Longitudinal research in the final

Longitudinal research in the final year of high school showed that students' academic self-concept was predictive for success in the first year of higher education, after controlling for high school achievement and gender [32]. It was found that female high school students reported a lower academic self-concept than male students, even when controlling for individual achievement [32]. Also in first year university STEM students, math and science self-concept of female students was lower compared to male students [33]. In a longitudinal study of first year university students in social science, there was no gender difference in academic self-concept at the beginning of higher education, but after the first semester at university, general academic self-concept of female students significantly declined, whereas there was no self-concept change for male students [34]. A cross-sectional study in a New-Zealand university reported no gender differences in verbal and math self-concept of undergraduate students of the same faculty, suggesting that student's choice of courses was based on confidence and interest in the subject, rather than being determined by the gender stereotype that math is a masculine discipline [35]. Although most studies indicate that female college students have a lower academic self-concept than male college students, more research on self-concept and gender during transition into university is needed.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

การวิจัยระยะยาวในปีสุดท้ายของมัธยมพบ self-concept ทางวิชาการของนักเรียนที่ถูกทำนายความสำเร็จในปีแรกของการอุดมศึกษา หลังจากการควบคุมสูงโรงเรียนสำเร็จ และเพศ [32] พบว่า นักเรียนหญิงรายงาน self-concept ทางวิชาการที่ต่ำกว่านักเรียนชาย แม้ว่าการควบคุมสำหรับแต่ละความสำเร็จ [32] ยัง แรกปีต้นกำเนิดนักศึกษามหาวิทยาลัย self-concept คณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ของนักเรียนหญิงถูกล่างเปรียบเทียบกับนักเรียนชาย [33] ในการศึกษาระยะยาวของนักศึกษาปีแรกในสังคมศาสตร์ ดาวเพศใน self-concept วิชาการของศึกษา แต่หลังจากภาคแรกที่มหาวิทยาลัย self-concept ทางวิชาการทั่วไปนักเรียนหญิงอย่างมีนัยสำคัญ ปฏิเสธ ในขณะที่มีการเปลี่ยนแปลงไม่มี self-concept ศึกษาชาย [34] การศึกษาภาคตัดขวางในมหาวิทยาลัยนิวซีแลนด์รายงานไม่มีความแตกต่างของเพศในคำพูดและ self-concept ทางคณิตศาสตร์ของนักเรียนระดับปริญญาตรีของคณะเดียวกัน แนะนำว่า ทางเลือกของนักศึกษาหลักสูตรตามความมั่นใจและสนใจในเรื่อง แทนที่ถูกกำหนด โดยการเหมารวมเพศคณิตศาสตร์ที่มีวินัยเข้มแข็ง [35] แม้ว่าการศึกษาส่วนใหญ่ระบุว่า นักศึกษาหญิงวิทยาลัยมี self-concept ทางวิชาการที่ต่ำกว่านักศึกษาชายวิทยาลัย self-concept และเพศในระหว่างเปลี่ยนแปลงเป็นมหาวิทยาลัยวิจัยเพิ่มเติมเป็นสิ่งจำเป็น

