A company's supply chain stretches

A company's supply chain stretches from the factory where its products are made to the point the products are in customer hands. Supply chain strategy determines when product should be fabricated, delivered to distribution centers and made available in the retail channel. Under a pull supply chain, actual customer demand drives the process, while push strategies are driven by long-term projections of customer demand.

Understanding Supply Chains
Push and pull strategies both work within the supply chain. A typical supply chain has five different steps. Products start out as raw materials. In the second step, the manufacturer takes raw materials and turns them into products. The third step occurs when the finished products get shipped to the distribution facility. In step four, the distribution facility uses the products to stock a retail store or, in the case of an e-commerce business, a fulfillment center. In the final step, the products get delivered to the hands of the consumer.

Push Strategies
A push-model supply chain is one where projected demand determines what enters the process. For example, warm jackets get pushed to clothing retailers as summer ends and the fall and winter seasons start. Under a push system, companies have predictability in their supply chains since they know what will come when -- long before it actually arrives. This also allows them to plan production to meet their needs and gives them time to prepare a place to store the stock they receive.

Pull Strategies
A pull strategy is related to the just-in-time school of inventory management that minimizes stock on hand, focusing on last-second deliveries. Under these strategies, products enter the supply chain when customer demand justifies it. One example of an industry that operates under this strategy is a direct computer seller that waits until it receives an order to actually build a custom computer for the consumer. With a pull strategy, companies avoid the cost of carrying inventory that may not sell. The risk is that they might not have enough inventory to meet demand if they cannot ramp up production quickly enough.

