Fresh water applied in agriculture

Fresh water applied in agriculture represents more than 70% of the total water use in the world. In regions with limited freshwater resources, sewage and industrial wastewater can be used as alternative water sources for crop production. While using wastewater in irrigation can alleviate the problem of water scarcity and wastewater disposal, it may educe crop yield and quality, and harm the environment. Organic matter overloading limits oxygen availability in the soil due to oxygen consumption by microbial aerobic degradation of organic matter. Therefore, the United States Environmental Protection Agency has limited the average weekly Biological Oxygen Demand (BOD) application rate for land application of wastewater to 112 kg/ha/d. In addition to the limitation of oxygen availability, organic carbon overloading can block soil pores and harm soil health. This reduced soil porosity is caused by biofilm growth. The presence of heavy metals and high concentrations of inorganic nutrients such as nitrogen and phosphorus are also detrimental to the soil and crops.
Therefore, treatment is required before wastewater use in agricultural
production

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

น้ำที่ใช้ในการเกษตรแทนมากกว่า 70% ของการใช้น้ำทั้งหมดในโลก ในภูมิภาคมีทรัพยากรน้ำจืดจำกัด บำบัดน้ำเสียและน้ำเสียในอุตสาหกรรมสามารถใช้เป็นแหล่งน้ำสำรองสำหรับการผลิตพืช ในขณะที่ใช้น้ำในชลประทานสามารถบรรเทาปัญหาการขาดแคลนน้ำและการกำจัดน้ำเสีย มันอาจ educe พืชผลผลิตและคุณภาพ และเป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อม บรรทุกเกินพิกัดอินทรีย์จำกัดพร้อมออกซิเจนในดินเนื่องจากปริมาณการใช้ออกซิเจน โดยจุลินทรีย์แอโรบิกสลายสารอินทรีย์ ดังนั้น มีจำกัดสิ่งแวดล้อมสหรัฐอเมริกาครองสัปดาห์ความต้องการออกซิเจนทางชีวภาพ (BOD) ประยุกต์อัตราเฉลี่ยสำหรับที่ดินใช้น้ำเสีย 112 กิโลกรัม/ฮา/d นอกเหนือจากข้อจำกัดของความพร้อมออกซิเจน คาร์บอนอินทรีย์มากเกินไปสามารถบล็อกดินรูขุมขน และเป็นอันตรายต่อสุขภาพดิน ความพรุนของดินลดลงนี้เกิดจากการเจริญเติบโตของไบโอฟิล์ม การปรากฏตัวของโลหะหนักและความเข้มข้นสูงของอนินทรีย์สารอาหารเช่นไนโตรเจนและฟอสฟอรัสก็อันตรายต่อดินและพืชดังนั้น การรักษาจำเป็นต้องใช้ก่อนการใช้น้ำในการเกษตรการผลิต

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

น้ำจืดนำไปใช้ในการเกษตรเป็นมากกว่า 70% ของการใช้น้ำทั้งหมดในโลก ในภูมิภาคที่มีทรัพยากร จำกัด น้ำจืด, น้ำเสียและน้ำเสียอุตสาหกรรมสามารถใช้เป็นแหล่งน้ำทางเลือกสำหรับการผลิตพืช ในขณะที่ใช้บำบัดน้ำเสียในการชลประทานสามารถบรรเทาปัญหาการขาดแคลนน้ำและการกำจัดน้ำเสียก็อาจ educe ผลผลิตและคุณภาพและเป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อม อินทรียวัตถุมากไป จำกัด การใช้ออกซิเจนในดินเนื่องจากการบริโภคออกซิเจนโดยการย่อยสลายของจุลินทรีย์แอโรบิกของสารอินทรีย์ ดังนั้นหน่วยงานคุ้มครองสิ่งแวดล้อมสหรัฐอเมริกามีการ จำกัด ค่าเฉลี่ยรายสัปดาห์ออกซิเจนทางชีวภาพ Demand (BOD) อัตราการประยุกต์ใช้สำหรับการประยุกต์ใช้ที่ดินของน้ำเสียถึง 112 กก. / ไร่ / D นอกเหนือไปจากข้อ จำกัด ของความพร้อมออกซิเจนมากไปอินทรีย์คาร์บอนสามารถป้องกันรูขุมขนดินและเป็นอันตรายต่อสุขภาพของดิน นี้ความพรุนของดินลดลงมีสาเหตุมาจากการเติบโตของไบโอฟิล์ม การปรากฏตัวของโลหะหนักและความเข้มข้นสูงของสารอาหารนินทรีย์เช่นไนโตรเจนและฟอสฟอรัสนอกจากนี้ยังมีอันตรายต่อดินและพืช.
ดังนั้นการรักษาจะต้องก่อนการใช้งานระบบบำบัดน้ำเสียในการเกษตร
การผลิต

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

น้ำที่ใช้ในการเกษตรแทนมากกว่า 70% ของการใช้น้ำทั้งหมดในโลก ในภูมิภาคกับทรัพยากรน้ำจืด จํากัด สิ่งปฏิกูล และน้ำเสียอุตสาหกรรมสามารถใช้เป็นแหล่งน้ำสำรองสำหรับการผลิตพืช ในขณะที่การใช้น้ำในการชลประทานสามารถบรรเทาปัญหาขาดแคลนน้ำและการกำจัดน้ำเสีย อาจ educe ผลผลิตพืชและคุณภาพ และเป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อม อินทรีย์วัตถุในดิน ออกซิเจนพร้อมโหลด จำกัด เนื่องจากปริมาณการใช้ออกซิเจนในการย่อยสลายสารอินทรีย์โดยจุลินทรีย์แอโรบิก . ดังนั้น องค์การพิทักษ์สิ่งแวดล้อมแห่งสหรัฐอเมริกาได้กำหนดความต้องการออกซิเจนทางชีวภาพเฉลี่ยรายสัปดาห์ ( BOD ) อัตราการใช้ที่ดินเท่ากับ 112 กิโลกรัม / ไร่ / วัน นอกจากข้อจำกัดของห้องพัก ออกซิเจน คาร์บอนอินทรีย์โหลดสามารถป้องกันรูขุมขนดินและเป็นอันตรายต่อสุขภาพของดิน ลดความพรุนของดินเกิดจากฟิล์ม . การปรากฏตัวของโลหะหนักและความเข้มข้นสูงของสารอาหารอนินทรีย์ เช่น ไนโตรเจน และฟอสฟอรัส นอกจากนี้ยังเป็นอันตรายต่อดิน และพืชดังนั้น การรักษาเป็นสิ่งจำเป็นก่อนที่น้ำใช้ในการเกษตรการผลิต