The value of MC is determined by th

The value of MC is determined by the degree of slope of the TC curve (see Figure 5.5).
TC increases at a decreasing rate up to point a and MC therefore falls as additional units
can be produced at less cost per unit. After point a, TC increases at an increasing rate
and MC increases. Additional units now cost increasingly more to produce.
From our previous analysis (see MP above), the value of MC can be approximated by
measuring the slope of a tangent drawn to the TC curve at each point. MC is therefore
minimised at point a, the point of inflection of the TC curve, corresponding to an
output of Q1. As only variable costs change in the short run, a change in total costs is
equivalent to a change in variable costs (i.e. as noted, TC and TVC in Figure 5.5a are vertically
parallel). MC might therefore be estimated from either the TC or TVC curves. For
example, at output Q1 in Figure 5.5a, the slopes of tangents drawn to the TC curve (at
point a) and to the TVC curve (at point b) are parallel. These are also the points of
inflection of each curve;MC is therefore minimised.
Figure 5.5b shows the relationship between MC, AVC and ATC. If MC is less than
AVC, then AVC must be falling.When MC equals AVC, then AVC is at a minimum, and
once MC lies above AVC, then AVC must increase. The same relationship holds between
MC and ATC. (Note: this is the same relationship between marginal and average values
initially illustrated between average product (AP) and marginal product (MP).)
Although MC is defined as the additional cost of producing an extra unit, firms may
have difficulty in making such estimates. For example, imagine estimating the cost of
producing an extra ball bearing when thousands might be produced in a given shift.
Therefore, in practice, we commonly talk of incremental increases in production and
the corresponding ‘incremental increase in cost’. This requires estimating the additional
production costs associated with producing an extra ‘batch’ of production, for example,
an extra thousand ball bearings. Nevertheless, although we may distinguish between
incremental cost and marginal cost, our basic marginal analysis remains in place.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ค่าของ MC จะถูกกำหนดโดยระดับของความชันของเส้นโค้ง TC (ดูรูปที่ 5.5).
TC เพิ่มขึ้นในอัตราที่ลดลงถึงจุดและ MC จึงตกอยู่ในฐานะหน่วยงานเพิ่มเติม
สามารถผลิตได้ด้วยต้นทุนที่ต่ำกว่าต่อหน่วย หลังจากจุดเพิ่มขึ้นเพิ่มขึ้นในอัตราที่ TC เพิ่มขึ้น
และ MC หน่วยงานเพิ่มเติมในขณะนี้ค่าใช้จ่ายมากขึ้นในการผลิต.
จากการวิเคราะห์ของเราก่อนหน้า (ดู MP ด้านบน)ค่าของ MC จะสามารถประมาณการ
วัดความชันของเส้นสัมผัสวาดเส้นโค้ง TC แต่ละจุด ดังนั้นจึงเป็น MC
ลดลงที่จุด q1 จุดผันโค้ง TC, สอดคล้องกับการส่งออก
ของ เป็นเพียงการเปลี่ยนแปลงของต้นทุนผันแปรในระยะสั้นการเปลี่ยนแปลงในค่าใช้จ่ายรวมเป็น
เทียบเท่ากับการเปลี่ยนแปลงในต้นทุนผันแปร (เช่นตามที่ระบุไว้, TC และ TVC ใน 5.5A รูปที่เป็นแนวตั้ง
ขนาน) พิธีกรจึงอาจจะถูกประเมินจากทั้ง TC หรือเส้นโค้ง tvc ตัวอย่างเช่น
ที่ q1 เอาท์พุทในรูป 5.5A, ลาดของ tangents วาดเส้นโค้ง TC (ที่จุด
) และเส้นโค้ง tvc (ที่จุด B) ขนาน เหล่านี้นอกจากนี้ยังมีจุดของการผัน
ของเส้นโค้งแต่ละ MC จะลดลงจึง
รูป 5.5b แสดงความสัมพันธ์ระหว่าง MC, AVC และ ATC. ถ้า MC มีค่าน้อยกว่า
AVC,แล้ว AVC ต้อง falling.when MC เท่ากับ AVC แล้ว AVC เป็นที่ต่ำสุดและครั้งเดียว
MC อยู่เหนือ AVC แล้ว AVC ต้องเพิ่ม ความสัมพันธ์เดียวกันถือระหว่าง
MC และ ATC (หมายเหตุ:. นี้คือความสัมพันธ์ระหว่างค่าเดียวกันร่อแร่และค่าเฉลี่ย
ตัวอย่างแรกระหว่างผลิตภัณฑ์เฉลี่ย (AP) และผลิตภัณฑ์ร่อแร่ (MP))
แม้ว่า MC ถูกกำหนดให้เป็นค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในการผลิตหน่วยพิเศษบริษัท
อาจจะมีความยากลำบากในการทำประมาณการดังกล่าว ตัวอย่างเช่นจินตนาการประมาณการค่าใช้จ่ายของ
ผลิตตลับลูกปืนพิเศษเมื่อหลายพันคนอาจจะมีการผลิตในการเปลี่ยนแปลงที่กำหนด.
ดังนั้นในทางปฏิบัติเรามักจะพูดคุยของการเพิ่มขึ้นที่เพิ่มขึ้นในการผลิตและ
การเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นใน 'ที่สอดคล้องกัน นี้ต้องประเมินเพิ่มเติม
ต้นทุนการผลิตที่เกี่ยวข้องกับการผลิต 'ชุดพิเศษของการผลิตเช่น
พันพิเศษลูกปืน แต่ถึงแม้ว่าเราอาจจะเห็นความแตกต่างระหว่างค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นและค่าใช้จ่าย
ร่อแร่ร่อแร่การวิเคราะห์ของเราพื้นฐานยังคงอยู่ในสถานที่

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ค่าของ MC ตามองศาของความลาดชันของ TC เส้นโค้ง (ดูรูปที่ 5.5) .
TC เพิ่มอัตราลดค่าชี้ตัว และ MC จึงตกหน่วยเพิ่มเติม
สามารถผลิตน้อยต้นทุนต่อหน่วยได้ หลังจากจุดต่อ TC เพิ่มขึ้นในอัตราเพิ่มขึ้น
และ MC เพิ่ม หน่วยเพิ่มเติมตอนนี้ทุนมากเพื่อผลิต
จากการวิเคราะห์ของเราก่อนหน้านี้ (ดูข้างต้น MP), ค่าของ MC สามารถเลียนแบบโดย
วัดความชันของเส้นสัมผัสที่ลากไป TC เส้นโค้งที่จุดแต่ละจุดได้ MC จึง
กระบวนที่ชี้จุด การผันคำของเส้นโค้ง TC ที่สอดคล้องกับการ
ผลไตรมาสที่ 1 เฉพาะต้นทุนผันแปรเปลี่ยนแปลงในระยะสั้น การเปลี่ยนแปลงในต้นทุนรวมเป็น
เทียบเท่ากับการเปลี่ยนแปลงในต้นทุนผันแปร (เช่นบันทึก TC และ TVC ในรูป 5.5a อยู่ในแนวตั้ง
ขนาน) MC ดังนั้นอาจจะประมาณจาก TC หรือ TVC โค้ง สำหรับ
ตัวอย่าง ที่ออก Q1 ในรูป 5.5a ลาดของ tangents ลากไปโค้ง TC (ที่
จุด) และจะโค้ง TVC (ที่จุด b) จะขนานกัน นี่คือจุดของ
ผันคำของแต่ละโค้งMC เป็นดังนั้นกระบวนการ
รูป 5.5b แสดงความสัมพันธ์ระหว่าง MC, AVC และ ATC ถ้าเป็น MC น้อยกว่า
AVC แล้ว AVC ต้องสามารถลดลงเท่ากับ MC AVC แล้ว AVC เป็นอย่างน้อยที่สุด และ
เมื่อ MC อยู่เหนือ AVC แล้ว AVC ต้องเพิ่ม มีความสัมพันธ์กันระหว่าง
MC และ ATC (หมายเหตุ: เป็นความสัมพันธ์กันระหว่างค่าเฉลี่ย และกำไร
คู่มือเริ่มต้นระหว่างผลิตภัณฑ์เฉลี่ย (AP) (MP) กำไรสินค้า)
แม้ว่า MC ไว้เป็นต้นทุนการผลิตหน่วยเสริม เพิ่มเติม กระชับอาจ
มีความยากลำบากในการประเมินดังกล่าว จินตนาการการประเมินต้นทุนของตัวอย่าง
ผลิตบอลแบริ่งพิเศษเมื่อพันอาจจะผลิตในการกำหนดกะ
ดังนั้น ในทางปฏิบัติ เรามักพูดเพิ่มส่วนเพิ่มในการผลิต และ
สอดคล้อง 'เพิ่มเพิ่มทุน' การประเมินเพิ่มเติม
ต้นทุนการผลิตที่เกี่ยวข้องกับการผลิตเพิ่มเติม 'ชุด' ผลิต เช่น,
การพันเพิ่มลูกปืน อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเราอาจแยกความแตกต่างระหว่าง
ต้นทุนส่วนเพิ่มและต้นทุนกำไร วิเคราะห์กำไรเบื้องต้นของเรายังคงอยู่ในตำแหน่ง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ให้ความคุ้มค่าของ MC จะถูกกำหนดโดยที่ระดับความลาดชันของที่ TC ความโค้งมน(ดูรูปที่ 5.5 )..
