พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพ การแปล - พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพ ไทย วิธีการพูด

พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุล




พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ทรงพระนามเดิมว่า “ พระวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าภูมิพลอดุลยเดช” ทรงเป็นพระราชโอรสในสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดลอดุลยเดช กรมหลวงสงขลานครินทร์ (ต่อมาได้รับการเฉลิมพระนามาภิไธยเป็น สมเด็จพระมหิตลาธิเบศรอดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก) และหม่อมสังวาล (ต่อมาได้รับการเฉลิมพระนามาภิไธย เป็นสมเด็จพระศรีนครินทรา บรมราชชนนี) พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ทรงเสด็จพระราชสมภพ เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2470 ณ โรงพยาบาลเมานท์ออเบอร์น ( MOUNT AUBURN) รัฐเมสสาชูเขตต์ ( MASSACHUSETTS) ประเทศสหรัฐอเมริกา


เมื่อพระชนมายุได้ 5 พรรษา ทรงเข้ารับการศึกษาที่โรงเรียนมาแตร์เดอี กรุงเทพมหานคร ต่อจากนั้นทรงเสด็จไปศึกษาต่อ ณ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ในชั้นประถมศึกษา ที่โรงเรียนเมียร์มองต์ (MERRIMENT) เมืองโลซานน์ (LASAGNA) ในปี พ.ศ. 2478 ได้ทรงเข้าศึกษาต่อที่ CEDE NOUBELLE DE LA SUES ROMANCE CHILLY ซึ่งเป็นโรงเรียนเอกชนที่รับนักเรียนนานาชาติ ในระดับอุดมศึกษาทรงเข้าศึกษาในแผนกวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเมืองโลชานน์ ต่อมาในปี พ.ศ. 2481 ได้เสด็จนิวัตกลับประเทศไทยพร้อมด้วยพระบรมเชษฐาธิราช พระบรมราชชนนี และสมเด็จพระนางเจ้าพี่นางเธอ

ครั้นเมื่อวันที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2489 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล ทรงเสด็จสวรรคตด้วยพระแสงปืน คณะรัฐมนตรีได้มีมติให้กราบบังคมทูลอัญเชิญ สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอเจ้าฟ้าภูมิพลอดุลยเดช เสด็จขึ้นครองราชสมบัติขึ้นเป็นพระมหากษัตริย์องค์ที่ 9 แห่งราชวงศ์จักรี ทรงมีพระนามว่า “ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรามาธิบดีจักรีนฤบดินทรสยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร ซึ่งในขณะนั้นมีพระชนมาพุเพียง 19 พรรษา เท่านั้น ยังไม่บรรลุนิติภาวะ

คณะรัฐมนตรีจึงได้แต่งตั้งคณะผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ขึ้น ซึ่งประกอบไปด้วย พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมขุนชัยนารทนเรนทร และพระยามานวราชเทวี เพื่อทำหน้าที่บริหารราชการแผ่นดินจนกว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช จะทรงบรรลุนิติภาวะ ทั้งยังทรงมีภารกิจในการศึกษาต่ออีกอย่างหนี้ด้วย ทรงเสด็จกลับประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2489 และเข้าศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยโลซานน์ ในสาขาวิชารัฐศาสตร์แทนสาขาวิศวกรรมศาสตร์ เนื่องด้วยทรงคำนึงถึงพระราชภารกิจในการปกครองประเทศเป็นสำคัญ

ระหว่างที่ประทับอยู่ต่างประเทศนั้น ได้ทรงหมั้นกับหม่อมราชวงศ์สิริกิตติ์ กิติยากร ธิดาในพระวรวงศ์เธอ-กรมหมื่นจันทบุรีสุรนาถ และหม่อมหลวงบัว กิติยากร เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2492 และได้จัดพระราชพิธีอภิเษกสมรสขึ้นในปี พ.ศ. 2493 และสถาปนาขึ้นเป็น สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินี

ทรงได้เข้าพิธีพระบรมราชาภิเษกในวันที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2493 ณ พระที่นั่งไพศาลทักษิณในพระบรมมหาราชวัง ภายหลังจากพระราชะธีพระบรมราชาภิเษกแล้วได้ทรงเสด็จพระราชดำเนินกลับประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เพื่อทำการรักษาพระสุขภาพอันเนื่องมาจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ ตามคำแนะนำของแพทย์ชาวสวิตเซอร์แลนด์ และทรงนิวัตกลับประเทศไทยในปี พ.ศ. 2494


พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินี มีพระโอรสและพระราชธิดารวม 4 พระองค์ ได้แก่

สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าหญิงอุบลรัตน์ราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี
ประสูติเมื่อวันที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2494 ต่อมาได้ทรงลาออกจากฐานันดรศักดิ์เพื่อสมรสกับชาวต่างชาติ

สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าวชิราลงกรณ์ฯ
ประสูติเมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2495 ต่อมาได้นับการสถาปนาขึ้นเป็น สมเด็จพระบรมโอรสาราช สยามมงกุฎราชกุมาร

สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิรินธรเทพรัตนราชสุดา กิติวัฒนาดุลโสภาคย์
ประสูติเมื่อวันที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2498 ต่อมาได้รับการสถาปนาขึ้นเป็น สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา เจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธรรัฐสีมาคุรากรปิยชาติ สยามบรมราชกุมารี

สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาลงภรณ์วลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี
ประสูติเมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ.2500




พระราชประวัติการศึกษา

เมื่อพุทธศักราช 2475 พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าภูมิพลอดุลเดช ทรงเจริญพระชนมายุ 5 พรรษา ได้ทรงเข้ารับการศึกษาเบื้องต้นที่โรงเรียน มาแตร์เดอี ถนนเพลินจิต กรุงเทพฯ ขณะนั้น ประเทศไทยมีการเปลี่ยนแปลงการปกครองจากสมบูรณาญาสิทธิราชย์ เป็นระบอบประชาธิปไตย โดยมีพระมหากษัตริย์อยู่ใต้กฎหมายรัฐธรรมนูญ การเมืองผันผวน ในเดือน กันยายน 2476 หม่อมสังวาลย์ มหิดล ณ อยุธยา จึงทรงนำพระธิดา พระโอรส เสด็จไปประทับ ณ กรุงโลซานน์ ประเทศ สวิตเซอร์แลนด์ เพื่อทรงรับการศึกษา

พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าภูมิพลอดุลเดช ทรงเข้ารับการศึกษา ชั้นประถมศึกษา ณ โรงเรียน เมียร์มองต์ ชั้นมัธยมศึกษา ณ โรงเรียน เอโกล นูแวล เดอ ลา สวิส โรมองต์ และโรงเรียน ยิมนาส กลาซีค กังโตนาล ตามลำดับ และทรงได้รับประกาศนียบัตร บาเชอลิเย เอ แลทร์ จากการศึกษา ดังกล่าวทรงรอบรู้หลายภาษา ได้แก่ อังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมัน และ ละติน ต่อจากนั้น ทรงเข้าศึกษาระดับอุดมศึกษา แผนกวิทยาศาสตร์ และวิศวกรรมศาสตร์ ที่มหาวิทยาลัยโลซานน์

ครั้นถึงวันที่ 2 มีนาคม 2477 พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงประกาศสละราชสมบัติรัฐบาลจึงกราบทูลอัญเชิญ พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอานันทมหิดล ซึ่งสืบสายราชสันตติวงศ์ ลำดับที่ 1 และมีพระชนมายุเพียง 9 พรรษา เสด็จเถลิงถวัลยราชย์ เป็นพระมหากษัตริย์องค์ที่ 8 แห่งพระบรมราชจักรีวงศ์ ซึ่งได้ทรงสถาปนา พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าภูมิพลอดุลเดช เป็น สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าภูมิพลอดุลยเดช ทรงสถาปนา หม่อมสังวาลย์ มหิดล ณ อยุธยา เป็น พระราชชนนีศรีสังวาลย์ และทรงสถาปนา พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้ากัลยานิวัฒนาเป็น สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา

สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าภูมิพลอดุลเดช ได้โดยเสด็จพระบรมเชษฐาธิราช สมเด็จพระราชชนนีและสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ นิวัฒพระนคร เป็นครั้งที่ 2 เมื่อ เดือน พฤศจิกายน 2481 ประทับ ณ พระตำหนัก จิตลดารโหฐาน สวนจิตลดา เป็นเวลา 2 เดือน แล้วเสด็จกลับไปทรงศึกษาต่อ ณ กรุงโลซานน์

ต่อมาได้เสด็จนิวัติพระนครอีกครั้งเป็นครั้งที่ 3 เมื่อ 5 ธันวาคม 2488 ในครั้งนี้ ปวงชนชาวไทยในแผ่นดินที่พระมหากษัตริย์มิได้ประทับเป็นประมุขยาวนานกว่า สิบปี ต่างปลาบปลื้มปิติชื่นชมโสมนัส ที่ได้ชื่นชมพระบารมี สมเด็
0/5000
จาก: -
เป็น: -
ผลลัพธ์ (ไทย) 1: [สำเนา]
คัดลอก!
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชทรงพระนามเดิมว่า "พระวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าภูมิพลอดุลยเดช" ทรงเป็นพระราชโอรสในสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดลอดุลยเดชกรมหลวงสงขลานครินทร์ (ต่อมาได้รับการเฉลิมพระนามาภิไธยเป็นสมเด็จพระมหิตลาธิเบศรอดุลยเดชวิกรมพระบรมราชชนก) และหม่อมสังวาล (ต่อมาได้รับการเฉลิมพระนามาภิไธยเป็นสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี) พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชทรงเสด็จพระราชสมภพเมื่อวันที่ 5 ธันวาคมพ.ศ. 2470 ณโรงพยาบาลเมานท์ออเบอร์น (เมาท์ออเบิร์น) รัฐเมสสาชูเขตต์ (รัฐแมสซาชูเซตส์) ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อพระชนมายุได้ 5 พรรษาทรงเข้ารับการศึกษาที่โรงเรียนมาแตร์เดอีกรุงเทพมหานครต่อจากนั้นทรงเสด็จไปศึกษาต่อณประเทศสวิตเซอร์แลนด์ในชั้นประถมศึกษาที่โรงเรียนเมียร์มองต์ (MERRIMENT) เมืองโลซานน์ (ลาซานญ่า) ในปีพ.ศ. 2478 ได้ทรงเข้าศึกษาต่อที่โรแมนซ์หนาวซึ่งเป็นโรงเรียนเอกชนที่รับนักเรียนนานาชาติในระดับอุดมศึกษาทรงเข้าศึกษาในแผนกวิทยาศาสตร์มหาวิทยาลัยเมืองโลชานน์ต่อมาในปีพ.ศ. 2481 ได้เสด็จนิวัตกลับประเทศไทยพร้อมด้วยพระบรมเชษฐาธิราชพระบรมราชชนนีและสมเด็จพระนางเจ้าพี่นางเธอ NOUBELLE DE LA SUES CEDE ครั้นเมื่อวันที่ 9 มิถุนายนพ.ศ. 2489 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดลทรงเสด็จสวรรคตด้วยพระแสงปืนคณะรัฐมนตรีได้มีมติให้กราบบังคมทูลอัญเชิญสมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอเจ้าฟ้าภูมิพลอดุลยเดชเสด็จขึ้นครองราชสมบัติขึ้นเป็นพระมหากษัตริย์องค์ที่ 9 แห่งราชวงศ์จักรีทรงมีพระนามว่า "พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหิตลาธิเบศรามาธิบดีจักรีนฤบดินทรสยามินทราธิราชบรมนาถบพิตรซึ่งในขณะนั้นมีพระชนมาพุเพียง 