หลักการใช้ Present Simple Tense1. ใ

หลักการใช้ Present Simple Tense


1. ใช้กับเหตุการณ์หรือการกระทำที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน หรือเกิดขณะที่พูดเช่น

Ann watches television.

Ron takes a bath in the bathroom.

2. ใช้กับเหตุการณ์หรือการกระทำที่เป็นจริงตามธรรมชาติไม่ว่าจะเป็นอดีต ปัจจุบัน

หรืออนาคตเช่น

Tiger is a dangerous animal.

The earth moves around the sun.

3. ใชักับเหตุการณ์หรือการกระทำที่เกิดขึ้นบ่อยๆซ้ำๆจนเป็นกิจวัตรประจำวันหรือประจำเดือน




--------------------------------------------------------------------------------




ทำไมคำกริยาต้องเติม " s " หรือ " es "



Read aloud.
1. I drink water every day.
2. You drink water every day.
3. We drink water every day.
4. They drink water every day.
5. He drinks water every day.
6. She drinks water every day.
7. It drinks water every day.
นักเรียนจะสังเกตเห็นว่าในข้อ 5 - 6 - 7 คำกริยา drink เติม s นักเรียนลองเดาซิคะว่าเพราะอะไรบางคนก็ตอบถูกค่ะว่าเพราะประธานเป็นเอกพจน์บุรุษที่ 3 คือ He She และ It ค่ะ นักเรียนต้องจำให้ได้นะคะ



กฎการเติม s หรือ es หลังคำกริยา
1. คำกริยาธรรมดาทั่วๆไปเติม S ได้ทันที เช่นคำว่า work - works , live - lives
2. คำกริยาที่ลงท้ายด้วย s , ss , sh , ch , x และ o ให้เติม es เช่น go - goes ,
watch - watches , catch - catches
3. คำกริยาที่ลงท้ายด้วย y ให้เปลี่ยน y เป็น I แล้วเติม es เช่น cry - cries ,
study - studies


--------------------------------------------------------------------------------


Present Simple Tense ในรูปประโยคบอกเล่า

ประโยคบอกเล่า หมายถึงประโยคที่พูดหรือเล่าเรื่องราวต่างๆให้ฟัง เช่น ฉันดื่มน้ำทุกๆวัน ในภาษาอังกฤษรูปกริยาที่ใช้ต้องเป็นช่องที่ 1 ( V .1 ) ถ้าประธานเป็นเอกพจน์กริยาต้องเติม s หรือ es ส่วนประธานพหูพจน์ ( รวมทั้ง I และ You ) กริยาไม่ต้องเติมให้คงรูปเดิม



โครงสร้างประโยค Present Simple Tense





ประธาน กริยา กรรม คำบอกเวลา



--------------------------------------------------------------------------------


Present Simple Tense ในรูปประโยคปฏิเสธ

ถ้าในประโยคบอกเล่านั้นมีเพียงกริยาแท้ เมื่อต้องการเปลี่ยนให้เป็นปฏิเสธให้นำ Verb to do ( do not , does not ) วางไว้หลังประธานมีรูปแบบดังนี้



ประธาน

do not

กริยาแท้ช่องที่1


does not


do not ( don't ) ใช้กับประธานพหูพจน์ได้แก่ I , You , We , They

does not ( doesn't ) ใช้กับประธานเอกพจน์ได้แก่ He , She , It

เช่น ประโยคบอกเล่า I live in London.

ประโยคปฎิเสธ I don' t live in London.

ประโยคบอกเล่า He lives in Canada.

ประโยคปฎิเสธ He doesn' t live in Canada.

