ 'ในแถบหนึ่ง และหนึ่งถนนเรียกว่าประสานทางการค้าและความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจกับตะวันออกเฉียงใต้ และเอเชียกลาง neighbours ปักกิ่งมี dialled ลงความตึงเครียดกับโตเกียว โดยการมีส่วนร่วมในการประชุมสามฝ่ายกับเกาหลีใต้และญี่ปุ่นในสิ้นเดือนตุลาคมแม้สิได้พยายามลดความตึงเครียดกับประเทศเวียดนาม หนึ่งของฝ่ายตรงข้ามที่ vocal ที่สุดของจีนทะเลจีนใต้นโยบาย โดยกดในการแสดงของสังคมนิยมล่าก่อนมาประเทศสิงคโปร์ แม้ว่ามาตรการเหล่านี้อาจไม่ยอดให้มาก พวกเขาเป็นสัญญาณของปักกิ่งพยายามเวบเพื่อนบ้านของภาพกระตุกโหมโรงของซีอานซีกวนไปมาสามารถมองเห็นเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์นี้กว้างขึ้น เป็นดักลาส Paal อดีตตัวแทนสหรัฐฯ ไม่เป็นทางการไต้หวัน กล่าวว่า 'ดูเหมือนธรรมชาติว่า ซีอาจต้องการเพิ่มไต้หวันรูปภาพของการทูตจอมบนยสปริงของจีน ถ้าสามารถจัดการปัญหาอธิปไตยเพียงพอ'Polarising ของมาตัดสินใจตอบสนองสิในไต้หวันอย่างมหาศาล หลาย รวมทั้งฝ่ายค้านประชาธิปไตยระหว่างพรรค (DPP), ได้ถูกกล่าวหาว่าเขาของการทำลายประชาธิปไตยของไต้หวัน แต่หัวใจของม้ามีคำยกย่องการเดินเป็นการประชุมระหว่างสองอดีตศัตรูทางประวัติศาสตร์อย่างแท้จริง พวกเขาหวังว่า Ma จะกำหนดถึงการ institutionalise การประชุมระหว่างผู้นำของทั้งสองประเทศในอนาคตม้าควรจะ commended สำหรับตัดสินกล้าหาญการสิ เขาได้ทำงานอย่างหนักในระหว่างเงื่อนไขของการปรับปรุงความสัมพันธ์ระหว่างช่องแคบ และมี deescalated ความตึงเครียดระหว่างจีนและไต้หวัน แต่เขาไม่ได้จะโน้มน้าวให้ในรูปแบบของประโยชน์ของความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับจีน ประชาชนชาวไต้หวันกำลังเติบโตมากขึ้นเรื่อย ๆ ความทั้งม้าของนโยบายและปักกิ่งคำถามใหญ่ นอกเหนือจากค่าสัญลักษณ์ สิ่งจะประชุมทางประวัติศาสตร์ได้หรือไม่ ผลสำคัญที่สุดคือการตั้งเป็นเหตุ ไต้หวันและจีนมีจัดการเพื่อบรรลุฉันทามติในเงื่อนไขสำหรับการประชุมทวิภาคีผู้นำสุดยอด เป็นองค์ประกอบสำคัญที่สุดสำหรับทั้งสองข้างเพื่อรักษานิยายการเมือง 'หนึ่งจีน' — รับฉันทามติ 1992 เรียกว่าดูเหมือนว่า ผู้นำของไต้หวันยินดีที่จะเล่นตาม นตั๋งมีไม่ปัญหาในการทำ ปักกิ่งว่าเต็มใจให้มีความยืดหยุ่นในวิธีการต่อไต้หวัน แต่สูตรนี้เป็นการ anathema กับ DPP สนับสนุนเอกราชผลปฏิบัติการประชุม Ma – สิจะสร้างบาร์สูงมากสำหรับหัวหน้า DPP Tsai กำลัง wen เพื่อข้ามการรักษาสภาพ เธอได้บริจาคทำ การทดสอบใหญ่เป็นว่าที่ไต้หวันประธานคนใหม่ ที่มีแนวโน้มจะ Tsai ฉวยเหตุใหม่ ในทำนองเดียวกัน สิจะเห็นการตอบสนองใด ๆ ผู้นำ DPP ที่เป็นที่รู้จักสำหรับท่าทางของพวกเขาสนับสนุนเอกราชTsai อยู่ในตัวมากตำแหน่งแข็งแกร่งกว่าม้าขาบทบาท 'Nixon ในจีน' เป็นทนายสำหรับนโยบายสนับสนุนเอกราช เธอคือ inoculated กับข้อกล่าวหาเป็น 'Manchurian candidate' ถ้าเธอสามารถใช้ประโยชน์จากเหตุใหม่ การประชุมถัดไปเป็นประธานาธิบดีไต้หวันเอกราชสนับสนุนและผู้นำจีนจะคว้าอย่างแท้จริงประธานาธิบดีไต้หวันต่อไปยังต้องการค้นหาการแก้ปัญหาถาวรมากขึ้นขัดแย้งจีน-ไต้หวันปัจจุบัน สำหรับทศวรรษที่ผ่านมา ตำแหน่งของทั้งสองฝ่ายในไต้หวันแล้วรั้งสภาพปัจจุบันอย่างไม่มีกำหนด แต่ในความเป็นจริงว่า ไต้หวันไม่มีกำหนดไม่สามารถรักษาสภาพ บางจุด ในอนาคต จีนจะทำให้ปัญหาการดังนั้น งานสำหรับประธานาธิบดีไต้หวันในอนาคตคือการ รักษาประชาธิปไตยในประเทศกับมหาอำนาจนิวเคลียร์อาวุธ กระบวนการผลิตหนึ่งได้อาจจะ วางเงื่อนไขในสนธิสัญญาสันติภาพที่ถาวรหรือแม้กระทั่งระบุพัก ผู้นำไต้หวันสามารถขอปักกิ่งเพื่อให้ค่าตัวของการบุกรุก และทำให้ democratisation ในประเทศจีนเงื่อนไขสนธิสัญญาสันติภาพหรือรวมกัน ถ้า DPP สามารถใช้การกระโดดลัด ไต้หวันสามารถฟื้นตัวอย่างของความคิดริเริ่มในการต่อสู้กับปักกิ่งนี้เกิดขึ้น ปักกิ่งต้องยอมรับว่า จะต้องจัดการกับ DDP สนับสนุนเอกราช ใหญ่ ๆ ที่มีเลือกตั้งได้เพิ่มขึ้น ท่าทางของ KMT ต้อนรับไม่ได้ ที่สำคัญ ซีและผู้สืบทอดของเขาจะต้องยอมรับว่า ไต้หวันมีการเปลี่ยนแปลง มีแรงบันดาลใจชน และประชาธิปไตยใหม่ตัวเลือกเหล่านี้ทั้งหมดอาจภยันตรายในขณะนั้น แต่ประชาธิปไตยไต้หวันสำรองกับมหาอำนาจเกิดใหม่ที่ต้องใช้จินตนาการและการดำเนินการที่เป็นตัวหนา ในขณะนี้ ไม่มีบุคคลที่เกี่ยวข้องจะแสดงของนวัตกรรมในการแก้ไขบรรทัดบกพร่องภูมิศาสตร์การเมืองอันตรายที่สุดในโลกปีเตอร์ไคหยวนจะเป็นนักข่าวออสเตรเลีย