19 พรรษาเท่านั้นยังไม่บรรลุนิติภาวะ คณะรัฐมนตรีจึงได้แต่งตั้งคณะผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ขึ้นซึ่งประกอบไปด้วยพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมขุนชัยนารทนเรนทรและพระยามานวราชเทวีเพื่อทำหน้าที่บริหารราชการแผ่นดินจนกว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชจะทรงบรรลุนิติภาวะทั้งยังทรงมีภารกิจในการศึกษาต่ออีกอย่างหนี้ด้วยทรงเสด็จกลับประเทศสวิตเซอร์แลนด์ในเดือนสิงหาคมพ.ศ. 2489 และเข้าศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยโลซานน์ในสาขาวิชารัฐศาสตร์แทนสาขาวิศวกรรมศาสตร์เนื่องด้วยทรงคำนึงถึงพระราชภารกิจในการปกครองประเทศเป็นสำคัญระหว่างที่ประทับอยู่ต่างประเทศนั้นได้ทรงหมั้นกับหม่อมราชวงศ์สิริกิตติ์กิติยากรธิดาในพระวรวงศ์เธอกรมหมื่นจันทบุรีสุรนาถและหม่อมหลวงบัวกิติยากรเมื่อวันที่ 19 กรกฎาคมพ.ศ. 2492 และได้จัดพระราชพิธีอภิเษกสมรสขึ้นในปีพ.ศ. 2493 และสถาปนาขึ้นเป็นสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีทรงได้เข้าพิธีพระบรมราชาภิเษกในวันที่ 5 พฤษภาคมพ.ศ. 2493 ณพระที่นั่งไพศาลทักษิณในพระบรมมหาราชวังภายหลังจากพระราชะธีพระบรมราชาภิเษกแล้วได้ทรงเสด็จพระราชดำเนินกลับประเทศสวิตเซอร์แลนด์เพื่อทำการรักษาพระสุขภาพอันเนื่องมาจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ตามคำแนะนำของแพทย์ชาวสวิตเซอร์แลนด์และทรงนิวัตกลับประเทศไทยในปีพ.ศ. 2494 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีมีพระโอรสและพระราชธิดารวม 4 พระองค์ได้แก่ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าหญิงอุบลรัตน์ราชกัญญาสิริวัฒนาพรรณวดี ประสูติเมื่อวันที่ 5 เมษายนพ.ศ. 2494 ต่อมาได้ทรงลาออกจากฐานันดรศักดิ์เพื่อสมรสกับชาวต่างชาติสมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าวชิราลงกรณ์ฯ ประสูติเมื่อวันที่ 27 กรกฎาคมพ.ศ. 2495 ต่อมาได้นับการสถาปนาขึ้นเป็นสมเด็จพระบรมโอรสาราชสยามมงกุฎราชกุมาร สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าสิรินธรเทพรัตนราชสุดากิติวัฒนาดุลโสภาคย์ ประสูติเมื่อวันที่ 2 เมษายนพ.ศ. 2498 ต่อมาได้รับการสถาปนาขึ้นเป็นสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาเจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธรรัฐสีมาคุรากรปิยชาติสยามบรมราชกุมารี สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าจุฬาลงภรณ์วลัยลักษณ์อัครราชกุมารี ประสูติเมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ.2500 พระราชประวัติการศึกษาเมื่อพุทธศักราช 2475 พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าภูมิพลอดุลเดช ทรงเจริญพระชนมายุ 5 พรรษา ได้ทรงเข้ารับการศึกษาเบื้องต้นที่โรงเรียน มาแตร์เดอี ถนนเพลินจิต กรุงเทพฯ ขณะนั้น ประเทศไทยมีการเปลี่ยนแปลงการปกครองจากสมบูรณาญาสิทธิราชย์ เป็นระบอบประชาธิปไตย โดยมีพระมหากษัตริย์อยู่ใต้กฎหมายรัฐธรรมนูญ การเมืองผันผวน ในเดือน กันยายน 2476 หม่อมสังวาลย์ มหิดล ณ อยุธยา จึงทรงนำพระธิดา พระโอรส เสด็จไปประทับ ณ กรุงโลซานน์ ประเทศ สวิตเซอร์แลนด์ เพื่อทรงรับการศึกษาพระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าภูมิพลอดุลเดช ทรงเข้ารับการศึกษา ชั้นประถมศึกษา ณ โรงเรียน เมียร์มองต์ ชั้นมัธยมศึกษา ณ โรงเรียน เอโกล นูแวล เดอ ลา สวิส โรมองต์ และโรงเรียน ยิมนาส กลาซีค กังโตนาล ตามลำดับ และทรงได้รับประกาศนียบัตร บาเชอลิเย เอ แลทร์ จากการศึกษา ดังกล่าวทรงรอบรู้หลายภาษา ได้แก่ อังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมัน และ ละติน ต่อจากนั้น ทรงเข้าศึกษาระดับอุดมศึกษา แผนกวิทยาศาสตร์ และวิศวกรรมศาสตร์ ที่มหาวิทยาลัยโลซานน์ครั้นถึงวันที่ 2 มีนาคม 2477 พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงประกาศสละราชสมบัติรัฐบาลจึงกราบทูลอัญเชิญพระวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าอานันทมหิดลซึ่งสืบสายราชสันตติวงศ์ลำดับที่ 1 และมีพระชนมายุเพียง 9 พรรษาเสด็จเถลิงถวัลยราชย์เป็นพระมหากษัตริย์องค์ที่ 8 แห่งพระบรมราชจักรีวงศ์ซึ่งได้ทรงสถาปนาพระวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าภูมิพลอดุลเดชเป็นสมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอเจ้าฟ้าภูมิพลอดุลยเดชทรงสถาปนาหม่อมสังวาลย์มหิดลณอยุธยาเป็นพระราชชนนีศรีสังวาลย์และทรงสถาปนาพระวรวงศ์เธอพระองค์เจ้ากัลยานิวัฒนาเป็นสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนาสมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าภูมิพลอดุลเดช ได้โดยเสด็จพระบรมเชษฐาธิราช สมเด็จพระราชชนนีและสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ นิวัฒพระนคร เป็นครั้งที่ 2 เมื่อ เดือน พฤศจิกายน 2481 ประทับ ณ พระตำหนัก จิตลดารโหฐาน สวนจิตลดา เป็นเวลา 2 เดือน แล้วเสด็จกลับไปทรงศึกษาต่อ ณ กรุงโลซานน์ ต่อมาได้เสด็จนิวัติพระนครอีกครั้งเป็นครั้งที่ 3 เมื่อ 5 ธันวาคม 2488 ในครั้งนี้ ปวงชนชาวไทยในแผ่นดินที่พระมหากษัตริย์มิได้ประทับเป็นประมุขยาวนานกว่า สิบปี ต่างปลาบปลื้มปิติชื่นชมโสมนัส ที่ได้ชื่นชมพระบารมี สมเด็
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 2:[สำเนา]
คัดลอก!