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การวิจัยระยะยาวในปีสุดท้ายของโรงเรียนมัธยมแสดงให้เห็นว่าแนวคิดตนเองของนักศึกษาวิชาการทำนายสำหรับความสำเร็จในปีแรกของการศึกษาที่สูงขึ้นหลังจากการควบคุมสำหรับความสำเร็จที่โรงเรียนมัธยมและเพศ [32] มันก็พบว่านักเรียนมัธยมหญิงรายงานวิชาการแนวคิดตนเองต่ำกว่านักเรียนชายแม้ในขณะที่การควบคุมสำหรับความสำเร็จของแต่ละบุคคล [32] นอกจากนี้ในปีแรกนักศึกษามหาวิทยาลัย STEM, คณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ด้วยตนเองแนวคิดของนักเรียนหญิงถูกลดลงเมื่อเทียบกับนักเรียนชาย [33] ในการศึกษาระยะยาวของนักศึกษามหาวิทยาลัยปีแรกในสาขาวิทยาศาสตร์ทางสังคมไม่มีความแตกต่างทางเพศในทางวิชาการแนวคิดตนเองที่จุดเริ่มต้นของการศึกษาที่สูงขึ้น แต่หลังจากที่ภาคการศึกษาแรกที่มหาวิทยาลัยทั่วไปวิชาการแนวคิดตนเองของนักเรียนหญิงอย่างมีนัยสำคัญลดลงในขณะที่ ไม่มีการเปลี่ยนแปลงแนวคิดตนเองสำหรับนักเรียนชาย [34] การศึกษาแบบตัดขวางในมหาวิทยาลัยนิวซีแลนด์รายงานไม่มีความแตกต่างทางเพศในทางวาจาและคณิตศาสตร์แนวคิดตนเองของนักศึกษาระดับปริญญาตรีคณะเดียวกันบอกตัวเลือกของนักศึกษาของหลักสูตรอยู่บนพื้นฐานของความเชื่อมั่นและความสนใจในเรื่องมากกว่าการตัดสินใจ โดยตายตัวเพศว่าคณิตศาสตร์เป็นวินัยผู้ชาย [35] ถึงแม้ว่าการศึกษาส่วนใหญ่ระบุว่านักศึกษาหญิงมีนักวิชาการแนวคิดตนเองต่ำกว่านักศึกษาชายวิจัยเพิ่มเติมเกี่ยวกับอัตมโนทัศน์และเพศในระหว่างการเปลี่ยนแปลงในระดับมหาวิทยาลัยเป็นสิ่งจำเป็น

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การวิจัยระยะยาวในช่วงปีสุดท้ายของโรงเรียน พบว่า นักเรียนมีอัตมโนทัศน์ด้านความสำเร็จในปีแรกของการอุดมศึกษา หลังจากการควบคุมสำหรับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนโรงเรียนมัธยมและเพศ [ 32 ] พบว่า นักเรียนหญิง ม.ปลาย รายงานวิชาการอัตมโนทัศน์ต่ำกว่านักศึกษาชาย แม้ว่าการควบคุมสำหรับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนแต่ละ [ 32 ] นอกจากนี้ ในต้นปีแรกนักเรียนมหาวิทยาลัย คณิตศาสตร์ และวิทยาศาสตร์ อัตมโนทัศน์ของนักเรียนหญิงที่ลดลงเมื่อเทียบกับนักศึกษาชาย [ 33 ] ในการศึกษาระยะยาวของนิสิตนักศึกษาปีแรกในทางสังคมศาสตร์ ไม่มีเพศ ในอัตมโนทัศน์วิชาการที่จุดเริ่มต้นของการศึกษาสูง แต่หลังจบเทอมแรกที่มหาวิทยาลัยทั่วไป วิชาการ อัตมโนทัศน์ของนักเรียนหญิงอย่างมีนัยสำคัญลดลง ในขณะที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงอัตมโนทัศน์สำหรับนักเรียนชาย [ 34 ] จึงได้ศึกษาในมหาวิทยาลัยของนิวซีแลนด์รายงานว่า ไม่มีความแตกต่างระหว่างเพศในทางคณิตศาสตร์และอัตมโนทัศน์ของนักศึกษาระดับปริญญาตรี คณะเดียวกัน บอกว่า นักเรียนเลือกของหลักสูตรขึ้นอยู่กับความเชื่อมั่นและสนใจในเรื่อง แทนที่จะถูกกำหนดโดยเพศตายตัวว่าคณิตศาสตร์เป็นวินัยชาตรี [ 35 ] ถึงแม้ว่าการศึกษาส่วนใหญ่พบว่า นักศึกษาหญิงมีอัตมโนทัศน์ต่ำวิชาการมากกว่านักศึกษาชายมากกว่างานวิจัยเกี่ยวกับอัตมโนทัศน์และเพศในช่วงการเปลี่ยนแปลงในมหาวิทยาลัยเป็นสิ่งจำเป็น