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ไต้หวันประธานาธิบดีหม่า Ying-jeou พบกับประธานาธิบดีจีนสีจิ้นผิงในการประชุมครั้งแรกระหว่างผู้นำของทั้งสองประเทศเมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2015 ในสิงคโปร์. ระยะเวลาของการประชุมเป็นที่น่าสนใจและการโต้เถียง ประธานาธิบดีหม่าเป็นประธานเป็นที่นิยมที่มีระยะกำลังจะจบ พรรคของเขาที่ก๊กมินตั๋ (KMT) เป็นที่คาดการณ์กันอย่างกว้างขวางที่จะสูญเสียทั้งในการเลือกตั้งประธานาธิบดีและรัฐสภาต่อไป หลายคนมองว่าการตัดสินใจของแม่จินเพื่อตอบสนองความพยายามที่จะรักษาความปลอดภัยของมรดกทางประวัติศาสตร์ของเขาและให้เพิ่มให้กับบุคคลที่ดิ้นรนของเขาหนึ่ง. จินคือการประชุม Ma จากตำแหน่งของความแข็งแรง เขาเป็นผู้นำของโลกอำนาจใหญ่เป็นอันดับสองเศรษฐกิจและการทหารและผู้นำจีนที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดนับตั้งแต่เติ้งเสี่ยวผิง แต่จินได้ทำสัมปทานสัญลักษณ์ที่สำคัญโดยเห็นพ้องที่จะอยู่แต่ละอื่น ๆ เป็น 'นาย' หลีกเลี่ยงการใช้แต่ละชื่ออย่างเป็นทางการอื่น ๆ . นอกจากนี้ยังมีมิติระหว่างประเทศที่สำคัญจะมีการประชุม สำหรับที่ผ่านมาสองปีที่กรุงปักกิ่งได้รับการติดตามนโยบายการแสดงออกที่เหมาะสมในภาคตะวันออกและทะเลจีนใต้ หลายประเทศในเอเชียที่อยู่ใกล้เคียงได้รับ spooked และได้หันไปยังประเทศสหรัฐอเมริกา, การเสริมสร้างการบริหารงานของโอบามา 'เดือย' กับกลยุทธ์เอเชีย ในบริบทนี้ปักกิ่งเปิดตัวชุดของความคิดริเริ่มที่จะตอบโต้สมดุลกลยุทธ์สหรัฐ. จินได้เปิดตัวที่เรียกว่า 'หนึ่งเข็มขัดและหนึ่งถนนคิดริเริ่มที่จะประสานความสัมพันธ์ทางการค้าและเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้านในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเอเชียกลาง กรุงปักกิ่งได้ที่โทรออกลงความตึงเครียดกับโตเกียวโดยการมีส่วนร่วมในการประชุมไตรภาคีกับเกาหลีใต้และญี่ปุ่นในช่วงปลายเดือนตุลาคม. จินมีความพยายามแม้กระทั่งการลดความตึงเครียดกับเวียดนามซึ่งเป็นหนึ่งในฝ่ายตรงข้ามของเสียงส่วนใหญ่ไปยังประเทศจีนตอนใต้ของประเทศจีนนโยบายทะเลโดยการเยี่ยมชม ฮานอยในการแสดงของความเป็นเพื่อนสังคมนิยมก่อนที่จะพบแม่ในสิงคโปร์ แม้ว่ามาตรการเหล่านี้อาจจะไม่ได้มีจำนวนมากที่พวกเขาเป็นสัญญาณของความพยายามของปักกิ่งเพื่อสร้างความมั่นใจเพื่อนบ้านกระวนกระวายใจของ. ทาบทาม Xi เพื่อแม่สามารถมองเห็นเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ที่กว้างขึ้น ในฐานะที่เป็นดักลาส Paal อดีตทางการสหรัฐอเมริกาตัวแทนไต้หวันกล่าวว่า "ดูเหมือนว่าธรรมชาติที่ Xi อาจต้องการเพิ่มไต้หวันเพื่อภาพของการเจรจาต่อรองที่เงียบสงบบนขอบของจีนถ้าปัญหาอธิปไตยสามารถจัดการได้อย่างเพียงพอ. การตัดสินใจของแม่เพื่อตอบสนองความ Xi มี รับขั้วอย่างมหาศาลในไต้หวัน จำนวนมากรวมทั้งความคืบหน้าฝ่ายค้านประชาธิปัตย์พรรค (DPP) ได้กล่าวหาว่าเขาทำลายประชาธิปไตยของไต้หวัน แต่ผู้สนับสนุนของแม่ได้รับการยกย่องว่าเป็นทริปที่ประชุมประวัติศาสตร์อย่างแท้จริงระหว่างสองอดีตศัตรู พวกเขาหวังว่าแม่จะเป็นแบบอย่างให้กับสถาบันการประชุมในอนาคตระหว่างผู้นำของทั้งสองประเทศ. แม่ควรจะยกย่องความกล้าหาญในการตัดสินใจของเขาที่จะตอบสนองความ Xi เขาได้ทำงานอย่างหนักในช่วงคำของเขาในการปรับปรุงความสัมพันธ์ข้ามช่องแคบและได้ deescalated ความตึงเครียดระหว่างไต้หวันและจีน แต่เขาก็ยังไม่ได้รับสามารถที่จะโน้มน้าวให้การเลือกตั้งของประโยชน์ของการสัมพันธ์ใกล้ชิดกับจีน ประชาชนชาวไต้หวันมีการเจริญเติบโตมากขึ้นสงสัยของทั้งสองนโยบายของแม่และปักกิ่ง. คำถามใหญ่คือนอกเหนือจากค่าสัญลักษณ์ของสิ่งที่จะประชุมครั้งประวัติศาสตร์บรรลุ? ผลที่สำคัญที่สุดคือทั้งหมดที่เกี่ยวกับการตั้งแบบอย่าง ไต้หวันและจีนมีการบริหารจัดการที่จะไปถึงสอดคล้องกับเงื่อนไขสำหรับการประชุมสุดยอดผู้นำระดับทวิภาคี องค์ประกอบที่สำคัญที่สุดคือการที่ทั้งสองฝ่ายจะรักษานิยายทางการเมืองของ 'หนึ่งของจีน -. ที่เรียกว่า 1992 Consensus ดูเหมือนว่าถ้าผู้นำของไต้หวันมีความเต็มใจที่จะเล่นพร้อมที่เอ็มทีมีปัญหาในการทำไม่มีปักกิ่งยินดีที่จะ มีความยืดหยุ่นมากขึ้นในแนวทางของตนที่มีต่อไต้หวัน แต่สูตรนี้เป็นคำสาปแช่งให้โปรอิสระ DPP. ผลในทางปฏิบัติของการประชุม Ma-Xi จะได้รับการสร้างบาร์สูงมากสำหรับผู้นำ DPP Tsai Ing-wen เพื่อข้ามไปยังรักษาสภาพที่เป็นอยู่ขณะที่เธอได้ให้คำมั่นสัญญาที่จะ ทำ. การทดสอบขนาดใหญ่ไม่ว่าจะเป็นประธานาธิบดีไต้หวันใหม่ที่มีแนวโน้มที่จะไจ่จะใช้ประโยชน์จากแบบอย่างใหม่ ในทำนองเดียวกันจะ Xi เห็นด้วยกับการตอบสนองใด ๆ DPP ผู้นำที่เป็นที่รู้จักสำหรับท่าทางโปรอิสระของพวกเขา? ไจ่อยู่ในตำแหน่งที่แข็งแกร่งกว่ามะขาออกการเล่น 'นิกสันในประเทศจีนบทบาท ในฐานะที่เป็นผู้ให้การสนับสนุนนโยบายโปรเป็นอิสระเธอเชื้อกับข้อกล่าวหาของการเป็น 'ผู้สมัครแมนจูเรีย' ถ้าเธอจะได้ใช้ประโยชน์จากแบบอย่างใหม่ประชุมครั้งต่อไประหว่างประธานาธิบดีไต้หวันโปรเป็นอิสระและเป็นผู้นำจีนจะก้าวล้ำอย่างแท้จริง. ประธานาธิบดีไต้หวันต่อไปนอกจากนี้ยังต้องการที่จะหาวิธีการแก้ปัญหาอย่างถาวรมากขึ้นสำหรับความขัดแย้งในปัจจุบันไต้หวันประเทศจีน สำหรับทศวรรษที่ผ่านตำแหน่งของทั้งสองฝ่ายในไต้หวันได้รับการยืดสถานะปัจจุบันเดิมไปเรื่อย ๆ แต่ความเป็นจริงคือการที่ไต้หวันไปเรื่อย ๆ ไม่สามารถรักษาสภาพที่เป็นอยู่ ที่จุดในอนาคตบางประเทศจีนจะผลักดันประเด็น. ดังนั้นการทำงานสำหรับประธานาธิบดีไต้หวันในอนาคตคือการรักษาระบอบประชาธิปไตยของประเทศมหาอำนาจกับอาวุธนิวเคลียร์ หนึ่งในเส้นทางที่เป็นไปได้อาจจะมีการวางเงื่อนไขในสนธิสัญญาสันติภาพถาวรหรือแม้กระทั่งการรวมเล็กน้อย ผู้นำไต้หวันสามารถขอปักกิ่งที่จะให้ขึ้นตัวเลือกของการบุกรุกและทำให้ประชาธิปไตยในประเทศจีนสิ่งที่จำเป็นสำหรับการสนธิสัญญาสันติภาพหรือการรวมกัน ถ้า DPP อาจจะใช้เวลาดังกล่าวอธิกสุรทินไต้หวันสามารถฟื้นระดับหนึ่งของความคิดริเริ่มในการต่อสู้กับกรุงปักกิ่ง. นี้จะเกิดขึ้น, ปักกิ่งต้องการที่จะยอมรับว่ามันจะต้องจัดการกับโปรอิสระ DDP ซึ่งโชคชะตาการเลือกตั้งที่เพิ่มขึ้น . ท่าทางของเอ็มทีจะไม่ได้รับการต้อนรับ ที่สำคัญ Xi และสืบทอดต้องยอมรับว่าไต้หวันมีการเปลี่ยนแปลง แต่ก็มีแรงบันดาลใจในระบอบประชาธิปไตยและชนพื้นเมืองใหม่. ตัวเลือกทั้งหมดเหล่านี้อาจดูเหมือนต่างชาติในขณะนี้ แต่การรักษาระบอบประชาธิปไตยของไต้หวันกับมหาอำนาจเกิดใหม่ต้องใช้จินตนาการและการกระทำที่เป็นตัวหนา ในขณะที่ไม่มีฝ่ายที่เกี่ยวข้องกำลังแสดงสัญญาณของนวัตกรรมในการแก้ปัญหาหนึ่งเส้นทางการเมืองที่อันตรายที่สุดของโลก. ปีเตอร์หยวน Cai เป็นนักข่าวออสเตรเลีย

