เรื่องนี้ถูกเขียนขึ้นเนื่องจากงานเข้าสองงาน คือ ได้รับเชิญไปออกรายการค การแปล - เรื่องนี้ถูกเขียนขึ้นเนื่องจากงานเข้าสองงาน คือ ได้รับเชิญไปออกรายการค ไทย วิธีการพูด

เรื่องนี้ถูกเขียนขึ้นเนื่องจากงานเข

เรื่องนี้ถูกเขียนขึ้นเนื่องจากงานเข้าสองงาน คือ ได้รับเชิญไปออกรายการครอบครัวเดียวกันทางทีวีไทย กับอีกงานได้รับเกียรติให้ไปเป็นวิทยากรบอกเล่าประสบการณ์ด้านสิ่งแวดล้อม คาดไว้ว่าจะเป็นหัวข้อ "อยู่อย่างเบียดเบียนธรรมชาติน้อยที่สุด ทำอย่างไร" จึงจำเป็นต้องเขียนบทความเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมขนาดยาวขึ้นเพื่อสองงานนี้ แต่งานหลังคลาดไปเพราะเวลาไม่เหมาะสม
 "สิ่งแวดล้อม" เมื่อพูดถึงคำนี้แล้วเรานึกถึงอะไร ถ้าเอาตามที่ผมนึกคิด สำหรับคนโดยมากนั้น มันคงเป็นอะไรที่ฟังดูไกลตัวมากๆ เลย ไกลซะยิ่งกว่าเรื่องการเมืองเสียอีก เพราะอย่างน้อยการเมืองก็เกี่ยวกับเรื่องปากท้อง แต่สิ่งแวดล้อมนี่สิ ไม่เห็นมันจะไปอิ่มท้องอะไรตรงไหน ตรงกันข้ามถ้าหากว่าเรารู้และเข้าใจถึงมูลเหตุที่แท้จริงของมัน เรื่องของสิ่งแวดล้อมกลับเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุดต่อการดำรงอยู่ของชีวิตทุกชีวิตเลยทีเดียว แล้วอย่างนี้จะมองว่ามันเป็นเรื่องไกลตัวได้อย่างไร
 
อันที่จริงตัวกระผมเองนัั้นอาจมีพื้นฐานจากเรื่องราวของสิ่งแวดล้อมมาเป็นอันดับแรกก็เป็นได้ ที่ทำให้เราเป็นเราอย่างทุกวันนี้ หากย้อนไปได้สัก 7 ปีก่อน ตอนนั้นก็เป็นได้แค่ผิวๆ ของมัน ไม่รู้ทำไมผมมักจะสนใจเรื่องราวของสิ่งแวดล้อมมาตั้งแต่สมัยบ้าอ่านหนังสือพิมพ์มติชนสุดสัปดาห์ ทุกครั้งที่มีการพูดถึงเรื่องราวของสิ่งแวดล้อมแล้ว จะรู้สึกอินทุกครั้งไป ตอนนั้นการเมืองก็อ่านเยอะเหมือนกัน คงเป็นสมัยคุณทักษิณและไทยรักไทยกำลังฟีเวอร์ แต่ติดตามไป ติดตามมาก็ยิ่งรู้สึกว่า การเมืองไม่ต่างจากละครหลังข่าว นั่นคือ อีรอบเดิม โคตรเน่า แต่ก็นับว่ายุคสมัยนั้นการเมืองมีสีสันมากมายจริงๆ เพราะเกิดการเปลี่ยนแปลงวงการการเมืองที่น่าเบื่อ มาสนุกสนานกับการแสดงโชว์ของนายกรัฐมนตรีสมัยนั้น
 
ทั้งที่ตอนนั้นก็สนใจในลัทธิคอมมิวนิสต์ รู้จักแนวคิดต่างๆ มากขึ้นทั้งซ้ายและขวา แต่สุดท้ายแล้วผมเลือกที่จะสนใจทางด้านสิ่งแวดล้อมบวกกับเรื่องราวของสังคมนิยม นั่นทำให้ผมเริ่มปฏิเสธบริโภคนิยมและทุนนิยม พอศึกษาไปมาก็พบว่าคอมมิวนิสต์ที่เกิดขึ้นมาบนโลก เป็นโลกที่เผด็จการโดยรัฐ กว่าจะรู้ก็บ้าไปกับมันอยู่ 2-3 ปี นึกไปว่าคัมภีร์มาร์กซิสจะเป็นอุดมคติที่เราควรจะค้นหา ค้นหาไป ค้นหามาถึงได้รู้ว่าสิ่งที่เราทำได้ไม่ใช่การเรียกร้องให้เปลี่ยนแปลงทางโครงสร้างการเมืองการปกครองมหึมานั่น แต่เปลี่ยนที่ตัวเราเองจากข้างล่างคือระดับรายย่อยที่เล็กที่สุดคือระดับปัจเจก จึงเป็นคำถามว่าเราจะเปลี่ยนแปลงตัวเองได้อย่างไร โดยไม่จำเป็นต้องง้อการเปลี่ยนแปลงทางโครงสร้างที่ไม่รู้ว่าจะต้องเกิดอีกกี่ชาติ แล้วถึงมันจะเปลี่ยนได้จริงผมก็ไม่เชื่อหรอกว่ามันจะดีขึ้น ผมต้องการการเปลี่ยนแปลงเดี๋ยวนี้ ชาตินี้และดีที่สุด ไม่ต้องรอชาติหน้า
 