ข้อสังเกต 1. เมื่อใช้ does not ( doesn ' t ) กับประธานเอกพจน์ คำกริยาที่เติม s หรือ es ให้ตัด s หรือ es ทิ้งและคงเหลือคำกริยาช่องที่ 1 ซึ่งไม่ต้องเติมอะไรทั้งสิ้น

2. ส่วน do not ( don 't )ใช้กับประธานพหูพจน์คำกริยาให้คงเดิมไม่ต้องเปลี่ยนแปลงใดๆ


--------------------------------------------------------------------------------


Present Simple Tense ในรูปประโยคคำถาม

ประโยค Present Simple Tense ที่มี Verb to be เมื่อทำเป็นคำถามให้นำ Verb to be มาวางไว้หน้าประธาน แต่ถ้าประโยคนั้นๆไม่มี Verb to be ให้ใช้ Verb to do ( do , does ) วางไว้หน้าประธาน


มีรูปแบบดังนี้


Do
ประธาน กริยาแท้ช่องที่ 1 ?
Does

เช่น ประโยคบอกเล่า : They live in London.
ประโยคคำถาม : Do they live in London ?
ประโยคบอกเล่า : He works in an office.
ประโยคคำถาม : Does he work in an office ?
Do ใช้กับประธานพหูพจน์ มี I , You , We , They
Does ใช้กับประธานเอกพจน์ มี He , She , It

ข้อสังเกต

1.การใช้ Verb to do ในประโยคคำถามเมื่อใช้ Does กับประธานเอกพจน์ให้ตัดs หรือ esข้างหลังคำกิยาทิ้งและคงไว้แต่คำกริยาแท้ ( V.1)
2.แต่ถ้าใช้ Do กับประธานพหูพจน์คำกริยาคงเดิมไม่เปลี่ยนแปลง



; www.igetweb.com


Verb Tenses
(Present Tenses )







ดังได้กล่าวมาในบท Verb Tense ( Types ) แล้วว่า Verb Tense มีทั้งหมด 12 รูปใน active voice ในบทนี้จะได้กล่าวถึงการใช้ Present tenses ทั้ง 4 รูปคือ Simple present , Present progressive, Present perfect,และ Present perfect progressive.

1.Simple Present Tense

โครงสร้าง


Subject auxiliary verb ( do ) main verb ( base )
ประธาน กริยาช่วย ( do) กริยาหลักช่อง 1


ดังตัวอย่าง




ประธาน

กริยาหลัก






บอกเล่า

I

am



French.


You, we, they

are



French.


He, she, it

is



French.


- ปฏิเสธ

I

am

not

old.


You, we, they

are

not

old.


He, she, it

is

not

old.


? คำถาม

Am

I



late?


Are

you, we, they



late?


Is

he, she, it



late?


การใช้ ใช้ Simple Present tense เมื่อ
•เป็นการกระทำ/เหตุการณ์ที่เป็นจริงโดยทั่วไป เช่น
The Moon goes round the Earth.
Birds fly.
Sugar is sweet.
•เป็นการบรรยายการกระทำ/เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในขณะที่พูด
John waits patiently while Bridget books the tickets.
He needs help right now.
I'm here now.
The car is clean
•เป็นกระทำที่เกิดขึ้นตลอดเวลา เป็นกิจวัตร ทั้งในอดีต ปัจจุบัน และอนาคต เช่น
He gets up early every day.
I play football every Sunday.
•เป็นการกระทำที่กำหนดแน่นอนว่า จะกระทำในอนาคต โดยใช้ ร่วมกับ adverb หรือ adverbial phrase เช่น
The doors open in 10 minutes.
John arrives on Tuesday.

มีข้อยกเว้นดังนี้
•สำหรับประโยคบอกเล่า ( positive ) ปกติจะไม่ใช้กริยาช่วย ( นอกจากต้องการเน้นเช่น I do love you )
•สำหรับประธานเอกพจน์บุรุษที่ 3 ( he, she, it ) เติม s ที่กริยาหลัก และเติม es ที่กริยาช่วย
•สำหรับ verb to be ที่เป็นกริยาหลัก ปกติจะไม่มีกริยาช่วย แม้ในประโยคปฏิเสธ หรือประโยคคำถาม

ตามตัวอย่างในตารางต่อไปนี้




ประธาน

กริยาช่วย



กริยาหลัก





บอกเล่า

I, you, we, they





like

coffee.


He, she, it





likes

coffee.


-
ปฏิเสธ

I, you, we, they

do

not

like

coffee.


He, she, it

does

not

like

coffee.


?
คำถาม

Do

I, you, we, they



like

coffee?