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ไต้หวัน ประธานาธิบดีหม่าอิงจิ่วได้พบกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน ในการประชุมครั้งแรกระหว่างผู้นำของทั้งสองประเทศใน 7 พฤศจิกายน 2015 ในสิงคโปร์

เวลาการประชุมที่น่าสนใจและขัดแย้ง ประธาน มาเป็นประธาน ซึ่งมีระยะไม่ใกล้จะสิ้นสุดแล้ว พรรคของเขา พรรคก๊กมินตั๋ง ( KMT )เป็นที่คาดการณ์กันอย่างกว้างขวางที่จะสูญเสีย ทั้งหน้ารัฐสภาและประธานาธิบดีการเลือกตั้ง หลายคนมองว่า การตัดสินใจของ มา เจอ ซี เป็นความพยายามที่จะรักษามรดกทางประวัติศาสตร์ของเขา และให้เพิ่มการของเขาดิ้นรนปาร์ตี้

11 ประชุมมา จากตำแหน่งของความแข็งแรง เขาเป็นผู้นำของอำนาจทางเศรษฐกิจและทางทหารที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลก และมีประสิทธิภาพมากที่สุดตั้งแต่ เติ้ง เสี่ยวผิง ผู้นำจีน .แต่ซีได้ทำสัมปทานสัญลักษณ์สำคัญ โดยตกลงที่จะอยู่กันเป็น ' Mister ' , หลีกเลี่ยงการใช้ชื่ออย่างเป็นทางการของกันและกัน

มีมิติสำคัญระหว่างประเทศการประชุม สำหรับที่ผ่านมาสองปี , ปักกิ่งได้รับการติดตามนโยบายที่เหมาะสมในตะวันออกและในทะเลจีนใต้เอเชียอเมริกาได้รับตกใจมากและได้กลายเป็นประเทศสหรัฐอเมริกา , เสริมสร้างความเข้มแข็งการบริหารโอบามา ' หมุน ' กลยุทธ์เอเชีย ในบริบทนี้ ปักกิ่งเปิดตัวชุดของความคิดริเริ่มที่จะนับยอดกลยุทธ์เรา

