The effect of sole application of i

The effect of sole application of inorganic fertilizers (NPK) (N:P:K:: 30:26:25 kg ha−1) and combined application of farmyard manure (FYM) @ 4 Mg ha−1 and inorganic fertilizers (NPK + FYM) vis-a-vis non-application of fertilizers and manures (control) on changes in soil physical properties and plant growth characteristics of soybean (cv. JS 335) was studied in a deep Vertisol at the Indian Institute of Soil Science, Bhopal during the year 2001–2004. The results indicated that conjunctive use of recommended dose of fertilizer and farmyard manure (NPK + FYM) resulted in significant (P < 0.05) decrease of bulk density (9.3%), soil penetration resistance (42.6%) and increase in hydraulic conductivity (95.8%) and mean weight diameter of the water stable aggregates (13.8%) and soil organic carbon content (45.2%) compared to control. Among the aggregates, in macro-aggregate fraction (250–500 μm and 500–1000 μm size fraction) and in large macro-aggregate fraction (>2000 μm) maximum soil organic carbon concentration was recorded under NPK + FYM. The root mass of soybean was mostly (98%) confined to 15 cm soil depth. Combined application of NPK and FYM recorded significantly higher (P < 0.05) root length density and root mass density of soybean in the 0–15 cm soil layer at flowering stage over NPK (28 and 65%) and control (63 and 175%). The root length density of soybean was significantly negatively correlated with the penetration resistance (r = 0.98, P < 0.05). Application of FYM @ 4 Mg ha−1 with NPK significantly (P < 0.05) improved the biomass partitioning towards pod over NPK and control. The grain yield, water use efficiency and nitrogen use efficiency of soybean under NPK + FYM were significantly (P < 0.05) higher than NPK and control. The total above ground biomass and the leaf area index at R8 stage could account for respectively, 89 and 63% variation in grain yield of soybean. Therefore in every crop season, integrated use of farmyard manure at 4 Mg ha−1 and recommended dose of chemical fertilizers may be practised in Vertisols for improving soil physical environment and achieving higher soybean productivity through efficient utilization of water and nutrients.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ผลของการใช้ปุ๋ยอนินทรีย์ (NPK) แต่เพียงผู้เดียว (N:P:K:: 30:26:25 กิโลกรัม ha−1) และรวมของมูล farmyard (FYM) @ ha−1 4 มิลลิกรัมและอนินทรีย์ปุ๋ย (NPK + FYM) วิà vis ไม่ใช้ปุ๋ยและ manures (ตัวควบคุม) ในดินที่ถูกศึกษาลักษณะการเจริญเติบโตทางกายภาพคุณสมบัติและพืชของถั่วเหลือง (พันธุ์ JS 335) ใน Vertisol ลึกที่อินเดียสถาบันของดินวิทยาศาสตร์การเปลี่ยนแปลง โบพอลในระหว่างปี 2001-2004 ผลระบุว่า conjunctive ใช้พื้นที่ซึ่งมีทั้งปุ๋ยและ farmyard มูล (NPK + FYM) แนะนำให้อย่างมีนัยสำคัญ (P < 0.05) ลดความหนาแน่นจำนวนมาก (9.3%), ความต้านทานการเจาะ (42.6%) ของดิน และเพิ่มนำไฮดรอลิก (95.8%) และเส้นผ่าศูนย์กลางของน้ำหนักเฉลี่ยของน้ำผลมั่นคง (13.8%) และดินอินทรีย์คาร์บอน (45.2%) เมื่อเทียบกับตัวควบคุม ระหว่างผล แมรวมเศษส่วน (250-500 μm และ 500 – 1000 μm ขนาดเศษส่วน) และเศษส่วนแมรวมขนาดใหญ่ (> 2000 μm) ความเข้มข้นคาร์บอนอินทรีย์ของดินสูงสุดถูกบันทึกภายใต้ NPK + FYM มวลชนรากของถั่วเหลืองเป็นส่วนใหญ่ (98%) จำกัดไป 15 ซม.ความลึกของดิน รวมโปรแกรม NPK และ FYM บันทึกสูงอย่างมีนัยสำคัญ (P < 0.05) รากความยาวความหนาแน่นและความหนาแน่นมวลรากของถั่วเหลืองใน 0 – 15 เซนติเมตรดินชั้นในระยะดอกมากกว่า NPK (28 และ 65%) (63 และ 175%) ความหนาแน่นความยาวรากของถั่วเหลืองได้มากส่ง correlated กับความต้านทานการเจาะ (r = 0.98, P < 0.05) แอพลิเคชันของ FYM @ ha−1 4 มิลลิกรัมมี NPK อย่างมีนัยสำคัญ (P < 0.05) ปรับปรุงการชีวมวลพาร์ทิชันต่อฝัก NPK และควบคุม ผลผลิตข้าว น้ำใช้ราคาประสิทธิภาพ และประสิทธิภาพการใช้ไนโตรเจนของถั่วเหลืองภายใต้ NPK + FYM ได้อย่างมีนัยสำคัญ (P < 0.05) มากกว่า NPK และควบคุม ผลรวมด้านบนดินชีวมวลและดัชนีพื้นที่ใบที่ R8 ขั้นสามารถบัญชีสำหรับตามลำดับ 89 และ 63% การเปลี่ยนแปลงในผลผลิตเมล็ดของถั่วเหลือง ดังนั้น ในทุกฤดูกาลเพาะปลูก ใช้รวม farmyard มูลที่ ha−1 4 มิลลิกรัมและยาแนะนำปุ๋ยเคมีอาจจะปฏิบัติใน Vertisols สำหรับปรับปรุงสภาพแวดล้อมทางกายภาพของดิน และการบรรลุผลผลิตถั่วเหลืองสูง โดยมีประสิทธิภาพการใช้ประโยชน์ของน้ำและสารอาหาร

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ผลกระทบของการประยุกต์ใช้ แต่เพียงผู้เดียวของปุ๋ยอนินทรี (NPK) (N: P: K :: 30:26:25 กิโลกรัมต่อเฮกตาร์ 1) และการประยุกต์ใช้ร่วมกันของปุ๋ยคอก (FYM) @ 4 Mg ha-1 และปุ๋ยอนินทรี (NPK + FYM) Vis-A-พิพาทที่ไม่ใช่การประยุกต์ใช้ปุ๋ยและปุ๋ยคอก (ควบคุม) เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงในดินคุณสมบัติทางกายภาพและลักษณะการเจริญเติบโตของถั่วเหลือง (พันธุ์. JS 335) ได้ศึกษาใน Vertisol ลึกที่สถาบันวิทยาศาสตร์แห่งอินเดียดิน, โภปาล ในช่วงระหว่างปี 2001-2004 ผลการวิจัยพบว่าการใช้งานที่เชื่อมต่อกันของปริมาณที่แนะนำปุ๋ยและปุ๋ยคอก (NPK + FYM) ส่งผลให้อย่างมีนัยสำคัญ (P <0.05) ลดลงของความหนาแน่น (9.3%) ความต้านทานการเจาะดิน (42.6%) และการเพิ่มขึ้นของการนำไฮโดรลิค (95.8 %) และมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางหมายถึงน้ำหนักของมวลน้ำที่มีเสถียรภาพ (13.8%) และปริมาณคาร์บอนในดินอินทรีย์ (45.2%) เมื่อเทียบกับการควบคุม ท่ามกลางมวลรวมในส่วนมหภาครวม (250-500 ไมโครเมตรและ 500-1000 ไมครอนส่วนขนาด) และส่วนมหภาครวมขนาดใหญ่ (> 2000 ไมครอน) ความเข้มข้นสูงสุดดินอินทรีย์คาร์บอนที่ถูกบันทึกไว้ภายใต้ NPK + FYM มวลรากของถั่วเหลืองเป็นส่วนใหญ่ (98%) ถูกคุมขัง 15 ซม. ความลึกของดิน แอพลิเคชันรวมของ NPK และ FYM บันทึกไว้อย่างมีนัยสำคัญที่สูงขึ้น (P <0.05) ความหนาแน่นของความยาวรากและความหนาแน่นของมวลรากของถั่วเหลืองในชั้นดิน 0-15 ซม. ที่ระยะออกดอกมากกว่า NPK (28 และ 65%) และการควบคุม (63 และ 