Push/Pull Strategies
Technically, every supply chain strategy is a hybrid between the two. A fully-push based system still stops at the retail store where it has to wait for a customer to "pull" a product off of the shelves. However, a chain that is designed to be a hybrid flips between push and pull somewhere in the middle of the process. For instance, a company may choose to stockpile finished product at its distribution centers to wait for orders that pull them to stores. Manufacturers might choose to build up inventories of raw materials -- especially those that go up in price -- knowing that they will be able to use them for future production.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เหยียดห่วงโซ่อุปทานของบริษัทจากโรงงานที่ผลิตภัณฑ์เกิดขึ้นไปยังจุดที่สินค้าอยู่ในมือลูกค้า กลยุทธ์ห่วงโซ่อุปทานกำหนดเมื่อผลิตภัณฑ์ควรประดิษฐ์ ส่งไปยังศูนย์กระจายสินค้า และให้บริการในช่องทางค้าปลีก ภายใต้ห่วงโซ่อุปทานแบบดึง ความต้องการของลูกค้าจริง ๆ ไดรฟ์กระบวนการ ในขณะที่ถูกขับดันกลยุทธ์คาดการณ์ความต้องการลูกค้าระยะยาวทำความเข้าใจเกี่ยวกับห่วงโซ่อุปทานผลักดัน และดึงกลยุทธ์ทั้งงานภายในห่วงโซ่อุปทาน ห่วงโซ่อุปทานทั่วไปมีห้าขั้นตอนแตกต่างกัน ผลิตภัณฑ์เริ่มต้นเป็นวัตถุดิบ ในขั้นตอนสอง ผู้ผลิตใช้วัตถุดิบ และเปลี่ยนไปเป็นผลิตภัณฑ์ ขั้นตอนสามเกิดขึ้นเมื่อได้รับการส่งไปยังสถานที่จำหน่ายผลิตภัณฑ์สำเร็จรูป ในขั้นตอนที่สี่ สิ่งอำนวยความสะดวกการกระจายใช้ผลิตภัณฑ์สต็อกร้านค้าปลีก หรือ ในกรณี ของ ธุรกิจอีคอมเมิร์ซ เป็นศูนย์กลางรวบรวม ในขั้นตอนสุดท้าย ผลิตภัณฑ์ได้รับส่งสู่มือผู้บริโภคผลักดันกลยุทธ์ห่วงโซ่อุปทานแบบผลักดันเป็นหนึ่งที่คาดการณ์ความต้องการกำหนดสิ่งที่เข้าสู่กระบวนการ เช่น แจ็คเก็ตที่อบอุ่นได้รับผลักดันให้ร้านค้าปลีกเสื้อผ้าเป็นปลายฤดูร้อนและฤดูใบไม้ร่วง และฤดูหนาวเริ่ม ภายใต้การผลักดันระบบ บริษัทมีคาดการณ์ในห่วงโซ่อุปทานของพวกเขา เพราะพวกเขารู้ว่าอะไรจะมาเมื่อ - ก่อนจะมาถึงจริง นี้ยังช่วยให้การวางแผนการผลิตเพื่อตอบสนองความต้องการและช่วยให้พวกเขามีเวลาที่จะเตรียมเก็บสต็อกพวกเขาได้รับดึงกลยุทธ์ดึงกลยุทธ์เกี่ยวข้องกับโรงเรียนเพียงในเวลาของการจัดการสินค้าคงคลังที่ลดสต็อกคงเหลือ เน้นส่งสุดท้ายสอง ภายใต้กลยุทธ์เหล่านี้ ผลิตภัณฑ์ใส่ห่วงโซ่อุปทานเมื่อลูกค้าต้องการจัดชิดมัน ตัวอย่างหนึ่งของอุตสาหกรรมที่ดำเนินงานภายใต้กลยุทธ์นี้เป็นผู้ขายโดยตรงคอมพิวเตอร์ที่รอจนกว่าได้รับคำสั่งสร้างคอมพิวเตอร์ที่กำหนดเองสำหรับผู้บริโภค ด้วยกลยุทธ์ดึง บริษัทหลีกเลี่ยงต้นทุนการดำเนินการสินค้าคงคลังที่ไม่สามารถขาย ความเสี่ยงที่อาจไม่มีสินค้าคงคลังเพียงพอเพื่อตอบสนองความต้องการถ้าพวกเขาไม่ทางลาดขึ้นการผลิตได้เร็วพอได้กลยุทธ์การผลัก/ดึงเทคนิค กลยุทธ์ทุกห่วงโซ่อุปทานเป็นลูกผสมระหว่างทั้งสอง ระบบเต็มกดคะแนนยังคงหยุดที่ร้านค้าปลีกที่มีการรอสำหรับลูกค้าที่จะ "ดึง" สินค้าออกจากชั้นวาง อย่างไรก็ตาม โซ่ที่ไฮบริดสลีแบบพลิกระหว่างแรงผลักและดึงอยู่ในกลางของกระบวนการ เช่น บริษัทอาจเลือกตุนสินค้าของศูนย์กระจายสินค้าสำหรับใบสั่งที่ดึงพวกเขาไปยังร้านค้าสำเร็จรูป ผู้ผลิตอาจเลือกที่จะสร้างขึ้นในสินค้าคงคลังของดิบ--โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ไปขึ้นราคา - รู้ว่า พวกเขาจะสามารถที่จะใช้สำหรับการผลิตในอนาคต