เรื่องสิ่งแวดล้อมผมทำอยู่เป็นประจำอยู่แล้ว ตั้งแต่เกือบสิบปีที่แล้ว ผมปฏิเสธถุงพลาสติก ตอนนั้นก็ทำอยู่แค่นั้น เพียงเพราะแค่ได้อ่านเรื่องราวของถุงพลาสติก ยังไม่ได้สำนึกถึงสิ่งที่บริโภคตามมาอีก ยังคงบริโภคตามใจอยากปกติ ถ้าถามคนที่เคยทำงานอยู่ด้วยกันตอนนั้น ผมจะเป็นเจ้าลัทธิปฏิเสธถุงพลาสติก นำพาเพื่อนๆ ถือขนมกันเอง จริงๆ ก็ไม่รู้จะใส่ไปทำอะไรด้วย มันแค่หิ้วสบายขึ้นด้วยความเคยชินใช้นิ้วเดียวหิ้วได้เท่านั้นเอง เคยคิดจะทำละครงานประจำปีบริษัทเรื่อง "โลกยุคหลังพลาสติก" เสียด้วยซ้ำ แต่ด้วยเวลาและงานที่ทำ จึงไม่มีสมาธิพอจะคิดพล็อตออกมา
 
ปัจจุบันเรื่องราวของสิ่งแวดล้อมเป็นเรื่องฮิตติดแฟชั่นท็อปชาร์ต ไม่ว่าจะเป็นแฟชั่นถุงผ้า แฟชั่นโลกร้อน และสิ่งที่อันตรายที่สุดของแฟชั่นคือไม่นานมันก็จะหายไป โดยที่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น แถมยังทำลายโลกมากขึ้นอีกด้วยแฟชั่นถุงผ้าที่ผลิตกันออกมาเพียงเพื่อใช้งานมันครั้งเดียว แต่อย่างน้อยเอาล่ะผู้คนรู้จักศัพท์ใหม่ๆ มากขึ้น อย่าง โลกร้อน ถุงผ้า และอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
 
จริงๆ ผมก็งงๆ เหมือนกันนะว่ากระแสมันฟีเวอร์ขึ้นมาได้อย่างไร เพราะ ไอ้เจ้า green house effect, โลกร้อน เรารู้จักกันมาตั้งแต่เรียนประถม ขนาดผมเป็นนักเรียนชั้นปลายแถวของห้องยังรู้จักปรากฏการณ์เรือนกระจกเลย คงเป็นเพราะข่าวภัยพิบัติมากๆ ในช่วงนี้กระมัง ตั้งแต่สึนามิเป็นต้นมา แต่ก็บอกตรงๆ เลยนะครับว่า เวลาผมซื้อของที่ไหนก็ตาม ผมยังไม่เคยเห็นใครใช้ถุงผ้าหรือไม่ใส่ถุงเลยแม้แต่คนเดียว ยกเว้นแต่ผู้คนที่ไปซื้อของที่ห้างพลังบุญที่สันติอโศกบึงกุ่มเท่านั้นที่ทำกันอย่างนี้ แต่นั่นก็ด้วยนโยบายของห้างเท่านั้นที่เปลี่ยนไปแบบไม่ใช้ถุง หรือว่าห้างแมคโคร ซึ่งก็ไม่ใช่สิ่งที่ผู้คนทำกันเองโดยสมัครใจ
 
ทีนี้ใครที่ไปซื้อของที่ไหนก็ตามแล้วบอกว่าไม่ใส่ถุงแล้วพนักงานยังงงๆ อยู่ และต้องพูดหลายรอบ บางครั้งก็ต้องบอก "ไม่ต้อง ไม่ต๊อง ไม่ต้อง" หลายรอบ เพราะพนักงานกลัวเราลำบาก ตอนนี้ก็นับว่าน้อยลงมากแล้ว จงทำต่อไปเถอะครับ อดทนเสียสละปากเปียกปากแฉะ เพื่อทำสิ่งที่ดีกว่า ทุกวันนี้ผมไม่ต้องปากเปียกเองแล้ว เพราะวันนี้ถ้าหนีบลูกสาวไปด้วย เธอจะพูดแทนได้เป็นหุ่นยนต์เลยครับ
 