175%) . ความหนาแน่นของความยาวรากถั่วเหลืองที่ได้รับอย่างมีนัยสำคัญความสัมพันธ์เชิงลบที่มีความต้านทานการเจาะ (r = 0.98, p <0.05) การประยุกต์ใช้ FYM @ 4 มิลลิกรัมฮ่า-1 ที่มี NPK อย่างมีนัยสำคัญ (P <0.05) การปรับปรุงการแบ่งฝักต่อชีวมวลมากกว่า NPK และการควบคุม ผลผลิตข้าวที่มีประสิทธิภาพการใช้น้ำและไนโตรเจนประสิทธิภาพการใช้ถั่วเหลืองภายใต้ NPK + FYM อย่างมีนัยสำคัญ (P <0.05) สูงกว่า NPK และการควบคุม รวมเหนือพื้นดินชีวมวลและดัชนีพื้นที่ใบในขั้นตอน R8 ที่สามารถอธิบายตามลำดับ 89 และการเปลี่ยนแปลง 63% ในผลผลิตของถั่วเหลือง ดังนั้นในทุกฤดูกาลเพาะปลูกแบบบูรณาการการใช้ปุ๋ยคอกที่ 4 มิลลิกรัมฮ่า-1 และแนะนำปริมาณของปุ๋ยเคมีอาจได้รับการฝึกฝนใน Vertisols สำหรับการปรับปรุงสภาพแวดล้อมทางกายภาพของดินและประสบความสำเร็จในการผลิตถั่วเหลืองที่สูงขึ้นผ่านการใช้ที่มีประสิทธิภาพของน้ำและสารอาหาร

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ผลของการใช้ปุ๋ยเคมีอย่างเดียว ( NPK ) ( N : P : K : : 30:26:25 กกฮา− 1 ) และการใช้ร่วมกับการใส่ปุ๋ยคอก ( FYM ) @ 4 มิลลิกรัม ฮา − 1 และปุ๋ยอนินทรีย์ ( NPK FYM ) ทั้งนี้ ไม่ใช้ปุ๋ยปุ๋ยคอก ( ควบคุม ) ในการเปลี่ยนแปลงสมบัติทางกายภาพของดินและ พืชลักษณะการเจริญเติบโตของถั่วเหลืองพันธุ์JS 335 ) คือเรียนในเวอร์ติซอลลึกที่สถาบันวิทยาศาสตร์ดิน โภปาล ระหว่างปีพ.ศ. 2544 – 2547 ผลการศึกษาพบว่า การใช้ปุ๋ย และขนาดยาที่แนะนำการใส่ปุ๋ยคอก ( NPK ทำให้ข้าว ) อย่างมีนัยสำคัญ ( p < 0.05 ) ลดความหนาแน่น ( 9.3% ) , ความต้านทานการเจาะดิน ( 42.6% ) และเพิ่มขึ้นในการนำชลศาสตร์ ( 958 % ) และน้ำหนักเฉลี่ยเส้นผ่าศูนย์กลางของน้ำคงที่มวลรวม ( ร้อยละ 13.8 ) และปริมาณคาร์บอนอินทรีย์ในดิน ( 45.2 % ) เมื่อเทียบกับการควบคุม ระหว่างมวลรวม ในแมโครรวมเศษส่วน ( 250 – 500 μเมตรและ 500 – 1000 μ M ขนาดเศษส่วน ) และในส่วนรวมมาโครขนาดใหญ่ ( > 2000 μ M ) สูงสุดของดินอินทรีย์คาร์บอนที่บันทึกไว้ภายใต้ NPK FYM .รากมวลของถั่วเหลืองเป็นส่วนใหญ่ ( 98% ) คับ 15 ซม. ความลึกของดิน . การรวมกันของ NPK และข้าวอัดสูงกว่า ( P < 0.05 ) ความยาวรากและความหนาแน่นของมวลความหนาแน่นรากของถั่วเหลืองใน 0 – 15 ซม. ดินระยะออกดอกมากกว่า NPK ( 28 และ 65% ) และการควบคุม ( 63 และ 175% )ความยาวของรากของถั่วเหลืองอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติมีความสัมพันธ์กับความต้านทานการเจาะ ( r = 0.98 , p < 0.05 ) การใช้ข้าว @ 4 มิลลิกรัม ฮา − 1 NPK อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ( p < 0.05 ) อัตราการต่อชีวมวลฝักมากกว่า NPK และการควบคุม ผลผลิต ประสิทธิภาพการใช้น้ำและไนโตรเจนของถั่วเหลืองภายใต้ประสิทธิภาพการใช้ปุ๋ย NPK FYM อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ( p < 005 ) สูงกว่าปุ๋ย NPK และการควบคุม รวมมวลชีวภาพเหนือพื้นดินและดัชนีพื้นที่ใบที่ระยะ R8 อาจบัญชีสำหรับ 63% ตามลำดับ และการเปลี่ยนแปลงในผลผลิตของถั่วเหลือง ดังนั้นทุกพืชฤดูการใช้ใช้ปุ๋ยคอกที่ 4 มิลลิกรัม และขนาดยาที่แนะนำ ฮา − 1 ปุ๋ยเคมีอาจจะซ้อมเวอร์ติโซลส์สำหรับการปรับปรุงสภาพแวดล้อมทางกายภาพของดิน และผลผลิตของถั่วเหลืองที่สูงขึ้นผ่านการประสิทธิภาพการใช้ประโยชน์ของสารอาหารและน้ำ .