EXECUTIVE SUMMARYNew Zealand has ga

EXECUTIVE SUMMARY
New Zealand has garnered international acclaim for its youth justice processes.
In particular, the New Zealand invention of the “family group conference (FGC)” for
youth offenders has been hailed as a pioneering model of restorative justice.
As an American prosecutor, I came to New Zealand this year specifically to study
the FGC and other restorative justice initiatives in New Zealand. I have become
convinced that restorative justice processes work and should be pursued as a matter of
criminal justice policy.
But what is restorative justice? Restorative justice is a process whereby parties
with a stake in a criminal offense (including the offender, the victim, and the
communities of each) collectively resolve how to deal with the aftermath of the criminal
act with an emphasis on repairing the harm from that act – the harm to the victim, to the
community, and to the offender her/himself. Examples of restorative justice include
FGCs, sentencing circles in North America, and victim-offender mediations in the United
States, each of which are described below.
Criminal justice processes that are restorative share a number of characteristics
that explain why they are effective in – among other things – reducing reoffending,
increasing satisfaction rates, and preventing crime in the first place.
Perhaps most important, restorative justice makes the actual victims of crime
central participants in the response to the crime. FGCs in New Zealand are conferences
in which victims are invited to meet offenders and their families, with the police and a
justice coordinator present, to discuss the crime and what should happen as a result of the
crime. Victims are thereby given a voice to tell of the impact of the crime and to get their
questions answered: Why were they victimized? Will they be victimized again? How
will the offender put things right? In New Zealand, victims have the right (but no
obligation) to attend the mandated FGC and to tell the young offender face-to-face about
the personal impact of the crime. Persons who have observed FGCs attest to how
important this expression is not only for the victim but the offender and his/her family.
Critically, the involvement of the victim leads to a greater accountability from the
young offender. It is difficult for offenders to make excuses and to retreat behind a shell
in the face of victims recounting the often devastating impact of the offense. Offenders
more often express real remorse, which is a key step to their own journey away from
crime and to the healing of the wounds suffered by victims.
Restorative justice works additionally because it gives new voices to victims, to
offenders, and to community representatives. In this way, the participants – including
even police – feel a greater sense of ownership in the process and of the outcomes
produced by the process. This explains why researchers have found much higher levels