ขอพูดเรื่องถุงพลาสติกนิดนึงว่าทำไมเราจึงไม่ต้องการมัน ถุงพลาสติกนั้นเป็นสิ่งฟุ่มเฟือยทางสิ่งแวดล้อมมากที่สุด เหตุเพราะว่าเราใช้แล้วทิ้งทันที เพียงแค่ใส่แล้วหิ้วกลับบ้านเท่านั้น พลาสติกเป็นสิ่งที่ย่อยสลายกันเป็นชั่วอายุคน และที่ร้ายกาจคือมันไม่ได้ย่อยสลายจริงๆ มันแค่แตกกระจายออกเป็นละอองพลาสติกย่อยๆ เล็กๆ เท่านั้น ไม่เว้นถุงที่อ้างว่าย่อยสลายในเวลาไม่กี่ปีนั้น มันเพียงแค่ทำหน้าที่กระจายออกเป็นโมเลกุลย่อยๆ เท่านั้นเอง มันยังคงอยู่ในอากาศ, น้ำ และโลกที่เราอาศัยอยู่กันไปอีกนานแสนนาน หากมีละอองลงแหล่งน้ำที่บริโภคปลากินเข้าไปเราบริโภคปลาหรือบริโภคน้ำโดยตรงก็เข้าไปสะสมในร่างกาย เผลอๆก็กลายพันธุ์เป็นอย่างอื่น เช่น มะเร็ง ในที่สุด
 