Does

he, she, it



like

coffee?


verb to be ที่เป็นกริยาหลัก ปกติจะไม่มีกริยาช่วย แม้ในประโยคปฏิเสธ หรือประโยคคำถามดังนี้

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

หลักการใช้มีเรื่องตึงเครียด


1 ใช้กับเหตุการณ์หรือการกระทำที่เกิดขึ้นในปัจจุบันหรือเกิดขณะที่พูดเช่น

แอนนาฬิกาโทรทัศน์.

ร้อนจะอาบน้ำในห้องน้ำ

2 ใช้กับเหตุการณ์หรือการกระทำที่เป็นจริงตามธรรมชาติไม่ว่าจะเป็นอดีตปัจจุบัน

หรืออนาคตเช่น

เสือได้เป็นอันตรายสัตว์

โลกย้ายสถานอาทิตย์

3 ใชักับเหตุการณ์หรือการกระทำที่เกิดขึ้นบ่อยๆซ้ำๆจนเป็นกิจวัตรประจำวันหรือประจำเดือน




--




ทำไมคำกริยาต้องเติม "s" หรือ " es "



อ่านออกเสียง
1 ฉันดื่มน้ำทุกวัน
2 คุณดื่มน้ำทุกวัน
3 เราดื่มน้ำทุกวัน
4 พวกเขาดื่มน้ำทุกวัน
5 เขาดื่มน้ำทุกวัน
6 เธอดื่มน้ำทุกวัน
7 ก็ดื่มน้ำทุกวัน
นักเรียนจะสังเกตเห็นว่าในข้อ 5-6-7 คำกริยาเครื่องดื่มเติม s นักเรียนลองเดาซิคะว่าเพราะอะไรบางคนก็ตอบถูกค่ะว่าเพราะประธานเป็นเอกพจน์บุรุษที่ 3 คือเขาเธอและมันค่ะนักเรียนต้องจำให้ได้นะคะ



กฎการเติม s หรือ es หลังคำกริยา
1 คำกริยาธรรมดาทั่วๆไปเติม S ได้ทันทีเช่นคำว่าทำงาน -ทำงาน สด - ชีวิต
2 คำกริยาที่ลงท้ายด้วย s, ss, sh, ch, x และ o ให้เติม es เช่นไป - ไป,
นาฬิกา - นาฬิกา จับ - จับ
3 คำกริยาที่ลงท้ายด้วย y ให้เปลี่ยน y เป็นฉันแล้วเติม es เช่นร้อง - เสียงร้อง,
ศึกษา - ศึกษา


--


ในรูปประโยคบอกเล่ามีเรื่องตึงเครียด

ประโยคบอกเล่าหมายถึงประโยคที่พูดหรือเล่าเรื่องราวต่างๆให้ฟังเช่นฉันดื่มน้ำทุกๆวันในภาษาอังกฤษรูปกริยาที่ใช้ต้องเป็นช่องที่ 1 (V1 ถ้าประธานเป็นเอกพจน์กริยาต้องเติม s หรือ es ส่วนประธานพหูพจน์ (รวมทั้งฉันและคุณ) กริยาไม่ต้องเติมให้คงรูปเดิม



โครงสร้างประโยคปัจจุบันกาลอย่าง




ประธานกริยากรรมคำบอกเวลา



---


ในรูปประโยคปฏิเสธมีเรื่องตึงเครียด

ถ้าในประโยคบอกเล่านั้นมีเพียงกริยาแท้เมื่อต้องการเปลี่ยนให้เป็นปฏิเสธให้นำกริยาทำ (ไม่ได้ ไม่ได้) วางไว้หลังประธานมีรูปแบบดังนี้


ประธาน

ไม่

กริยาแท้ช่องที่1


ไม่ได้


ทำไม่ (ไม่) ใช้กับประธานพหูพจน์ได้แก่ คุณ เรา พวกเขา

ไม่ใช้กับประธานเอกพจน์ได้แก่ (ไม่) ไม่เขา เธอ ก็

ประโยคบอกเล่าเช่นที่ฉันอาศัยอยู่ในลอนดอน

ประโยคปฎิเสธฉัน ' ทีอาศัยอยู่ในลอนดอน

ประโยคบอกเล่าที่เขาอยู่ในแคนาดา

ประโยคปฎิเสธเขา doesn' t อยู่ในแคนาดา

ข้อสังเกต 1 ไม่มีเมื่อใช้ (doesn ' t) กับประธานเอกพจน์คำกริยาที่เติม s หรือ es ให้ตัด s หรือ es ทิ้งและคงเหลือคำกริยาช่องที่ 1 ซึ่งไม่ต้องเติมอะไรทั้งสิ้น

2 ส่วนไม่ (ดอนไม่) ใช้กับประธานพหูพจน์คำกริยาให้คงเดิมไม่ต้องเปลี่ยนแปลงใด ๆ


--


ในรูปประโยคคำถามมีเรื่องตึงเครียด

ที่มีมีเรื่องตึงเครียดประโยคกริยาจะ เมื่อทำเป็นคำถามให้นำกริยาจะ มาวางไว้หน้าประธานแต่ถ้าประโยคนั้นๆไม่มีกริยาจะ ให้ใช้กริยาทำ ( ไม่) วางไว้หน้าประธาน


มีรูปแบบดังนี้


ทำ
ประธานกริยาแท้ช่องที่ 1 ?
ไม่

เช่นประโยคบอกเล่า: พวกเขาอาศัยอยู่ในลอนดอน
ประโยคคำถาม: พวกเขาอาศัยอยู่ในลอนดอน?
ประโยคบอกเล่า: เขาทำงานในสำนักงานมีการ
ประโยคคำถาม: เขาทำงานในสำนักงาน?
ไม่ใช้กับประธานพหูพจน์มี คุณ เรา พวกเขา
ไม่ใช้กับประธานเอกพจน์มีเขา เธอ ก็

ข้อสังเกต

1การใช้กริยาทำในประโยคคำถามเมื่อใช้ไม่ กับประธานเอกพจน์ให้ตัดs หรือ esข้างหลังคำกิยาทิ้งและคงไว้แต่คำกริยาแท้ (V.1)
2.แต่ถ้าใช้ ทำกับประธานพหูพจน์คำกริยาคงเดิมไม่เปลี่ยนแปลง



; www.igetweb.com



(Present Tenses) กริยากาล







ดังได้กล่าวมาในบทกริยาตึง (ชนิด) แล้วว่าตึงกริยามีทั้งหมด 12 รูปในใช้งานเสียงในบทนี้จะได้กล่าวถึงการใช้กาลปัจจุบันทั้ง 4 รูปคืออย่างปัจจุบัน ปัจจุบันก้าวหน้า พักอยู่ ก้าวหน้าได้และ

1.Simple ปัจจุบันกาล

โครงสร้าง


กริยาหลัก (ทำ) กริยาการเสริมในเรื่อง (ฐาน)
ประธานกริยาช่วย (โด) กริยาหลักช่อง 1


ดังตัวอย่าง




ประธาน

กริยาหลัก






บอกเล่า

ฉัน

กำลัง



ฝรั่งเศส


คุณ เรา พวกเขา

มี



ฝรั่งเศส


เขา เธอ ก็

เป็น



ฝรั่งเศส


-ปฏิเสธ

ฉัน

กำลัง

ไม่

เก่า


คุณ เรา พวกเขา

อยู่

ไม่

เก่า


เขา เธอ ก็

เป็น

ไม่

เก่า.


คำถาม

กำลัง

ฉัน



สาย?


เป็น

คุณ เรา พวกเขา



สาย?


เป็น

เขา เธอ ก็



สาย?


การใช้ใช้ปัจจุบันอย่างตึงเครียดเมื่อ
เช่น•เป็นการกระทำ/เหตุการณ์ที่เป็นจริงโดยทั่วไป
ดวงจันทร์ไปรอบโลก
นกบิน
น้ำตาลเป็นหวาน
•เป็นการบรรยายการกระทำ/เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในขณะที่พูด
จอห์นรออดทนขณะที่บริจิตแห่งหนังสือตั๋ว
เขาต้องได้ขวาตอนนี้
ฉันนี่ทันที
รถอยู่
•เป็นกระทำที่เกิดขึ้นตลอดเวลาเป็นกิจวัตรทั้งในอดีตปัจจุบันและอนาคตเช่น
เขาได้เที่ยวทุกวัน
เล่นฟุตบอลวันอาทิตย์ทุก.
•เป็นการกระทำที่กำหนดแน่นอนว่าจะกระทำในอนาคตโดยใช้ร่วมกับคำกริยาวิเศษณ์หรือวลี adverbial เช่น
ประตูเปิดใน 10 นาที.
จอห์นมาถึงวันอังคาร

มีข้อยกเว้นดังนี้
•สำหรับประโยคบอกเล่า (บวก) ปกติจะไม่ใช้กริยาช่วย (นอกจากต้องการเน้นเช่นรักคุณ)
•สำหรับประธานเอกพจน์บุรุษที่ 3 (เขา เธอ ก็) เติม s ที่กริยาหลักและเติม es ที่กริยาช่วย
กริยา•สำหรับจะ ที่เป็นกริยาหลักปกติจะไม่มีกริยาช่วยแม้ในประโยคปฏิเสธหรือประโยคคำถาม

ตามตัวอย่างในตารางต่อไปนี้




ประธาน

กริยาช่วย



กริยาหลัก





บอกเล่า

ฉัน คุณ เรา พวกเขา





เช่น

กาแฟ


เขา เธอ ก็





ชอบ

กาแฟ.


-
ปฏิเสธ

ฉัน คุณ เรา พวกเขา

ทำ

ไม่

เช่น

กาแฟ


เขา เธอ ก็

ไม่

ไม่

เช่น

กาแฟ.


?
คำถาม

ทำ

ฉัน คุณ เรา พวกเขา



เช่น

กาแฟ?


ไม่

เขา เธอ ก็



เช่น

กาแฟ?


กริยาจะ ที่เป็นกริยาหลักปกติจะไม่มีกริยาช่วยแม้ในประโยคปฏิเสธหรือประโยคคำถามดังนี้

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

หลักการใช้ปัจจุบันกาล


1 ใช้กับเหตุการณ์หรือการกระทำที่เกิดขึ้นในปัจจุบันหรือเกิดขณะที่พูดเช่น

แอนดูทีวี

รอนอาบน้ำในห้องน้ำ

2ใช้กับเหตุการณ์หรือการกระทำที่เป็นจริงตามธรรมชาติไม่ว่าจะเป็นอดีตปัจจุบัน

หรืออนาคตเช่น

เสือเป็นสัตว์อันตราย

โลกเคลื่อนที่รอบดวงอาทิตย์

3ใชักับเหตุการณ์หรือการกระทำที่เกิดขึ้นบ่อยๆซ้ำๆจนเป็นกิจวัตรประจำวันหรือประจำเดือน --------------------------------------------------------------------------------









ทำไมคำกริยาต้องเติม " S " ค็อค " es "



อ่านออกเสียง .
1 ฉันดื่มน้ำทุกวัน .
2 คุณดื่มน้ำทุกวัน .
3เราดื่มน้ำทุกวัน .
4 พวกเขาดื่มน้ำทุกวัน
5 เขาดื่มน้ำทุกวัน
6 เธอดื่มน้ำทุกวัน
7 ดื่มน้ำทุกวัน
นักเรียนจะสังเกตเห็นว่าในข้อ 5 - 6 - 7 คำกริยาดื่มเติม S นักเรียนลองเดาซิคะว่าเพราะอะไรบางคนก็ตอบถูกค่ะว่าเพราะประธานเป็นเอกพจน์บุรุษที่ 3 ความ เขา เธอ และมันค่ะนักเรียนต้องจำให้ได้นะคะ