of satisfaction with restorative justice processes than with traditional criminal justice in
the courts. Victim and offender satisfaction rates in excess of 90% are not unusual.
4
Restorative justice programs are also a natural fit with com

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

บทสรุปผู้บริหารประเทศไทยได้รวบรวมการโห่ร้องระหว่างประเทศสำหรับเยาวชนของกระบวนการยุติธรรมโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ประดิษฐ์ของ "กลุ่มครอบครัวประชุม(แช่งมันแทน)" สำหรับประเทศไทยเยาวชนผู้กระทำผิดได้รับการยกย่องเป็นแบบบุกเบิกของยุติธรรมเป็นอัยการที่อเมริกัน ผมมาประเทศไทยปีนี้โดยเฉพาะการศึกษาแช่งมันแทนและริเริ่มยุติธรรมอื่น ๆ ในนิวซีแลนด์ ฉันได้กลายเป็นเชื่อว่า ยุติธรรมกระบวนการทำงาน และควรติดตามเป็นเรื่องของนโยบายการยุติธรรมทางอาญาแต่ยุติธรรมคืออะไร ยุติธรรมเป็นกระบวนการโดยบุคคลมีหุ้นในทางอาญา (รวมทั้งผู้กระทำผิด เหยื่อ และชุมชนของแต่ละคน) รวมแก้ไขวิธีการจัดการกับผลพวงของอาชญากรเน้นซ่อมอันตรายจากที่พระราชบัญญัติ – อันตรายต่อเหยื่อ การกระทำชุมชน และผู้กระทำความผิดของเธอเทียบตัวเอง ตัวอย่างของยุติธรรมได้แก่FGCs วงปฏิรูปในทวีปอเมริกาเหนือ และผู้กระทำผิดเหยื่อเหตุการณ์ต่าง ๆ เหล่านี้ในสหรัฐอเมริกา แต่ละที่อธิบายไว้ด้านล่างกระบวนการยุติธรรมทางอาญาที่บูรณะแบ่งลักษณะที่อธิบายว่า ทำไมพวกเขามีประสิทธิภาพใน – ในหมู่สิ่งอื่น ๆ ลด reoffendingเพิ่มอัตราความพึงพอใจ และป้องกันอาชญากรรมในสถานที่แรกบางทีสำคัญ ฟื้นฟูความยุติธรรมให้เหยื่อจริงอาชญากรรมคนกลางในการตอบสนองต่ออาชญากรรม FGCs ในประเทศไทยจะจัดประชุมในเหยื่อซึ่งได้รับเชิญเพื่อตอบสนองผู้กระทำผิดและครอบครัวของพวกเขา กับตำรวจและผู้ประสานงานยุติธรรมปัจจุบัน เพื่อหารือเกี่ยวกับอาชญากรรมและอะไรจะเกิดขึ้นเป็นผลลัพธ์ของการอาชญากรรม เหยื่อจึงจะได้รับเสียง เพื่อบอกผลกระทบของอาชญากรรม และ การรับของพวกเขาตอบคำถาม: ทำไมที่พวกเขาตกเป็นเหยื่อ จะพวกเขาจะตกเป็นเหยื่ออีกหรือไม่ วิธีจะองใส่สิ่งที่ขวา ในนิวซีแลนด์ เหยื่อมีสิทธิ์ (แต่ไม่มีหน้าที่) เข้าร่วมแช่งมันแทนบังคับ และบอกผู้กระทาหนุ่มคุยเกี่ยวกับผลกระทบส่วนบุคคลของอาชญากรรม ผู้ที่ได้ปฏิบัติ FGCs ยืนยันถึงวิธีสิ่งสำคัญคือนิพจน์นี้ไม่เพียงแต่ สำหรับเหยื่อ แต่ผู้กระทำผิด และครอบครัวของตนวิกฤต การมีส่วนร่วมของเหยื่อนำไปสู่ความรับผิดชอบจากการเยาวชนผู้กระทำผิด มันเป็นเรื่องยากสำหรับผู้ที่กระทำผิด เพื่อให้ข้อแก้ตัว และถอยหลังกระสุนในหน้าเหยื่อเล่ามักจะทำลายล้างผลกระทบของการกระทำความผิด ผู้กระทำผิดเพิ่มเติมมักจะด่วนจริงความสำนึกผิด ซึ่งเป็นขั้นตอนสำคัญเพื่อตนเองเดินทางออกไปจากอาชญากรรม และการรักษาบาดแผลที่ได้รับ โดยเหยื่อยุติธรรมทำงานนอกจากนี้เนื่องจากให้เสียงใหม่เพื่อผู้ประสบภัยผู้กระทำผิด และตัวแทนชุมชน วิธีนี้ ผู้เรียนรวมทั้งแม้ตำรวจ – รู้สึกความรู้สึก ของความเป็นเจ้าของในกระบวนการ และผลลัพธ์ผลิต โดยกระบวนการ นี้อธิบายว่า ทำไมนักวิจัยได้พบระดับสูงมากความพึงพอใจกับกระบวนการยุติธรรมกว่ากับความยุติธรรมทางอาญาแบบดั้งเดิมในศาล เหยื่อและผู้กระทำความผิดอัตราความพึงพอใจเกิน 90% ไม่ผิดปกติ4ยุติธรรมที่กำเป็นธรรมชาติเหมาะกับ com

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

บทสรุปผู้บริหาร
นิวซีแลนด์ได้รวบรวมมาโห่ร้องต่างประเทศสำหรับกระบวนการความยุติธรรมเยาวชน.