TC จะเพิ่มขึ้นในอัตราที่ลดลงได้ถึงจุดที่และ Mc ดังนั้นจึงอยู่ในชุด
ซึ่งจะช่วยเพิ่มเติมสามารถผลิตน้อยต้นทุนต่อหน่วย. หลังจากจุดที่ TC เพิ่มขึ้นในอัตราที่เพิ่มขึ้นและเพิ่มขึ้น
MC ชุดอุปกรณ์เพิ่มเติมในตอนนี้ราคาเพิ่มขึ้นอีกในการผลิต.
จากการวิเคราะห์ก่อนหน้าของเรา(ดู MP ด้านบน)มูลค่าของ MC สามารถโดยโดย
การวัดเนินลาดเทของนอกลู่นอกทางมาถึงโค้ง TC ที่แต่ละจุด MC จึงเป็นจริง
ซึ่งจะช่วยในจุดที่จุดที่มีการออกเสียงสูงต่ำของความโค้งมน TC ที่สอดคล้องกับ
เอาต์พุตของไตรมาสที่ 1 เป็นตัวแปรเฉพาะค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนแปลงในระยะสั้นที่ปรับเปลี่ยนในค่าใช้จ่ายทั้งหมดเป็น
ซึ่งจะช่วยในการเปลี่ยนแปลงในค่าใช้จ่ายในหลายระดับ(เช่นดังที่กล่าวไว้ TC และ TVC ควบคุมร่วมในรูปที่ 5.5 ที่มีในแนวตั้ง
แบบคู่ขนาน) MC อาจจะได้รับการประเมินจาก TC หรือความโค้งมน TVC ควบคุมร่วมทั้งดังนั้น สำหรับ
ยกตัวอย่างเช่นที่เอาต์พุตไตรมาสที่ 1 ในรูปที่ 5.5 ที่เนินเขาของ tangents ลากเป็นเส้นโค้ง TC (ที่
จุดที่)และเพื่อปรับตามความโค้งมนของรูปหน้า TVC ควบคุมร่วม(ที่จุด B )เป็นแบบคู่ขนาน เหล่านี้มีจุดที่ของ
ซึ่งจะช่วยทำให้เฉของความโค้งมนแต่ละ MC จึงเป็นจริง.
รูปที่ 5.5 B จะแสดงความสัมพันธ์ระหว่าง MC และ AVC ) หาก MC จะน้อยกว่า
AVCAVC จากนั้นจะต้องลดลงเมื่อ MC เท่ากับ AVC จากนั้น AVC เป็นอย่างน้อยที่สุดและ
เมื่อ MC ทอดตัวอยู่เหนือ AVC / AVC แล้วจะต้องเพิ่มขึ้น ความสัมพันธ์กับผู้ถือหุ้นระหว่าง
MC และ ATC (หมายเหตุ:โรงแรมแห่งนี้มีความสัมพันธ์แบบเดียวกันระหว่างค่าเศษและโดยเฉลี่ย
ซึ่งจะช่วยแสดงในครั้งแรกระหว่าง ผลิตภัณฑ์ โดยเฉลี่ย( AP )และ ผลิตภัณฑ์ เศษ( mp ))
แม้ว่า MC ถูกกำหนดเป็นค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมการผลิตชุดพิเศษบริษัทอาจ
มีความยากในการทำประมาณนั้น ตัวอย่างเช่นลองนึก ภาพ การประเมินค่าใช้จ่ายของ
ซึ่งจะช่วยเพิ่มการผลิตลูกที่แบริ่งเมื่อหลายพันคนอาจจะผลิตในการเปลี่ยนแปลงให้.
ดังนั้นในการปฏิบัติโดยทั่วไปเราพูดถึงการเพิ่มขึ้นในการผลิตเพิ่มขึ้นและ
ที่เกี่ยวข้อง'เพิ่มที่เพิ่มขึ้นในอัตราค่า' โรงแรมแห่งนี้ต้องมีการประเมินเพิ่มเติม
ตามมาตรฐานได้ต้นทุนการผลิตที่เกี่ยวข้องกับการผลิตพิเศษ'ชุดข้อมูลที่'การผลิตตัวอย่างเช่นแบริ่งพันลูกพิเศษ
ที่. แต่ถึงอย่างไรก็ตามแม้ว่าเราจะแยกความแตกต่างระหว่าง
ซึ่งจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายเพิ่มมากขึ้นและประหยัดค่าใช้จ่ายกว่าการวิเคราะห์ ภาพ แบบเรียบง่ายของเรายังคงอยู่ในสถานที่