ทรงพระนามเดิมว่า " กรมหลวงสงขลานครินทร์ พระบรมราชชนก) และหม่อมสังวาล (ต่อมาได้รับการเฉลิมพระนามาภิไธยเป็นสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี) ทรงเสด็จพระราชสมภพเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2470 ณ โรงพยาบาลเมานท์ออเบอร์น (MOUNT AUBURN) รัฐเมสสาชูเขตต์ (MASSACHUSETTS) 5 พรรษา กรุงเทพมหานครต่อจากนั้นทรงเสด็จไปศึกษาต่อ ณ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ในชั้นประถมศึกษาที่โรงเรียนเมียร์มองต์ (สนุกสนาน) เมืองโลซานน์ (ลาซานญ่า) ในปี พ.ศ. 2478 ได้ทรงเข้าศึกษาต่อที่ยกให้ NOUBELLE DE LA ฟ้องโรแมนติกที่อากาศหนาวเย็น มหาวิทยาลัยเมืองโลชานน์ต่อมาในปี พ.ศ. 2481 พระบรมราชชนนี 9 มิถุนายน พ.ศ. 2489 ทรงเสด็จสวรรคตด้วยพระแสงปืน 9 แห่งราชวงศ์จักรีทรงมีพระนามว่า " บรมนาถบพิตรซึ่งในขณะนั้นมีพระชนมาพุเพียง 19 พรรษาเท่านั้น ซึ่งประกอบไปด้วยพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมขุนชัยนารทนเรนทรและพระยามานวราชเทวี จะทรงบรรลุนิติภาวะ ทรงเสด็จกลับประเทศสวิตเซอร์แลนด์ในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2489 กิติยากร และหม่อมหลวงบัวกิติยากรเมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2492 พ.ศ. 2493 และสถาปนาขึ้นเป็น 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2493 ณ และทรงนิวัตกลับประเทศไทยในปี พ.ศ. มีพระโอรสและพระราชธิดารวม 4 ได้แก่ พระองค์สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าหญิงอุบลรัตน์ราชกัญญา 5 เมษายน พ.ศ. 2494 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2495 ต่อมาได้นับการสถาปนาขึ้นเป็นสมเด็จพระบรมโอรสาราช เจ้าฟ้าสิรินธรเทพรัตนราชสุดา 2 เมษายน พ.ศ. 2498 ต่อมาได้รับการสถาปนาขึ้นเป็นสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา จุฬาลงเจ้าฟ้าภรณ์วลัยลักษณ์อัครราชกุมารีประสูติเมื่อการธนาคารวันที่ 4 กรกฎาคม 2475 พระวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าภูมิพลอดุลเดชทรงเจริญพระชนมายุ 5 พรรษา มาแตร์เดอีถนนเพลินจิตกรุงเทพฯขณะนั้น เป็นระบอบประชาธิปไตย การเมืองผันผวนในเดือนกันยายน 2476 หม่อมสังวาลย์มหิดล ณ อยุธยาจึงทรงนำพระธิดาพระโอรสเสด็จไปประทับ ณ กรุงโลซานน์ประเทศสวิตเซอร์แลนด์เพื่อทรงรับหัวเรื่อง: การศึกษาเป็นพระวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าภูมิพลอดุลเดชทรงเข้ารับหัวเรื่อง: การ ศึกษาชั้นประถมศึกษา ณ โรงเรียนเมียร์มองต์ชั้นมัธยมศึกษา ณ โรงเรียนเอโกลนูแวลเดอลาสวิสโรมองต์และโรงเรียนยิมนาสกลาซีคกังโตนาลตามลำดับและทรงได้รับประกาศนียบัตรบาเชอ ลิเยเอแลทร์จากการศึกษาดังกล่าวทรงรอบรู้หลายภาษา ได้แก่ อังกฤษฝรั่งเศสเยอรมันและละตินต่อจากนั้นทรงเข้าศึกษาระดับอุดมศึกษาแผนกวิทยาศาสตร์และวิศวกรรมศาสตร์ 2 มีนาคม 2477 พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว พระวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าอานันทมหิดลซึ่งสืบสายราชสันตติวงศ์ลำดับที่ 1 และมีพระชนมายุเพียง 9 พรรษาเสด็จเถลิงถวัลยราชย์เป็นพระมหากษัตริย์องค์ที่ 8 แห่งพระบรมราชจักรีวงศ์ซึ่งได้ทรงสถาปนาพระวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าภูมิพลอดุลเดช เป็นสมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอเจ้าฟ้าภูมิพลอดุลยเดชทรงสถาปนาหม่อมสังวาลย์มหิดล ณ อยุธยาเป็นพระราชชนนีศรีสังวาลย์และทรงสถาปนาพระวรวงศ์เธอพระองค์เจ้ากัลยานิวัฒนาเป็นสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้าภูมิพลอดุลเดชได้โดยเสด็จพระบรมเชษฐาธิราช นิวัฒพระนครเป็นครั้งที่ 2 เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2481 ประทับ ณ พระตำหนักจิตลดารโหฐานสวนจิตลดาเป็นเวลา 2 เดือนแล้วเสด็จกลับไปทรงศึกษาต่อ ณ 3 เมื่อ 5 ธันวาคม 2488 ในครั้งนี้ สิบปีต่างปลาบปลื้มปิติชื่นชมโสมนัสที่ได้ชื่นชมพระบารมีสมเด็










































การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 3:[สำเนา]
คัดลอก!





พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชทรงพระนามเดิมว่า " พระวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าภูมิพลอดุลยเดช " ทรงเป็นพระราชโอรสในสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดลอดุลยเดชกรมหลวงสงขลานครินทร์ ( ต่อมาได้รับการเฉลิมพระนามาภิไธยเป็นพระบรมราชชนก ) และหม่อมสังวาล ( ต่อมาได้รับการเฉลิมพระนามาภิไธยเป็นสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ) พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชทรงเสด็จพระราชสมภพเมื่อวันที่ 5 ธันวาคมพ .ศ . 2470 ณโรงพยาบาลเมานท์ออเบอร์น ( Mount Auburn ) รัฐเมสสาชูเขตต์ ( Massachusetts ) ประเทศสหรัฐอเมริกา


เมื่อพระชนมายุได้ 5 พรรษาทรงเข้ารับการศึกษาที่โรงเรียนมาแตร์เดอีกรุงเทพมหานครต่อจากนั้นทรงเสด็จไปศึกษาต่อณประเทศสวิตเซอร์แลนด์ในชั้นประถมศึกษาที่โรงเรียนเมียร์มองต์ ( ความรื่นเริง ) เมืองโลซานน์ ( ซานญ่า ) สามารถพ . ศ .2478 ได้ทรงเข้าศึกษาต่อที่ยกให้ noubelle de la ฟ้องโรแมนติกหนาวเย็นซึ่งเป็นโรงเรียนเอกชนที่รับนักเรียนนานาชาติในระดับอุดมศึกษาทรงเข้าศึกษาในแผนกวิทยาศาสตร์มหาวิทยาลัยเมืองโลชานน์ต่อมาในปีพ . ศ .2481 ได้เสด็จนิวัตกลับประเทศไทยพร้อมด้วยพระบรมเชษฐาธิราชพระบรมราชชนนีและสมเด็จพระนางเจ้าพี่นางเธอ

ครั้นเมื่อวันที่ 9 มิถุนายนพ . ศ .2489 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดลทรงเสด็จสวรรคตด้วยพระแสงปืนคณะรัฐมนตรีได้มีมติให้กราบบังคมทูลอัญเชิญสมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอเจ้าฟ้าภูมิพลอดุลยเดช9 แห่งราชวงศ์จักรีทรงมีพระนามว่า " พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหิตลาธิเบศรามาธิบดีจักรีนฤบดินทรสยามินทราธิราชบรมนาถบพิตรซึ่งในขณะนั้นมีพระชนมาพุเพียง 19 พรรษาเท่านั้นยังไม่บรรลุนิติภาวะ

คณะรัฐมนตรีจึงได้แต่งตั้งคณะผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ขึ้นซึ่งประกอบไปด้วยพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมขุนชัยนารทนเรนทรและพระยามานวราชเทวีจะทรงบรรลุนิติภาวะทั้งยังทรงมีภารกิจในการศึกษาต่ออีกอย่างหนี้ด้วยทรงเสด็จกลับประเทศสวิตเซอร์แลนด์ในเดือนสิงหาคมพ .ศ . 2489 และเข้าศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยโลซานน์ในสาขาวิชารัฐศาสตร์แทนสาขาวิศวกรรมศาสตร์เนื่องด้วยทรงคำนึงถึงพระราชภารกิจในการปกครองประเทศเป็นสำคัญ