ซี ได้เปิดตัวที่เรียกว่า ' หนึ่งแถบและถนนหนึ่งความคิดริเริ่มเพื่อความสัมพันธ์ทางการค้าและเศรษฐกิจกับภูมิภาคและส่วนกลางประสานประเทศเพื่อนบ้านในแถบเอเชีย ปักกิ่งมีเพิ่งโทรลงความตึงเครียดกับโตเกียว โดยมีส่วนร่วมในการประชุมสามฝ่ายกับเกาหลีใต้และญี่ปุ่น ณ สิ้นเดือนตุลาคม

ซีได้พยายามที่จะลดความตึงเครียดกับเวียดนามหนึ่งของฝ่ายตรงข้ามมากที่สุดร้องกับจีนทะเลจีนใต้ นโยบาย โดยการเยี่ยมชมฮานอยแสดงความเป็นมิตรสังคมนิยมก่อนการประชุม มา ใน สิงคโปร์ แม้ว่ามาตรการเหล่านี้อาจไม่มาก มีร่องรอยของความพยายามในกรุงปักกิ่งเพื่อสร้างความมั่นใจของมันไหว เพื่อนบ้าน

Xi เป็นโหมโรงเพื่อมาเห็นได้เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ที่กว้างขึ้น . เช่น ปาลดักลาส ,อดีตที่เป็นทางการเราตัวแทนไต้หวันกล่าวว่า ' ดูเหมือนว่าธรรมชาติที่ซีอาจต้องการเพิ่มในไต้หวัน ภาพของความสงบการทูตในประเทศจีนรอบนอก ถ้าปัญหาอำนาจอธิปไตยสามารถจัดการอย่างเพียงพอ ' .

มาการตัดสินใจพบกับซีได้เป็นอย่างมาก polarising ในไต้หวัน มากมาย รวมถึงฝ่ายค้านพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า ( DPP ) ได้กล่าวหาว่าเขาทำลายประชาธิปไตยของไต้หวันแต่มาสนับสนุนได้ว่าการเดินทางเป็นนัดประวัติศาสตร์อย่างแท้จริงระหว่างสองศัตรูเก่า ก็หวังว่าแม่จะกำหนดรูปแบบการ institutionalise การประชุมในอนาคตระหว่างผู้นำของทั้งสองประเทศ

มา ควรได้รับคำชมเชย กล้าหาญในการตัดสินใจของเขาเพื่อตอบสนอง Xiเขาทำงานหนักมากในแง่ของเขาที่จะปรับปรุงความสัมพันธ์ข้ามช่องแคบ และมี deescalated ความตึงเครียดระหว่างไต้หวันและจีน แต่เขายังไม่ได้สามารถที่จะโน้มน้าวให้เขตเลือกตั้งของประโยชน์ของความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับจีน ประชาชนชาวไต้หวันมีการเติบโตมากขึ้นสงสัยของทั้งสอง มา นโยบาย และปักกิ่ง

คำถามคือ นอกจากค่าสัญลักษณ์ของแล้วจะนัดประวัติศาสตร์บรรลุ ? ผลที่สำคัญที่สุดคือทั้งหมดเกี่ยวกับการตั้งค่าก่อนหน้านี้ ไต้หวันและจีนมีการจัดการเพื่อบรรลุฉันทามติในเงื่อนไขสำหรับการประชุมสุดยอดผู้นําแบบทวิภาคี ที่สำคัญที่สุด องค์ประกอบทั้งสองด้านเพื่อรักษาการเมืองนิยายของ ' หนึ่ง ' จีน - ที่เรียกว่า 1992 Consensus .

มันเหมือนกับว่าผู้นำไต้หวันยินดีที่จะเล่นด้วยซึ่งกมธ. ได้ไม่มีปัญหาทำ , ปักกิ่งยินดีที่จะมีความยืดหยุ่นมากขึ้นในวิธีการที่มีต่อไต้หวัน แต่สูตรนี้เป็นสาหร่ายสีน้ำตาลที่ Pro ความเป็นอิสระ DPP .

ผลการปฏิบัติของ หม่า –ซี การประชุมจะสร้างบาร์สูงมากสำหรับผู้นำไช่อิงเหวิน DPP กระโดดเพื่อรักษาสภาพที่เป็นอยู่ เมื่อเธอมีสัญญาที่ต้องทำ การทดสอบใหญ่คือว่าประธานาธิบดีไต้หวันใหม่ที่น่าจะไช่ จะใช้ประโยชน์จากแบบอย่างใหม่ ในทำนองเดียวกัน จะซีเห็นด้วยที่จะตอบสนองใด ๆ DPP ผู้นำที่เป็นที่รู้จักกันสำหรับความเป็นอิสระของ ?

ไซอยู่ในตำแหน่งที่แข็งแกร่งมากกว่ามาเล่น ' นิกสันในประเทศจีน ' บทบาท เป็นผู้ให้การสนับสนุนสำหรับโปรนโยบายอิสระ เธอที่ใส่กับข้อกล่าวหาของการเป็น ' Manchurian Candidate 'ถ้าเธอสามารถใช้ประโยชน์จากแบบอย่างใหม่ การประชุมครั้งต่อไประหว่าง Pro เอกราชไต้หวันประธานและผู้นำจีนจะเป็นการค้นพบที่ยิ่งใหญ่

ประธานาธิบดีไต้หวันยังต้องหาทางออกที่ถาวรมากขึ้นในปัจจุบัน ไต้หวัน และจีน ปลีกตัว สำหรับทศวรรษตำแหน่งของทั้งสองฝ่ายในไต้หวันได้รับการรักษาสภาพที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ไปเรื่อยๆแต่ความเป็นจริงที่ไต้หวันไม่สามารถไปเรื่อย ๆรักษาสถานะที่เป็นอยู่ ที่จุดในอนาคต จีนจะผลักดันประเด็น

ดังนั้นงานในอนาคต ไต้หวัน ประธานาธิบดี คือ เพื่อรักษาระบอบประชาธิปไตยของประเทศ กับ นิวเคลียร์ อาวุธ พลังพิเศษ เส้นทางที่เป็นไปได้ที่อาจจะมีการวางเงื่อนไขในสนธิสัญญาสันติภาพถาวร หรือแม้แต่รวมปกติผู้นำไต้หวันอาจถามปักกิ่งให้ตัวเลือกของการบุกรุกและทำให้ความเป็นประชาธิปไตยในประเทศจีนเป็นเงื่อนไขล่วงหน้าสำหรับข้อตกลงสันติภาพ หรือรวมตัวกัน ถ้า DPP สามารถใช้เช่นกระโดด , ไต้หวันสามารถที่จะฟื้นระดับมากของความมุ่งมั่นในการต่อสู้กับปักกิ่ง

นี้เกิดขึ้น ปักกิ่ง ต้องยอมรับว่า มันต้องจัดการกับโปรความเป็นอิสระ DDP ,ที่มีการเลือกตั้งใหญ่ ๆที่เพิ่มขึ้น . ของ กมธ. ท่าทางจะไม่ต้อนรับ ที่สำคัญ ซีและผู้สืบทอดของเขาได้ยอมรับว่าไต้หวันมีการเปลี่ยนแปลง มันมีแรงบันดาลใจประชาธิปไตยและพื้นเมืองใหม่

ตัวเลือกเหล่านี้อาจจะดูแปลกประหลาดในขณะนี้ แต่การรักษาประชาธิปไตยต่อต้านมหาอำนาจเกิดใหม่ไต้หวันต้องจินตนาการและการกระทำที่กล้าหาญ . ในขณะนี้ไม่มีของฝ่ายที่เกี่ยวข้องจะแสดงสัญญาณของนวัตกรรมในการแก้ไขปัญหาหนึ่งของโลกที่อันตรายที่สุดทางการเมืองผิดสาย

ปีเตอร์หยวนไคเป็นนักหนังสือพิมพ์ชาวออสเตรเลีย