โดยเฉพาะอย่างยิ่งการประดิษฐ์นิวซีแลนด์ของ "กลุ่มครอบครัวประชุม (FGC)" สำหรับ
ผู้ที่กระทำผิดเด็กและเยาวชนได้รับการยกย่องว่าเป็นรุ่นบุกเบิกของความยุติธรรมบูรณะ.
ในฐานะที่เป็นอัยการอเมริกัน ฉันมาถึงนิวซีแลนด์ในปีนี้โดยเฉพาะเพื่อการศึกษา
FGC และความคิดริเริ่มความยุติธรรมบูรณะอื่น ๆ ในนิวซีแลนด์ ฉันได้กลายเป็น
ความเชื่อมั่นว่ากระบวนการยุติธรรมบูรณะทำงานและควรจะดำเนินการเป็นเรื่องของ
นโยบายความยุติธรรมทางอาญา.
แต่สิ่งที่เป็นความยุติธรรมบูรณะ? ยุติธรรมบูรณะเป็นกระบวนการโดยฝ่าย
ที่มีส่วนร่วมในความผิดทางอาญา (รวมถึงผู้กระทำความผิดเหยื่อและเป็น
ชุมชนของแต่ละคน) รวมแก้ไขวิธีการจัดการกับผลพวงของความผิดทางอาญา
การกระทำที่มีความสำคัญในการซ่อมแซมความเสียหายจากการกระทำที่ - อันตรายต่อเหยื่อเพื่อ
ชุมชนและการกระทำผิดของเธอ / ตัวเอง ตัวอย่างของความยุติธรรมบูรณะ ได้แก่
FGCs แวดวงการพิจารณาคดีในทวีปอเมริกาเหนือและสื่อกลางเหยื่อผู้กระทำความผิดในประเทศ
สหรัฐอเมริกาซึ่งแต่ละอธิบายไว้ด้านล่าง.
กระบวนการความยุติธรรมทางอาญาที่มีส่วนแบ่งการบูรณะจำนวนของลักษณะ
ที่อธิบายว่าทำไมพวกเขามีประสิทธิภาพในการ - หมู่ สิ่งอื่น ๆ - ลด reoffending,
. เพิ่มอัตราความพึงพอใจและการป้องกันอาชญากรรมในสถานที่แรก
บางทีสิ่งที่สำคัญที่สุดคือความยุติธรรมบูรณะทำให้ผู้ที่ตกเป็นเหยื่อของอาชญากรรมที่เกิดขึ้นจริง
ผู้เข้าร่วมสำคัญในการตอบสนองต่อการเกิดอาชญากรรม FGCs ในนิวซีแลนด์มีการประชุม
ซึ่งผู้ที่ตกเป็นเหยื่อจะได้รับเชิญเพื่อตอบสนองผู้กระทำผิดและครอบครัวของพวกเขาด้วยตำรวจและ
ประสานงานความยุติธรรมในปัจจุบันเพื่อหารือเกี่ยวกับอาชญากรรมและสิ่งที่ควรจะเกิดขึ้นเป็นผลมาจากการ
ก่ออาชญากรรม ผู้ประสบภัยจะได้รับเสียงจึงจะบอกถึงผลกระทบของอาชญากรรมและเพื่อให้ได้ของพวกเขา
ตอบคำถาม: ทำไมพวกเขาตกเป็นเหยื่อ? พวกเขาจะตกเป็นเหยื่ออีกครั้งหรือไม่ วิธี
กระทำความผิดจะทำให้สิ่งที่ถูกต้อง? ในประเทศนิวซีแลนด์ที่ตกเป็นเหยื่อมีสิทธิ ( แต่ไม่มี
ภาระผูกพัน) ในการเข้าร่วม FGC รับคำสั่งและจะบอกผู้กระทำความผิดหนุ่มใบหน้าเพื่อใบหน้าเกี่ยวกับ
ผลกระทบส่วนบุคคลของอาชญากรรม บุคคลที่มีข้อสังเกต FGCs ยืนยันถึงวิธีการ
ที่สำคัญการแสดงออกนี้ไม่เพียง แต่สำหรับเหยื่อ แต่ผู้กระทำผิดและ / ครอบครัวของเขาและเธอ.
ฉกรรจ์มีส่วนร่วมของเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายนำไปสู่ความรับผิดชอบมากขึ้นจาก
ผู้กระทำความผิดหนุ่ม มันเป็นเรื่องยากสำหรับผู้กระทำผิดให้แก้ตัวและถอยหลังเปลือก
ในใบหน้าของผู้ที่ตกเป็นเหยื่อเล่ามักจะส่งผลกระทบต่อการทำลายล้างของการกระทำผิดที่ ผู้กระทำผิด
มากขึ้นมักจะแสดงความสำนึกผิดจริงซึ่งเป็นขั้นตอนที่สำคัญในการเดินทางของตัวเองออกไปจาก
อาชญากรรมและการรักษาบาดแผลรับความเดือดร้อนโดยผู้ที่ตกเป็นเหยื่อ.
ยุติธรรมบูรณะทำงานนอกจากนี้เนื่องจากจะทำให้เสียงใหม่ที่จะตกเป็นเหยื่อในการ
กระทำผิดและผู้แทนชุมชน ด้วยวิธีนี้ผู้เข้าร่วม - รวม
แม้กระทั่งตำรวจ - รู้สึกความรู้สึกของความเป็นเจ้าของในกระบวนการและผลที่
ผลิตโดยกระบวนการ นี้อธิบายว่าทำไมนักวิจัยได้พบในระดับที่สูงมาก
ของความพึงพอใจกับกระบวนการยุติธรรมบูรณะกว่าด้วยความยุติธรรมทางอาญาแบบดั้งเดิมใน
ศาล เหยื่อและความพึงพอใจของผู้กระทำความผิดอัตราในส่วนที่เกินจาก 90% เป็นไม่ได้ผิดปกติ.
4
โปรแกรมยุติธรรมบูรณะยังเป็นธรรมชาติเหมาะกับ COM

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

สรุปสำหรับผู้บริหารนิวซีแลนด์ได้รับการโห่ร้องระหว่างประเทศสำหรับกระบวนการเยาวชนผู้พิพากษาของโดยเฉพาะอย่างยิ่ง นิวซีแลนด์การประดิษฐ์ของ " การประชุมกลุ่มครอบครัว ( FGC ) ”เยาวชนที่กระทำความผิดได้รับการยกย่องว่าเป็นรุ่นบุกเบิกของกระบวนการยุติธรรมเชิงสมานฉันท์ .ในฐานะที่เป็นอัยการอเมริกัน , ฉันมานิวซีแลนด์ในปีนี้โดยเฉพาะเพื่อการศึกษาการริเริ่มฟื้นฟูความยุติธรรม FGC และอื่น ๆในนิวซีแลนด์ ฉันได้กลายเป็นเชื่อว่ากระบวนการยุติธรรมเชิงสมานฉันท์ กระบวนการทำงาน และควรติดตามเป็นเรื่องของนโยบายทางอาญาแต่สิ่งที่เป็นกระบวนการยุติธรรมเชิงสมานฉันท์ ? กระบวนการยุติธรรมเชิงสมานฉันท์เป็นกระบวนการโดยที่ฝ่ายกับการเดิมพันในความผิดอาญา ( รวมทั้งผู้ที่กระทำความผิด ผู้เสียหาย และชุมชนของแต่ละคน ) รวมแก้ไขวิธีจัดการกับผลพวงของอาชญากรทำโดยเน้นการซ่อมแซมความเสียหายจากพระราชบัญญัติและทำร้ายเหยื่อไปชุมชน และการกระทำของเธอเอง ตัวอย่างของกระบวนการยุติธรรมเชิงสมานฉันท์ ได้แก่fgcs โทษ , วงกลมในทวีปอเมริกาเหนือ และเหยื่อผู้ mediations ในสหรัฐอเมริการัฐซึ่งแต่ละอธิบายไว้ด้านล่างกระบวนการยุติธรรม กระบวนการที่ใช้หมายเลขของลักษณะบูรณะนั่นอธิบายว่าทำไมพวกเขาจะมีประสิทธิภาพในการลด reoffending ––ในสิ่งอื่น ๆ ,เพิ่มอัตราความพึงพอใจ และการป้องกันอาชญากรรมในสถานที่แรกบางทีสิ่งสำคัญที่สุด กระบวนการยุติธรรมเชิงสมานฉันท์ ทำให้เหยื่อของอาชญากรรมที่เกิดขึ้นจริงผู้กลางในการตอบสนองต่ออาชญากรรม fgcs ในนิวซีแลนด์คือ การประชุมซึ่งเหยื่อจะเชิญพบกับผู้ต้องขังและครอบครัวของพวกเขากับตำรวจและประสานงานนำเสนอความยุติธรรม เพื่อหารือเกี่ยวกับอาชญากรรมและสิ่งที่ควรเกิดขึ้นเป็นผลของอาชญากรรม เหยื่อจึงได้รับเสียงบอกของผลกระทบของอาชญากรรม และได้รับของพวกเขาตอบคําถาม : ทำไมพวกเขาเป็นเหยื่อ ? พวกเขาจะเป็นเหยื่ออีก ยังไงจะให้คนร้ายใส่สิ่งที่เหมาะสม ? ในนิวซีแลนด์ ผู้เสียหายมีสิทธิ ( แต่ไม่หน้าที่ ) เพื่อเข้าร่วมการบังคับ FGC และบอกผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับเด็กตัวต่อตัวผลกระทบส่วนบุคคลของอาชญากรรม ผู้สังเกต fgcs ยืนยันว่าที่สำคัญนี่ไม่ใช่แค่เหยื่อ แต่ผู้ที่กระทำความผิด และครอบครัว .วิกฤต , การมีส่วนร่วมของผู้ตายไปสู่ความรับผิดชอบที่มากขึ้นเยาวชนผู้กระทำความผิด มันเป็นเรื่องยากสำหรับผู้ที่จะแก้ตัว และถอยหลังเชลล์ในหน้าของเหยื่อเล่าผลกระทบรุนแรงมักจะผิด ผู้กระทำความผิดบ่อยขึ้นแสดงจริง สำนึกผิด ซึ่งเป็นคีย์ก้าวสู่การเดินทางของตัวเองห่างจากอาชญากรรมและการรักษาบาดแผลที่ได้รับความเดือดร้อนโดยผู้ที่ตกเป็นเหยื่อกระบวนการยุติธรรมเชิงสมานฉันท์ทำงานนอกจากนี้เพราะมันทำให้เสียงใหม่ให้เหยื่อ ,ผู้กระทำผิด และตัวแทนชุมชน ในการนี้ ผู้เข้าร่วมฯ รวมทั้งแม้แต่ตำรวจ–รู้สึกความรู้สึกมากขึ้นของความเป็นเจ้าของในกระบวนการและผลผลิตโดยกระบวนการ นี้อธิบายว่าทำไมนักวิจัยพบว่าระดับที่สูงมากในกระบวนการยุติธรรมทางอาญาความยุติธรรมเชิงสมานฉันท์มากกว่าแบบดั้งเดิมศาล เหยื่อและผู้กระทำผิดในอัตราเกินกว่า 90% ไม่ได้ผิดปกติ4 .โปรแกรมกระบวนการยุติธรรมเชิงสมานฉันท์ยังพอดีกับธรรมชาติ .