ระหว่างที่ประทับอยู่ต่างประเทศนั้นได้ทรงหมั้นกับหม่อมราชวงศ์สิริกิตติ์กิติยากรธิดาในพระวรวงศ์เธอ - กรมหมื่นจันทบุรีสุรนาถและหม่อมหลวงบัวกิติยากรเมื่อวันที่ 19 กรกฎาคมพ . ศ .2492 และได้จัดพระราชพิธีอภิเษกสมรสขึ้นในปีพ . ศ . 2493 และสถาปนาขึ้นเป็นสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินี

ทรงได้เข้าพิธีพระบรมราชาภิเษกในวันที่ 5 พฤษภาคมพ . ศ .พ.ศ. 2493 ณพระที่นั่งไพศาลทักษิณในพระบรมมหาราชวังภายหลังจากพระราชะธีพระบรมราชาภิเษกแล้วได้ทรงเสด็จพระราชดำเนินกลับประเทศสวิตเซอร์แลนด์เพื่อทำการรักษาพระสุขภาพอันเนื่องมาจากอุบัติเหตุทางรถยนต์และทรงนิวัตกลับประเทศไทยในปีพ .ศ . 2431


พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีมีพระโอรสและพระราชธิดารวม 4 พระองค์ได้แก่

สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าหญิงอุบลรัตน์ราชกัญญาสิริวัฒนาพรรณวดี
ประสูติเมื่อวันที่ 5 เมษายนพ . ศ .
การแปล กรุณารอสักครู่..
 
ภาษาอื่น ๆ
การสนับสนุนเครื่องมือแปลภาษา: กรีก, กันนาดา, กาลิเชียน, คลิงออน, คอร์สิกา, คาซัค, คาตาลัน, คินยารวันดา, คีร์กิซ, คุชราต, จอร์เจีย, จีน, จีนดั้งเดิม, ชวา, ชิเชวา, ซามัว, ซีบัวโน, ซุนดา, ซูลู, ญี่ปุ่น, ดัตช์, ตรวจหาภาษา, ตุรกี, ทมิฬ, ทาจิก, ทาทาร์, นอร์เวย์, บอสเนีย, บัลแกเรีย, บาสก์, ปัญจาป, ฝรั่งเศส, พาชตู, ฟริเชียน, ฟินแลนด์, ฟิลิปปินส์, ภาษาอินโดนีเซี, มองโกเลีย, มัลทีส, มาซีโดเนีย, มาราฐี, มาลากาซี, มาลายาลัม, มาเลย์, ม้ง, ยิดดิช, ยูเครน, รัสเซีย, ละติน, ลักเซมเบิร์ก, ลัตเวีย, ลาว, ลิทัวเนีย, สวาฮิลี, สวีเดน, สิงหล, สินธี, สเปน, สโลวัก, สโลวีเนีย, อังกฤษ, อัมฮาริก, อาร์เซอร์ไบจัน, อาร์เมเนีย, อาหรับ, อิกโบ, อิตาลี, อุยกูร์, อุสเบกิสถาน, อูรดู, ฮังการี, ฮัวซา, ฮาวาย, ฮินดี, ฮีบรู, เกลิกสกอต, เกาหลี, เขมร, เคิร์ด, เช็ก, เซอร์เบียน, เซโซโท, เดนมาร์ก, เตลูกู, เติร์กเมน, เนปาล, เบงกอล, เบลารุส, เปอร์เซีย, เมารี, เมียนมา (พม่า), เยอรมัน, เวลส์, เวียดนาม, เอสเปอแรนโต, เอสโทเนีย, เฮติครีโอล, แอฟริกา, แอลเบเนีย, โคซา, โครเอเชีย, โชนา, โซมาลี, โปรตุเกส, โปแลนด์, โยรูบา, โรมาเนีย, โอเดีย (โอริยา), ไทย, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, การแปลภาษา.

Copyright ©2024 I Love Translation. All reserved.

E-mail: