The Princess was famously the first

The Princess was famously the first member of the Royal Family to have contact with AIDS victims and helped to break down global misconceptions about the disease.[88] In 1989, she opened Landmark Aids centre in South London.[91] In the late 1980s, when many people believed it could be contracted through casual contact, she sat on the bed of a victim and held his hand.[75][89][92][93] When asked about her work, Diana simply replied: "HIV does not make people dangerous to know. You can shake their hands and give them a hug. Heaven knows they need it."[94][95][96] However, the Queen disapproved of Diana's visiting people with HIV and leprosy and told her to do "something more pleasant" with her charity work.[88] In October 1990, Diana opened Grandma's House, a home for children infected with HIV in Washington, D.C.[97] In 1991, she traveled to São Paulo, Brazil, to comfort abandoned children living with AIDS in a local shelter.[94] It was here that she was photographed holding a baby with the disease. As the patron of Turning Point, a health and social care organization, Diana visited its project in London for people with HIV/AIDS in 1992.[98]

In March 1997, Diana visited South Africa. She met with President Nelson Mandela to discuss the growing threat of AIDS.[99][100] On 2 November 2002, five years after Diana's death, Mandela announced that the Nelson Mandela Children's Fund was planning to join the Diana, Princess of Wales Memorial Fund to help South Africans with HIV/AIDS and their families and to assist children orphaned by the disease.[101] "Caring for people who are dying and helping the bereaved was something for which Diana had passion and commitment," Mandela said at a London press conference.[101] "When she stroked the limbs of someone with leprosy, or sat on the bed of a man with HIV/AIDS and held his hand, she transformed public attitudes and improved the life chances of such people," Mandela said about the late Princess.[101] "People felt if a British princess can go to a ward with HIV patients, then there's nothing to be superstitious about."[101] Many other foundations and charities have joined her in the fight. For example, the Elton John Foundation raised over $2.1 million to support those vulnerable to HIV and People magazine established a Diana's Fund for children infected with HIV.[96]

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เจ้าหญิงซึ่งเป็นสมาชิกพระราชวงศ์ให้มีกับเหยื่อเอดส์รายแรก และช่วยทำลายโลกความเข้าใจผิดเกี่ยวกับโรค [88] ในปี 1989 เธอเปิดศูนย์เอดส์โรงแรมแลนด์มาร์คลอนดอนใต้ [91] ในปลายทศวรรษ 1980 เมื่อหลายคนเชื่อว่า สามารถตีบผ่านสบาย ๆ ติดต่อ เธอนั่งบนเตียงของเหยื่อ และมือถือ [75] [89] [92] [93] เมื่อถามเกี่ยวกับการงานของเธอ ไดอาน่าก็ตอบ: "เอชไอวีไม่ได้คนรู้อันตราย คุณสามารถจับมือของพวกเขา และมอบความฮัก สวรรค์รู้ว่า พวกเขาต้องการ" [94] [95] [96] อย่างไรก็ตาม ราชินีผู้เยี่ยมชมของไดอาน่ากับเอชไอวีและ leprosy ไม่เห็นด้วย และบอกเธอทำ "ดี ๆ มากขึ้น" กับงานการกุศลของเธอ [88] ในเดือนตุลาคมปี 1990 ไดอาน่าเปิดบ้านของยาย บ้านเด็กติดเชื้อเอชไอวีในวอชิงตัน D.C.[97] ในพ.ศ. 2534 เธอเดินทางไปเซาเปาลู บราซิล ให้สบายละทิ้งเด็กกับเอดส์ในพักอาศัยในท้องถิ่น [94] ได้ที่นี่ที่เธอถูกถ่ายภาพเก็บเด็กที่ มีโรค เป็นสมาชิกของจุดเปลี่ยน สุขภาพ และดูแลสังคมองค์กร ไดอาน่าเยี่ยมของโครงการในลอนดอนสำหรับคนที่มีเอชไอวี/เอดส์ในปี 1992 [98]ในเดือนมีนาคมปี 1997 ไดอาน่าเข้าแอฟริกาใต้ เธอได้พบกับประธานาธิบดีเนลสันมันเดลาเพื่อหารือเกี่ยวกับภัยคุกคามของเอดส์ [99] [100] วันที่ 2 2545 พฤศจิกายน ห้าปีหลังการเสียชีวิตของไดอาน่า มันเดลาประกาศว่า กองทุนเนลสันมันเดลาเด็กได้วางแผนเข้าไดอานา เจ้าหญิงของเวลส์อนุสรณ์กองทุนช่วยแอฟริกาใต้กับเอชไอวี/เอดส์และครอบครัว และ เพื่อช่วยเหลือเด็กในการใช้งาน โดยโรค [101] "Caring สำหรับคนตาย และช่วย bereaved ในสิ่งที่ไดอานาได้รักและผูกพัน, " มันเดลากล่าวในลอนดอนแถลง [101] "เมื่อเธอแบบขีดลงแขนขาของคนกับ leprosy หรือนั่งบนเตียงของคนที่มีเอชไอวี/เอดส์ และจัดมือของเขา เธอเปลี่ยนทัศนคติสาธารณะ และปรับปรุงโอกาสชีวิตของคนดังกล่าว มันเดลากล่าวว่า เกี่ยวกับเจ้าหญิงสาย [101] "ประชาชนมีความรู้สึกเจ้าหญิงอังกฤษสามารถไปผู้ป่วยกับผู้ป่วยเอชไอวี ถ้าไม่มีอะไรจะคร่ำครึเกี่ยวกับการ" [101] และอื่น ๆ อีกหลายมูลนิธิองค์กรการกุศลได้เข้าร่วมของเธอในการต่อสู้ ตัวอย่าง มูลนิธิจอห์นเอลตันยกกว่า 2.1 ล้านเหรียญเพื่อสนับสนุนเหล่านั้นเสี่ยงต่อการเชื้อเอชไอวี และนิตยสารคนก่อตั้งกองทุนของไดอานาเด็กที่ติดเชื้อเอชไอวี [96]

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เจ้าหญิงที่มีชื่อเสียงเป็นสมาชิกคนแรกของพระราชวงศ์ที่จะมีการติดต่อกับผู้ที่ตกเป็นเหยื่อโรคเอดส์และช่วยในการทำลายลงทั่วโลกเข้าใจผิดเกี่ยวกับโรค. [88] ในปี 1989 เธอเปิดศูนย์โรคเอดส์ในสถานที่สำคัญทางใต้ของลอนดอน. [91] ในช่วงปลายทศวรรษ 1980 เมื่อหลายคนเชื่อว่ามันอาจจะมีการหดตัวติดต่อผ่านสบาย ๆ ที่เธอนั่งอยู่บนเตียงของเหยื่อและมือถือของเขา [75] [89] [92] [93] เมื่อถามเกี่ยวกับการทำงานของเธอไดอาน่าก็ตอบว่า:. "เอชไอวี ไม่ได้ทำให้คนที่เป็นอันตรายที่จะรู้ว่า. คุณสามารถเขย่ามือของพวกเขาและให้พวกเขากอด. สวรรค์รู้ว่าพวกเขาจำเป็นต้องใช้มัน. "[94] [95] [96] อย่างไรก็ตามสมเด็จพระราชินีไม่เห็นด้วยกับผู้เข้าชมของเจ้าหญิงไดอาน่ากับเอชไอวีและโรคเรื้อนและบอก เธอทำ "สิ่งที่น่าพอใจมากขึ้น" กับงานการกุศลของเธอ. [88] ในเดือนตุลาคมปี 1990 ไดอาน่าเปิดบ้านยายที่บ้านสำหรับเด็กที่ติดเชื้อเอชไอวีในวอชิงตันดีซี [97] ในปี 1991 เธอเดินทางไปเซาเปาโล, บราซิล, เพื่อความสะดวกสบายที่อยู่อาศัยที่ถูกทอดทิ้งเด็กที่มีโรคเอดส์ในที่พักพิงในท้องถิ่น. [94] มันอยู่ที่นี่ว่าเธอถูกถ่ายภาพถือทารกที่มีโรค ในฐานะที่เป็นผู้มีพระคุณของ Turning Point, องค์กรด้านสุขภาพและการดูแลสังคมไดอาน่าไปเยี่ยมชมโครงการในลอนดอนสำหรับผู้ที่มีเอชไอวี / เอดส์ในปี 1992 [98] ในเดือนมีนาคมปี 1997 ไดอาน่าไปเยี่ยมแอฟริกาใต้ เธอได้พบกับประธานาธิบดีเนลสันแมนเดลาเพื่อหารือเกี่ยวกับภัยคุกคามที่เพิ่มขึ้นของโรคเอดส์. [99] [100] ที่ 2 พฤศจิกายน 2002 ห้าปีหลังจากการตายของเจ้าหญิงไดอาน่า, แมนเดลาประกาศว่าเนลสันแมนเดลากองทุนเพื่อเด็กกำลังวางแผนที่จะเข้าร่วมไดอาน่าเจ้าหญิงแห่งเวลส์อนุสรณ์ กองทุนรวมที่จะช่วยให้แอฟริกาใต้เอชไอวี / เอดส์และครอบครัวของพวกเขาและการให้ความช่วยเหลือเด็กกำพร้าจากโรค. [101] "การดูแลคนที่กำลังจะตายและช่วยปลอบอกปลอบใจเป็นสิ่งที่เจ้าหญิงไดอาน่ามีความหลงใหลและความมุ่งมั่น" แมนเดลากล่าวว่าที่ ลอนดอนแถลงข่าว. [101] "เมื่อเธอลูบแขนขาของคนที่มีโรคเรื้อนหรือนั่งอยู่บนเตียงของคนที่มีเอชไอวี / เอดส์และมือถือของเขาเธอเปลี่ยนทัศนคติของประชาชนที่ดีขึ้นและโอกาสในชีวิตของผู้คนเช่น" แมนเดลา กล่าวเกี่ยวกับปลายปริ๊นเซ. [101] "คนรู้สึกว่าถ้าเจ้าหญิงอังกฤษสามารถไปที่หอผู้ป่วยกับผู้ป่วยเอชไอวีแล้วมีอะไรที่จะเชื่อโชคลางเกี่ยวกับ." [101] มูลนิธิอื่น ๆ อีกมากมายและองค์กรการกุศลที่ได้เข้าร่วมในการต่อสู้ของเธอ ยกตัวอย่างเช่นเอลตันจอห์นมูลนิธิยกขึ้นเหนือ $ 2,100,000 ในการสนับสนุนผู้ที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อ HIV และนิตยสารพีเพิลจัดตั้งกองทุนไดอาน่าสำหรับเด็กที่ติดเชื้อเอชไอวี. [96]

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เจ้าหญิงได้สมาชิกคนแรกของราชวงศ์ที่ได้ติดต่อกับผู้ประสบภัยเอดส์และช่วยสลายความเข้าใจผิดทั่วโลกเกี่ยวกับโรค [ 88 ] ในปี 1989 เธอเปิดศูนย์เอดส์สถานที่สำคัญในลอนดอน [ 91 ] ในช่วงปลายทศวรรษ 1980 เมื่อหลายคนเชื่อว่ามันมีสัญญา ติดต่อผ่านทางสบายๆ เธอ นั่งลงบนเตียงของเหยื่อ และจับมือของเขา[ 75 ] [ 89 ] [ 92 ] [ 93 ] เมื่อถามเรื่องงานเธอ ไดอาน่าเพียงตอบ : เอชไอวี " ไม่ได้ทำให้ผู้คนอันตรายรู้ คุณสามารถเขย่ามือของพวกเขาและให้พวกเขากอด สวรรค์รู้ว่าพวกเขาต้องการ . " [ 94 ] [ 95 ] [ 96 ] อย่างไรก็ตาม ราชินีไม่อนุมัติของไดอาน่า เยี่ยมผู้ติดเชื้อและโรคเรื้อน และบอกให้เธอทำ " สิ่งที่สวยงาม " กับเธอทำงานการกุศล [ 88 ] ในเดือนตุลาคม 2533 , ไดอาน่าเปิดบ้านของคุณยายบ้าน สำหรับเด็กติดเชื้อเอชไอวีในวอชิงตัน ดี.ซี. [ 97 ] ในปี 1991 เธอเดินทางไปเซาเปาลู , บราซิล เพื่อความสบายของเด็กที่ถูกทอดทิ้งเอดส์ในหลุมหลบภัยท้องถิ่น [ 94 ] มันเป็นที่นี่ที่เธอถ่ายรูปอุ้มเด็กกับโรค เป็นผู้อุปถัมภ์ของจุดเปลี่ยน , สุขภาพและองค์กรดูแลสังคม ไดอาน่า เข้าเยี่ยมชมโครงการในลอนดอนสำหรับผู้ติดเชื้อเอชไอวี / เอดส์ใน 1992 . [ 98 ]

ในเดือนมีนาคม 1997 ไดอานาเยือนแอฟริกาใต้ เธอได้พบกับประธานาธิบดีเนลสัน แมนเดลา เพื่อหารือเกี่ยวกับการคุกคามการเติบโตของเอดส์ [ 99 ] [ 100 ] เมื่อ 2 พฤศจิกายน 2002 , ห้าปีหลังจากการเสียชีวิตของไดอาน่า มันเดลาประกาศว่ากองทุน เนลสัน แมนเดล่า เด็กก็จะเข้าร่วมกับไดอาน่าเจ้าหญิงแห่งเวลส์กองทุนอนุสรณ์ช่วยแอฟริกาใต้กับเอชไอวี / เอดส์และครอบครัวของพวกเขา และช่วยเหลือเด็กกำพร้า โดยโรค [ 101 ] " การดูแลสำหรับผู้ที่กำลังจะตายและช่วยทำให้สูญเสียบางสิ่งที่ไดอาน่ามีความรักและความผูกพัน " แมนเดลากล่าวในงานแถลงข่าวที่ลอนดอน [ 101 ] " เมื่อเธอ ลูบแขนของคนโรคเรื้อนหรือนั่งบนเตียงของผู้ชายที่ติดเชื้อเอชไอวี / เอดส์ และจับมือของเขา เธอเปลี่ยนทัศนคติของประชาชนและปรับปรุงโอกาสในชีวิตของคนเรา " มันเดลาพูดถึงเจ้าหญิงสาย [ 101 ] " คนรู้สึกว่าถ้าอังกฤษเจ้าหญิงสามารถไปที่วอร์ดผู้ป่วยติดเชื้อเอชไอวี ก็ไม่มีอะไรต้องลาง . . . . " [ 101 ] หลายๆ มูลนิธิ และองค์กรการกุศล ได้เข้าร่วมในการต่อสู้ ตัวอย่างเช่นมูลนิธิเอลตันจอห์นยกขึ้นเหนือ $ 2.1 ล้านบาทเพื่อสนับสนุนผู้ที่เสี่ยงต่อโรคเอดส์และนิตยสารคนก่อตั้งไดอาน่ากองทุนสำหรับเด็กติดเชื้อเอชไอวี [ 96 ]