เอาล่ะ เรื่องของถุงพลาสติกเป็นแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น ถ้าเราลงลึกไปอีก จะเห็นว่าสิ่งที่เราบริโภคอยู่ปัจจุบันนี้ ไม่ว่าจะเป็นการ กิน อยู่อาศัย เสื้อผ้า แทบทุกอย่างล้วนมีส่วนในการทำลายสิ่งแวดล้อมแทบทั้งสิ้น ถ้าฟังที่ผมพูดทั้งหมด เราอาจจะได้ยินคำว่า บ้าไปแล้ว ย
0/5000
จาก: -
เป็น: -
ผลลัพธ์ (ไทย) 1: [สำเนา]
คัดลอก!
เรื่องนี้ถูกเขียนขึ้นเนื่องจากงานเข้าสองงานคือได้รับเชิญไปออกรายการครอบครัวเดียวกันทางทีวีไทยกับอีกงานได้รับเกียรติให้ไปเป็นวิทยากรบอกเล่าประสบการณ์ด้านสิ่งแวดล้อมคาดไว้ว่าจะเป็นหัวข้อ "อยู่อย่างเบียดเบียนธรรมชาติน้อยที่สุดทำอย่างไร" จึงจำเป็นต้องเขียนบทความเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมขนาดยาวขึ้นเพื่อสองงานนี้แต่งานหลังคลาดไปเพราะเวลาไม่เหมาะสม "สิ่งแวดล้อม" เมื่อพูดถึงคำนี้แล้วเรานึกถึงอะไรถ้าเอาตามที่ผมนึกคิดสำหรับคนโดยมากนั้นมันคงเป็นอะไรที่ฟังดูไกลตัวมาก ๆ เลยไกลซะยิ่งกว่าเรื่องการเมืองเสียอีกเพราะอย่างน้อยการเมืองก็เกี่ยวกับเรื่องปากท้องแต่สิ่งแวดล้อมนี่สิไม่เห็นมันจะไปอิ่มท้องอะไรตรงไหนตรงกันข้ามถ้าหากว่าเรารู้และเข้าใจถึงมูลเหตุที่แท้จริงของมันเรื่องของสิ่งแวดล้อมกลับเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุดต่อการดำรงอยู่ของชีวิตทุกชีวิตเลยทีเดียวแล้วอย่างนี้จะมองว่ามันเป็นเรื่องไกลตัวได้อย่างไร อันที่จริงตัวกระผมเองนัั้นอาจมีพื้นฐานจากเรื่องราวของสิ่งแวดล้อมมาเป็นอันดับแรกก็เป็นได้ที่ทำให้เราเป็นเราอย่างทุกวันนี้หากย้อนไปได้สัก 7 ปีก่อนตอนนั้นก็เป็นได้แค่ผิว ๆ ของมันไม่รู้ทำไมผมมักจะสนใจเรื่องราวของสิ่งแวดล้อมมาตั้งแต่สมัยบ้าอ่านหนังสือพิมพ์มติชนสุดสัปดาห์ทุกครั้งที่มีการพูดถึงเรื่องราวของสิ่งแวดล้อมแล้วจะรู้สึกอินทุกครั้งไปตอนนั้นการเมืองก็อ่านเยอะเหมือนกันคงเป็นสมัยคุณทักษิณและไทยรักไทยกำลังฟีเวอร์แต่ติดตามไปติดตามมาก็ยิ่งรู้สึกว่าการเมืองไม่ต่างจากละครหลังข่าวนั่นคืออีรอบเดิมโคตรเน่าแต่ก็นับว่ายุคสมัยนั้นการเมืองมีสีสันมากมายจริง ๆ เพราะเกิดการเปลี่ยนแปลงวงการการเมืองที่น่าเบื่อมาสนุกสนานกับการแสดงโชว์ของนายกรัฐมนตรีสมัยนั้น ทั้งที่ตอนนั้นก็สนใจในลัทธิคอมมิวนิสต์รู้จักแนวคิดต่าง ๆ มากขึ้นทั้งซ้ายและขวาแต่สุดท้ายแล้วผมเลือกที่จะสนใจทางด้านสิ่งแวดล้อมบวกกับเรื่องราวของสังคมนิยมนั่นทำให้ผมเริ่มปฏิเสธบริโภคนิยมและทุนนิยมพอศึกษาไปมาก็พบว่าคอมมิวนิสต์ที่เกิดขึ้นมาบนโลกเป็นโลกที่เผด็จการโดยรัฐกว่าจะรู้ก็บ้าไปกับมันอยู่ 2-3 ปีนึกไปว่าคัมภีร์มาร์กซิสจะเป็นอุดมคติที่เราควรจะค้นหาค้นหาไปค้นหามาถึงได้รู้ว่าสิ่งที่เราทำได้ไม่ใช่การเรียกร้องให้เปลี่ยนแปลงทางโครงสร้างการเมืองการปกครองมหึมานั่นแต่เปลี่ยนที่ตัวเราเองจากข้างล่างคือระดับรายย่อยที่เล็กที่สุดคือระดับปัจเจกจึงเป็นคำถามว่าเราจะเปลี่ยนแปลงตัวเองได้อย่างไรโดยไม่จำเป็นต้องง้อการเปลี่ยนแปลงทางโครงสร้างที่ไม่รู้ว่าจะต้องเกิดอีกกี่ชาติแล้วถึงมันจะเปลี่ยนได้จริงผมก็ไม่เชื่อหรอกว่ามันจะดีขึ้นผมต้องการการเปลี่ยนแปลงเดี๋ยวนี้ชาตินี้และดีที่สุดไม่ต้องรอชาติหน้า เรื่องสิ่งแวดล้อมผมทำอยู่เป็นประจำอยู่แล้วตั้งแต่เกือบสิบปีที่แล้วผมปฏิเสธถุงพลาสติกตอนนั้นก็ทำอยู่แค่นั้นเพียงเพราะแค่ได้อ่านเรื่องราวของถุงพลาสติกยังไม่ได้สำนึกถึงสิ่งที่บริโภคตามมาอีกยังคงบริโภคตามใจอยากปกติถ้าถามคนที่เคยทำงานอยู่ด้วยกันตอนนั้นผมจะเป็นเจ้าลัทธิปฏิเสธถุงพลาสติกนำพาเพื่อน ๆ ถือขนมกันเองจริง ๆ ก็ไม่รู้จะใส่ไปทำอะไรด้วยมันแค่หิ้วสบายขึ้นด้วยความเคยชินใช้นิ้วเดียวหิ้วได้เท่านั้นเองเคยคิดจะทำละครงานประจำปีบริษัทเรื่อง "โลกยุคหลังพลาสติก" เสียด้วยซ้ำแต่ด้วยเวลาและงานที่ทำจึงไม่มีสมาธิพอจะคิดพล็อตออกมา ปัจจุบันเรื่องราวของสิ่งแวดล้อมเป็นเรื่องฮิตติดแฟชั่นท็อปชาร์ตไม่ว่าจะเป็นแฟชั่นถุงผ้าแฟชั่นโลกร้อนและสิ่งที่อันตรายที่สุดของแฟชั่นคือไม่นานมันก็จะหายไปโดยที่ไม่มีอะไรเกิดขึ้นแถมยังทำลายโลกมากขึ้นอีกด้วยแฟชั่นถุงผ้าที่ผลิตกันออกมาเพียงเพื่อใช้งานมันครั้งเดียวแต่อย่างน้อยเอาล่ะผู้คนรู้จักศัพท์ใหม่ ๆ มากขึ้นเชิงแบบอย่างโลกร้อนถุงผ้าและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม จริง ๆ ผมก็งง ๆ เหมือนกันนะว่ากระแสมันฟีเวอร์ขึ้นมาได้อย่างไรเพราะไอ้เจ้าเขียวบ้านผล โลกร้อนเรารู้จักกันมาตั้งแต่เรียนประถมขนาดผมเป็นนักเรียนชั้นปลายแถวของห้องยังรู้จักปรากฏการณ์เรือนกระจกเลยคงเป็นเพราะข่าวภัยพิบัติมาก ๆ ในช่วงนี้กระมังตั้งแต่สึนามิเป็นต้นมาแต่ก็บอกตรง ๆ เลยนะครับว่าเวลาผมซื้อของที่ไหนก็ตามผมยังไม่เคยเห็นใครใช้ถุงผ้าหรือไม่ใส่ถุงเลยแม้แต่คนเดียวยกเว้นแต่ผู้คนที่ไปซื้อของที่ห้างพลังบุญที่สันติอโศกบึงกุ่มเท่านั้นที่ทำกันอย่างนี้แต่นั่นก็ด้วยนโยบายของห้างเท่านั้นที่เปลี่ยนไปแบบไม่ใช้ถุงหรือว่าห้างแมคโครซึ่งก็ไม่ใช่สิ่งที่ผู้คนทำกันเองโดยสมัครใจ ทีนี้ใครที่ไปซื้อของที่ไหนก็ตามแล้วบอกว่าไม่ใส่ถุงแล้วพนักงานยังงง ๆ อยู่และต้องพูดหลายรอบบางครั้งก็ต้องบอก "ไม่ต้องไม่ต๊องไม่ต้อง" หลายรอบเพราะพนักงานกลัวเราลำบากตอนนี้ก็นับว่าน้อยลงมากแล้วจงทำต่อไปเถอะครับอดทนเสียสละปากเปียกปากแฉะเพื่อทำสิ่งที่ดีกว่าทุกวันนี้ผมไม่ต้องปากเปียกเองแล้วเพราะวันนี้ถ้าหนีบลูกสาวไปด้วยเธอจะพูดแทนได้เป็นหุ่นยนต์เลยครับ ขอพูดเรื่องถุงพลาสติกนิดนึงว่าทำไมเราจึงไม่ต้องการมันถุงพลาสติกนั้นเป็นสิ่งฟุ่มเฟือยทางสิ่งแวดล้อมมากที่สุดเหตุเพราะว่าเราใช้แล้วทิ้งทันทีเพียงแค่ใส่แล้วหิ้วกลับบ้านเท่านั้นพลาสติกเป็นสิ่งที่ย่อยสลายกันเป็นชั่วอายุคนและที่ร้ายกาจคือมันไม่ได้ย่อยสลายจริง ๆ มันแค่แตกกระจายออกเป็นละอองพลาสติกย่อย ๆ เล็ก ๆ เท่านั้นไม่เว้นถุงที่อ้างว่าย่อยสลายในเวลาไม่กี่ปีนั้นมันเพียงแค่ทำหน้าที่กระจายออกเป็นโมเลกุลย่อย ๆ เท่านั้นเองมันยังคงอยู่ในอากาศ น้ำและโลกที่เราอาศัยอยู่กันไปอีกนานแสนนานหากมีละอองลงแหล่งน้ำที่บริโภคปลากินเข้าไปเราบริโภคปลาหรือบริโภคน้ำโดยตรงก็เข้าไปสะสมในร่างกายเผลอๆก็กลายพันธุ์เป็นอย่างอื่นเช่นมะเร็งในที่สุด เอาล่ะเรื่องของถุงพลาสติกเป็นแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้นถ้าเราลงลึกไปอีกจะเห็นว่าสิ่งที่เราบริโภคอยู่ปัจจุบันนี้ไม่ว่าจะเป็นการกินอยู่อาศัยเสื้อผ้าแทบทุกอย่างล้วนมีส่วนในการทำลายสิ่งแวดล้อมแทบทั้งสิ้นถ้าฟังที่ผมพูดทั้งหมดเราอาจจะได้ยินคำว่าบ้าไปแล้วย
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 2:[สำเนา]
คัดลอก!
เรื่องนี้ถูกเขียนขึ้นเนื่องจากงานเข้า สองงานคือได้รับเชิญไปออกรายการครอบครัวเดียวกันทางทีวีไทยกับอีกงานได้รับเกียรติให้ไปเป็นวิทยากรบอกเล่าประสบการณ์ด้านสิ่งแวดล้อมคาดไว้ว่าจะเป็นหัวข้อ "อยู่อย่างเบียดเบียนธรรมชาติน้อยที่สุด ทำอย่างไร "จึงจำเป็นต้องเขียนบทความเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม ขนาดยาวขึ้นเพื่อสองงานนี้ แต่งานหลังคลาดไปเพราะเวลาไม่เหมาะสม
 " สิ่งแวดล้อม "เมื่อพูดถึงคำนี้แล้วเรานึกถึง อะไรถ้าเอาตามที่ผมนึกคิดสำหรับคนโดยมากนั้น มันคงเป็นอะไรที่ฟังดูไกล ตัวมาก ๆ เลยไกลซะยิ่งกว่าเรื่องการเมืองเสียอีกเพราะอย่างน้อยการเมืองก็เกี่ยวกับเรื่องปากท้อง แต่สิ่งแวดล้อมนี่สิไม่เห็นมันจะไปอิ่มท้องอะไรตรงไหนตรงกันข้ามถ้าหากว่าเรารู้และเข้าใจ ถึงมูลเหตุที่แท้จริงของมันเรื่องของสิ่งแวดล้อมกลับเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุดต่อหัวเรื่อง: การดำรงขณะนี้ของชีวิตทุกชีวิตเลยทีเดียวแล้วอย่างนี้จะมองว่าได้มันเป็นเรื่องไกลคุณตัวได้อย่างไร
 
อันที่จริงคุณตัวกระผมเองนัั้หนังสือนอาจมีพื้นฐาน จากเรื่องราวของสิ่งแวดล้อมมาเป็นอันดับแรก ก็เป็นได้ที่ทำให้เราเป็นเราอย่างทุกวันนี้หากย้อนไปได้สัก 7 ปีก่อนตอนนั้นก็เป็นได้แค่ ผิว ๆ ของมันไม่รู้ทำไมผมมักจะสนใจเรื่องราวของสิ่งแวดล้อมมาตั้งแต่สมัยบ้าอ่าน หนังสือพิมพ์มติชนสุดสัปดาห์ทุกครั้งที่ มีการพูดถึงเรื่องราวของสิ่งแวดล้อมแล้วจะรู้สึกอินทุกครั้งไปตอนนั้นการเมืองก็อ่านเยอะเหมือนกันคงเป็นสมัยคุณทักษิณและไทยรักไทยกำลังฟีเวอร์ แต่ติดตามไปติดตามมาก็ยิ่งรู้สึกว่าการเมืองไม่ ต่างจากเนชั่ละครหลังข่าวหุ้นไทยนั่นคืออีรอบเดิมโคตรเน่า แต่ก็นับว่าได้ยุคสมัยนั้นการเมืองมีสีสันมากมายจริงๆเพราะเกิดหัวเรื่อง: การเปลี่ยนแปลงวงการการเมืองที่น่าเบื่อมาสนุกสนานกับหัวเรื่อง: การสำคัญแสดงโชว์ของนายกรัฐมนตรีสมัยนั้น
 
ทั้งที่ตอนนั้นก็สนใจในห้างหุ้นส่วนจำกัด ลัทธิคอมมิวนิสต์รู้จักแนวคิดต่างๆมากขึ้นทั้ง ซ้ายและขวา แต่สุดท้ายแล้วผมเลือกที่จะสนใจทางด้านสิ่งแวดล้อมบวกกับเรื่องราวของสังคมนิยมนั่นทำให้ผมเริ่มปฏิเสธบริโภคนิยมและทุนนิยมพอศึกษาไปมาก็พบว่าคอมมิวนิสต์ที่เกิดขึ้นมาบนโลก เป็นโลกที่เผด็จการโดยรัฐกว่าจะ รู้ก็บ้าไปกับมันอยู่ 2-3 ปีนึกไปว่าคัมภีร์มาร์ก ซิสจะเป็นอุดมคติที่เราควรจะค้นหาค้นหาไปค้นหามาถึงได้รู้ว่าสิ่งที่เราทำได้ไม่ใช่การ เรียกร้องให้เปลี่ยนแปลงทางโครงสร้างการเมืองการ ปกครองมหึมานั่น แต่เปลี่ยนที่ตัวเราเองจากข้างล่างคือระดับรายย่อยที่เล็กที่สุดคือระดับปัจเจกจึงเป็นคำถามว่าเราจะเปลี่ยนแปลงตัวเองได้อย่างไรโดยไม่จำเป็นต้องง้อการเปลี่ยนแปลงทางโครงสร้าง ที่ไม่รู้ว่าได้จะคุณต้องเกิดอีกกี่คุณชาติแล้วถึงมันจะเปลี่ยนได้จริงผมก็ไม่เชื่อหรอกว่าได้มันจะดีขึ้นผมต้องการหัวเรื่อง: การเปลี่ยนแปลงเดี๋ยวนี้คุณชาตินี้และดีที่สุดไม่คุณต้องรอคุณชาติหน้า: ภาพประกอบ
 