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ของ บริษัท โซ่ยืดจากโรงงานที่ผลิตภัณฑ์ของ บริษัท ที่ทำถึงจุดผลิตภัณฑ์อยู่ในมือลูกค้า กลยุทธ์ห่วงโซ่อุปทานกำหนดเมื่อผลิตภัณฑ์ควรประดิษฐ์ , ส่งไปยังศูนย์กระจายสินค้าและให้บริการในช่องทางค้าปลีก ภายใต้อุปทานดึงโซ่ ความต้องการที่แท้จริงของลูกค้าทำให้กระบวนการ ในขณะที่กลยุทธ์ผลักดันขับเคลื่อนโดยประมาณการระยะยาวของความต้องการของลูกค้าเข้าใจห่วงโซ่อุปทานผลักดันและดึงกลยุทธ์ทั้งงานภายในโซ่อุปทาน ห่วงโซ่อุปทานโดยทั่วไปมีห้าขั้นตอนที่แตกต่างกัน ผลิตภัณฑ์ที่เริ่มต้นจากการเป็นวัตถุดิบ ในขั้นตอนที่สอง ผู้ผลิตใช้วัตถุดิบและเปลี่ยนพวกเขาลงในผลิตภัณฑ์ ขั้นตอนที่สามเกิดขึ้นเมื่อผลิตภัณฑ์ที่เสร็จแล้วได้ส่งไปยังศูนย์กระจาย . ในขั้นตอนที่ 4 , สิ่งอำนวยความสะดวกการใช้ผลิตภัณฑ์หุ้นค้าปลีก ร้านค้า หรือ ในกรณีของธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ศูนย์การเติมเต็ม ในขั้นตอนสุดท้าย สินค้าได้ส่งถึงมือของผู้บริโภคกลยุทธ์ผลักดันรูปแบบโซ่อุปทานเป็นหนึ่งที่กำหนดความต้องการที่คาดการณ์ว่าเข้าสู่กระบวนการ ตัวอย่างเสื้ออุ่นๆถูกผลักให้ร้านค้าปลีกเสื้อผ้าเป็นปลายฤดูร้อนและฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาวเริ่ม ภายใต้ระบบผลัก บริษัทได้คาดการณ์ในห่วงโซ่อุปทานของพวกเขาเนื่องจากพวกเขารู้ว่าจะมาเมื่อไหร่ . . . นานก่อนที่จะมาถึงจริง ๆ นี้ยังช่วยให้พวกเขาวางแผนการผลิตเพื่อตอบสนองความต้องการของพวกเขาและให้พวกเขามีเวลาที่จะจัดเตรียมสถานที่เพื่อเก็บหุ้นที่พวกเขาได้รับกลยุทธ์ดึงดึงกลยุทธ์จะเกี่ยวข้องกับเวลาในโรงเรียนของการจัดการสินค้าคงคลังที่ลดหุ้นในมือ เน้นวินาทีสุดท้ายการส่งมอบ ภายใต้กลยุทธ์เหล่านี้ ผลิตภัณฑ์ระบุห่วงโซ่อุปทานเมื่อความต้องการลูกค้า อธิบายมัน ตัวอย่างหนึ่งของอุตสาหกรรมที่ดำเนินการภายใต้กลยุทธ์นี้เป็นผู้ขายโดยตรงของคอมพิวเตอร์ที่ รอจนกว่าจะได้รับคำสั่งต้องสร้างคอมพิวเตอร์ที่กำหนดเองสำหรับผู้บริโภค กับกลยุทธ์การดึง บริษัท หลีกเลี่ยงต้นทุนของการถือครองสินค้าคงคลังที่อาจจะไม่ขาย มีความเสี่ยงที่พวกเขาไม่อาจมีสินค้าคงเหลือเพียงพอที่จะตอบสนองความต้องการ ถ้าพวกเขาจะทางลาดขึ้นการผลิตได้อย่างรวดเร็วพอผลัก / ดึงกลยุทธ์เทคนิค ทุกกลยุทธ์ห่วงโซ่อุปทานเป็นลูกผสมระหว่างทั้งสอง พร้อมผลักดันตามระบบยังหยุดที่ร้านค้าปลีกที่ต้องรอลูกค้าที่จะ " ดึง " ผลิตภัณฑ์ออกจากชั้นวาง อย่างไรก็ตาม โซ่ที่ถูกออกแบบมาเป็นลูกผสม flips ระหว่างผลักดันและดึงอยู่ในช่วงกลางของกระบวนการ ตัวอย่างเช่น บริษัท อาจเลือกที่จะคลังสินค้าศูนย์กระจายสินค้าของผลิตภัณฑ์ที่ต้องรอสั่งที่ดึงพวกเขาให้ร้านค้า ผู้ผลิตอาจเลือกที่จะสร้างสินค้าคงคลังของวัตถุดิบ โดยเฉพาะผู้ที่ไปในราคา -- ทราบว่าพวกเขาจะสามารถที่จะใช้สำหรับการผลิตในอนาคต