กฎการเติม s ค็อค ES หลังคำกริยา
1 คำกริยาธรรมดาทั่วๆไปเติม S ได้ทันทีเช่นคำว่าทำงาน - ทำงานอยู่ - ชีวิต
2 คำกริยาที่ลงท้ายด้วย S , SS , SH , CH , X และ O ให้เติม ES เช่นไป - ไป
นาฬิกา - นาฬิกา , จับ - จับ
3คำกริยาที่ลงท้ายด้วย Y Y ให้เปลี่ยนเป็นผมแล้วเติม ES เช่นร้องไห้ร้องไห้
ศึกษา - การศึกษา





-------------------------------------------------------------------------------- ปัจจุบันกาลในรูปประโยคบอกเล่า

ประโยคบอกเล่าหมายถึงประโยคที่พูดหรือเล่าเรื่องราวต่างๆให้ฟังเช่นฉันดื่มน้ำทุกๆวันในภาษาอังกฤษรูปกริยาที่ใช้ต้องเป็นช่องที่ 1 ( V .1 ) ถ้าประธานเป็นเอกพจน์กริยาต้องเติม s es ส่วนประธานพหูพจน์ค็อค ( รวมทั้งผมและคุณ ) กริยาไม่ต้องเติมให้คงรูปเดิม



โครงสร้างประโยคปัจจุบันกาล





ประธานกริยากรรมคำบอกเวลา



--------------------------------------------------------------------------------




ถ้าในประโยคบอกเล่านั้นมีเพียงกริยาแท้ปัจจุบันกาลในรูปประโยคปฏิเสธเมื่อต้องการเปลี่ยนให้เป็นปฏิเสธให้นำกริยาอะไร ( ห้ามไม่ได้ ) วางไว้หลังประธานมีรูปแบบดังนี้



ประธาน

ไม่ได้

กริยาแท้ช่องที่ 1


ไม่ได้


ไม่ใช้กับประธานพหูพจน์ได้แก่ฉัน เธอ เรา พวกเขา

ไม่ใช้กับประธานเอกพจน์ได้แก่ เขา เธอ มัน

เช่นประโยคบอกเล่าฉันอยู่ที่ลอนดอน

ประโยคปฎิเสธฉันไม่อยู่ในลอนดอน

ประโยคบอกเล่าเขาอาศัยอยู่ในแคนาดา ประโยคปฎิเสธ

เขาไม่ได้อาศัยอยู่ในแคนาดา ข้อสังเกต

1 เมื่อใช้ไม่ได้ ( ไม่ ) กับประธานเอกพจน์คำกริยาที่เติม s ค็อค ES ให้ตัด s ค็อค ES ทิ้งและคงเหลือคำกริยาช่องที่ 1 ซึ่งไม่ต้องเติมอะไรทั้งสิ้น

2ส่วนไม่ได้ ( Don ' t ) ใช้กับประธานพหูพจน์คำกริยาให้คงเดิมไม่ต้องเปลี่ยนแปลงใดๆ --------------------------------------------------------------------------------







ในรูปประโยคคำถามปัจจุบันกาลประโยคปัจจุบันกาลที่มีกริยาเป็นกริยาเมื่อทำเป็นคำถามให้นำเป็นมาวางไว้หน้าประธานแต่ถ้าประโยคนั้นๆไม่มีกริยาเป็นกริยาให้ใช้ทำ ( ทำแล้ว ) วางไว้หน้าประธาน






มีรูปแบบดังนี้ทำประธานกริยาแท้ช่องที่ 1


ไม่เช่นประโยคบอกเล่า : พวกเขาอาศัยอยู่ในลอนดอน ประโยคคำถาม
: พวกเขาอาศัยอยู่ในลอนดอน ?
ประโยคบอกเล่า : เขาทำงานในสำนักงาน .
ประโยคคำถาม : เขาทำงานในสำนักงาน ?
ทำใช้กับประธานพหูพจน์คอนโดฉัน เธอ เรา พวกเขา
ไม่ใช้กับประธานเอกพจน์คอนโดเขา เธอ มัน

ข้อสังเกต

1การใช้กริยาที่ทำในประโยคคำถามเมื่อใช้ไม่กับประธานเอกพจน์ให้ตัด s es ข้างหลังคำกิยาทิ้งและคงไว้แต่คำกริยาแท้ค็อค ( v.1 )
2 แต่ถ้าใช้ทำกับประธานพหูพจน์คำกริยาคงเดิมไม่เปลี่ยนแปลง



; www.igetweb . com



( กริยา กาล กาลปัจจุบัน )







ดังได้กล่าวมาในบทกริยากาล ( ประเภท ) แล้วว่ากริยากาลมีทั้งหมด 12 รูปในกรรตุวาจกในบทนี้จะได้กล่าวถึงการใช้กาลปัจจุบันทั้ง 4 รูปคือง่ายปัจจุบันปัจจุบันก้าวหน้า ปัจจุบันที่สมบูรณ์แบบ และปัจจุบันสมบูรณ์ก้าวหน้า 1.simple ปัจจุบัน






โครงสร้างประธานกริยาช่วยกริยาหลัก ( ทำ ) ( ฐาน )
ประธานกริยาช่วย ( ทำ ) กริยาหลักช่องดังตัวอย่าง 1









กริยาหลักประธาน






บอกเล่า

ผม

ผม






คุณฝรั่งเศส เราก็เป็น







ฝรั่งเศส เขา เธอ หรือ คือมัน








- ฝรั่งเศส ปฏิเสธ

ผม

ผม

ไม่ได้

เก่า


คุณ , เรา , พวกเขาจะไม่








เก่า เขา เธอ


มันคือ


เก่าไม่ได้


? คำถาม

ผม

ผม



ช้า ?




คุณเป็นเรา พวกเขา



ช้า ?




เขาเป็นเธอ มัน



ช้า ?


การใช้ใช้ง่ายปัจจุบันเมื่อ
•เป็นการกระทำ / เหตุการณ์ที่เป็นจริงโดยทั่วไปเช่น
ดวงจันทร์หมุนรอบโลก นกบิน
.

น้ำตาล หวาน•เป็นการบรรยายการกระทำ / เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในขณะที่พูด
จอห์นรอมีขณะที่บริดเจ็ทหนังสือตั๋ว เขาต้องการความช่วยเหลือตอนนี้
.
ฉันที่นี่เดี๋ยวนี้ รถสะอาด

•เป็นกระทำที่เกิดขึ้นตลอดเวลาเป็นกิจวัตรทั้งในอดีตปัจจุบันและอนาคตเช่น
เขาตื่นแต่เช้าทุกวัน
ผมเล่นฟุตบอลทุก ๆวันอาทิตย์
•เป็นการกระทำที่กำหนดแน่นอนว่าจะกระทำในอนาคตโดยใช้ร่วมกับกริยาวิเศษณ์คำวิเศษณ์วลีค็อคเช่น
ประตูเปิดในเวลา 10 นาที จอห์นมาถึง



มีข้อยกเว้นดังนี้วันอังคาร•สำหรับประโยคบอกเล่า ( บวก ) ปกติจะไม่ใช้กริยาช่วย ( นอกจากต้องการเน้นเช่นฉันรักเธอ )
•สำหรับประธานเอกพจน์บุรุษที่ 3 ( เขา เธอ มัน ) เติม S ที่กริยาหลักและเติมที่กริยาช่วย
.•สำหรับกริยาจะที่เป็นกริยาหลักปกติจะไม่มีกริยาช่วยแม้ในประโยคปฏิเสธตามตัวอย่างในตารางต่อไปนี้หรือประโยคคำถาม








กริยาช่วยประธานกริยาหลัก









บอกเล่า

ฉัน เธอ เรา เค้าชอบ










กาแฟ เขา เธอ มัน





ชอบ




-
กาแฟปฏิเสธ

ฉัน เธอ เรา พวกเขาทำ







ไม่เหมือนกาแฟ


เขา , เธอ , มันไม่ได้







ไม่เหมือนกาแฟ


?




คำถามทำฉัน เธอ เรา เค้าชอบ





กาแฟ ?




เขาไม่ได้ เธอมัน





ชอบกาแฟ


กริยาจะที่เป็นกริยาหลักปกติจะไม่มีกริยาช่วยแม้ในประโยคปฏิเสธหรือประโยคคำถามดังนี้