เรื่องสิ่งแวดล้อมผมทำขณะนี้เป็นประจำความขณะนี้แล้ว ตั้งแต่เกือบสิบปีที่แล้วผมปฏิเสธ ถุงพลาสติกตอนนั้นก็ทำอยู่แค่นั้นเพียงเพราะแค่ได้อ่านเรื่องราวของถุงพลาสติกยังไม่ได้สำนึกถึงสิ่งที่บริโภคตามมาอีกยังคงบริโภคตามใจอยากปกติถ้าถามคนที่เคยทำงานอยู่ ด้วยกันตอนนั้นผมจะเป็นเจ้า ลัทธิปฏิเสธถุงพลาสติกนำพาเพื่อน ๆ ถือขนมกันเองจริงๆก็ไม่รู้จะใส่ไปทำอะไรด้วยมันแค่หิ้วสบายขึ้นด้วยความเคยชินใช้นิ้วเดียวหิ้วได้เท่านั้นเองเคยคิดจะทำละครงานประจำปี บริษัท เรื่อง "โลกยุคหลังพลาสติก" เสียด้วยซ้ำ แต่ด้วยเวลาและงานเจ้าหน้าที่ฝ่ายที่ทำจึงไม่มีสมาธิพอจะคิดพล็หนังสืออตออกมา
 
ปัจจุบันเรื่องราวของสิ่งแวดล้อมเป็นเรื่องฮิตติดแฟชั่นท็อปชาตั้งขึ้นร์ตไม่ว่าได้จะเป็นแฟชั่นถุง ผ้าแฟชั่นโลกร้อนและสิ่งที่อันตราย ที่สุดของแฟชั่นคือไม่นานมันก็จะหายไปโดยที่ไม่มีอะไรเกิดขึ้นแถมยังทำลายโลกมากขึ้นอีกด้วยแฟชั่นถุงผ้าที่ผลิตกันออกมาเพียงเพื่อใช้งานมันครั้งเดียว แต่อย่าง น้อยตั้งขึ้นเอาล่ะคุณผู้ของคุณคนรู้จักศัพท์ใหม่ ๆ มากขึ้นอย่างโลกร้อนถุงผ้าและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
 
จริงๆผมก็งง ๆ เหมือนกันนะว่าได้กระแสมันฟีเวอร์ขึ้นมาได้อย่างไรเพราะไอ้เจ้าผลบ้านสีเขียวโลกร้อนเรารู้จักกันมาตั้งแต่เรียน ประถมขนาดผมเป็นนักเรียนชั้นปลายแถว ของห้องยังรู้จักปรากฏการณ์เรือนกระจกเลยคงเป็นเพราะข่าวภัยพิบัติมาก ๆ ในช่วงนี้กระมังตั้งแต่สึนามิเป็นต้นมา แต่ก็บอกตรงๆเลยนะครับว่าเวลาผมซื้อของที่ไหนก็ตามผมยัง ไม่เคยเห็นใครใช้ถุงผ้าหรือ ไม่ใส่ถุงเลยแม้แต่คนเดียวยกเว้น แต่ผู้คนที่ไปซื้อของที่ห้างพลังบุญที่สันติอโศกบึงกุ่มเท่านั้นที่ทำกันอย่างนี้ แต่นั่นก็ด้วยนโยบายของห้างเท่านั้นที่เปลี่ยนไปแบบไม่ใช้ ถุงหรือว่าได้ห้างแมคโครซึ่งก็ไม่ใช่สิ่งที่คุณผู้ของคุณคนทำกันเองโดยสมัครงานใจ
 
ทีนี้ใครที่ไปซื้อของที่ไหนก็ตามแล้วนี่เพื่อดูรูปภาพว่าได้ไม่ใส่ถุงแล้วพนักงานยังงง ๆ ขณะนี้และคุณต้องพูดหลายรอบบางครั้งก็คุณต้องนี่เพื่อดูรูปภาพ "ไม่ต้อง ไม่ต๊องไม่ต้อง "หลายรอบเพราะพนักงานกลัวเราลำบากตอน นี้ก็นับว่าน้อยลงมากแล้วจงทำต่อไปเถอะครับอดทนเสียสละปากเปียกปากแฉะเพื่อทำสิ่งที่ดีกว่าทุกวันนี้ผมไม่ต้องปากเปียกเองแล้วเพราะวันนี้ถ้าหนีบลูกสาว ไปด้วยเพลงเธอจะพูดแทนได้เป็นหุ่นยนต์เลยได้ครับ
 
ขอพูดเรื่องถุงพลาสติกนิดนึงว่าได้ทำไมเราจึงไม่ต้องการมันถุงพลาสติกนั้นเป็นสิ่งฟุ่มเฟือยทางสิ่งแวดล้อมมากที่สุดเหตุเพราะว่าเราใช้แล้วทิ้งทันทีเพียงเพลงแค่ใส่แล้วหิ้วกลับร้านบ้าน เท่านั้นพลาสติกเป็นสิ่งที่ย่อยสลายกัน เป็นชั่วอายุคนและที่ร้ายกาจคือมันไม่ได้ย่อยสลายจริงๆมันแค่แตกกระจายออกเป็นละอองพลาสติกย่อย ๆ เล็ก ๆ เท่านั้นไม่เว้นถุงที่อ้างว่าย่อยสลายในเวลาไม่กี่ปีนั้นมัน เพียงแค่ทำหน้าที่กระจายออกเป็นโมเลกุล ย่อย ๆ เท่านั้นเองมันยังคงอยู่ในอากาศ , น้ำและโลกที่เราอาศัยอยู่กัน ไปอีกนานแสนนานหากมีละอองลงแหล่งน้ำที่บริโภคปลากินเข้าไปเราบริโภคปลาหรือบริโภคน้ำโดยตรงก็เข้าไป สะสมในห้างหุ้นส่วนจำกัดร่างกายเผลอ ๆ ก็กลายออกพันธุ์เป็นอย่างอื่นเช่นมะเร็งในห้างหุ้นส่วนจำกัดที่สุด
 
เอาล่ะเรื่องของถุงพลาสติกเป็นเพลงแค่จุดเริ่มคุณต้นเท่านั้นถ้าเราลงลึกไปอีกจะเห็นว่าได้สิ่งที่เราบริโภคขณะนี้ปัจจุบันนี้ไม่ว่าได้จะเป็นการกินขณะนี้อาศัย เสื้อผ้าแทบทุกอย่างล้วนมีส่วนใน การทำลายสิ่งแวดล้อมแทบทั้งสิ้นถ้าฟังที่ผมพูดทั้งหมดเราอาจจะได้ยินคำว่าบ้าไปแล้วย
การแปล กรุณารอสักครู่..
 
ภาษาอื่น ๆ
การสนับสนุนเครื่องมือแปลภาษา: กรีก, กันนาดา, กาลิเชียน, คลิงออน, คอร์สิกา, คาซัค, คาตาลัน, คินยารวันดา, คีร์กิซ, คุชราต, จอร์เจีย, จีน, จีนดั้งเดิม, ชวา, ชิเชวา, ซามัว, ซีบัวโน, ซุนดา, ซูลู, ญี่ปุ่น, ดัตช์, ตรวจหาภาษา, ตุรกี, ทมิฬ, ทาจิก, ทาทาร์, นอร์เวย์, บอสเนีย, บัลแกเรีย, บาสก์, ปัญจาป, ฝรั่งเศส, พาชตู, ฟริเชียน, ฟินแลนด์, ฟิลิปปินส์, ภาษาอินโดนีเซี, มองโกเลีย, มัลทีส, มาซีโดเนีย, มาราฐี, มาลากาซี, มาลายาลัม, มาเลย์, ม้ง, ยิดดิช, ยูเครน, รัสเซีย, ละติน, ลักเซมเบิร์ก, ลัตเวีย, ลาว, ลิทัวเนีย, สวาฮิลี, สวีเดน, สิงหล, สินธี, สเปน, สโลวัก, สโลวีเนีย, อังกฤษ, อัมฮาริก, อาร์เซอร์ไบจัน, อาร์เมเนีย, อาหรับ, อิกโบ, อิตาลี, อุยกูร์, อุสเบกิสถาน, อูรดู, ฮังการี, ฮัวซา, ฮาวาย, ฮินดี, ฮีบรู, เกลิกสกอต, เกาหลี, เขมร, เคิร์ด, เช็ก, เซอร์เบียน, เซโซโท, เดนมาร์ก, เตลูกู, เติร์กเมน, เนปาล, เบงกอล, เบลารุส, เปอร์เซีย, เมารี, เมียนมา (พม่า), เยอรมัน, เวลส์, เวียดนาม, เอสเปอแรนโต, เอสโทเนีย, เฮติครีโอล, แอฟริกา, แอลเบเนีย, โคซา, โครเอเชีย, โชนา, โซมาลี, โปรตุเกส, โปแลนด์, โยรูบา, โรมาเนีย, โอเดีย (โอริยา), ไทย, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, การแปลภาษา.

Copyright ©2025 I Love Translation. All reserved.

E-mail: