It is very common for parents to ad

It is very common for parents to advise their children to wear a hat or to cover their head when its cold outside, with the reasoning behind this advice often cited as “most of your body heat escapes through your head” or “you lose heat faster through your head.” People often rationalize why this might be the case stating such things as: “It’s because of the large amount of blood combined with the lack of much insulation like fat and the like on your head.” It turns out though, this just isn’t correct.

This misconception seems to have been popularized by a U.S. army survival manual in the 1960s. The U.S. army conducted studies to test the loss of body heat in extremely cold temperatures. The results of these tests ended up giving rise to a section of the manual stating a person “can lose 40 to 45 percent of body heat from an unprotected head”. The problem is that this doesn’t tell the whole story. What needed to be added is that the subjects of the tests wore survival suits designed especially for the cold, but didn’t wear anything on their heads. So it shouldn’t come as a surprise that the subjects lost a large percentage of their body heat through their heads.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เป็นเรื่องธรรมดามากสำหรับผู้ปกครองแนะนำเด็กสวมหมวก หรือครอบคลุมศีรษะของพวกเขาเมื่อความเย็นภายนอก มีเหตุผลเบื้องหลังคำแนะนำนี้มักจะอ้างว่าเป็น "ส่วนใหญ่หนีความร้อนของร่างกายผ่านหัวของคุณ" หรือ "สูญ เสียความร้อนเร็วขึ้นผ่านหัวของคุณ" คนมักค้าเหตุผลนี้อาจเป็นกรณีที่ระบุสิ่งต่าง ๆ เช่น: "มันเป็น เพราะจำนวนมากของเลือดร่วมกับการขาดของฉนวนกันความร้อนมากเช่นไขมันและเหมือนในหัวของคุณ" มันเปิดออกว่า แค่นี้ไม่ถูกต้องเข้าใจผิดนี้น่าจะมีขึ้น โดยกองทัพสหรัฐอยู่รอดด้วยตนเองในปี 1960 กองทัพสหรัฐฯ ดำเนินการศึกษาทดสอบการสูญเสียของร่างกายในอุณหภูมิหนาวเย็นมาก ผลของการทดสอบเหล่านี้สิ้นสุดขึ้นให้สูงขึ้นในส่วนของคู่มือระบุบุคคล "จะเสีย 40 ถึง 45% ของร่างกายการป้องกันหัว" ปัญหาว่า นี้ไม่ได้บอกเรื่องทั้งหมด สิ่งที่ต้องการเพิ่มคือ ว่า เรื่องของการทดสอบสวมชุดการอยู่รอดสำหรับเย็น แต่ไม่ได้สวมอะไรบนศีรษะ ดังนั้น มันไม่ควรมาเป็นแปลกใจว่า วัตถุสูญเสียความร้อนของร่างกายผ่านหัวของพวกเขาในปริมาณมาก

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

มันเป็นเรื่องธรรมดามากสำหรับพ่อแม่ผู้ปกครองให้คำแนะนำแก่เด็กของพวกเขาที่จะสวมใส่หมวกหรือคลุมศีรษะของพวกเขาออกไปข้างนอกเย็นโดยมีเหตุผลที่อยู่เบื้องหลังคำแนะนำนี้มักจะอ้างว่าเป็น "ที่สุดของความร้อนในร่างกายของคุณหนีผ่านหัวของคุณ" หรือ "คุณสูญเสียความร้อนเร็วขึ้น ผ่านหัวของคุณ "คนมักจะหาเหตุผลเข้าข้างตนเองว่าทำไมนี้อาจจะมีกรณีที่ระบุสิ่งเช่น:".. มันเป็นเพราะของจำนวนมากของเลือดรวมกับการขาดของฉนวนกันความร้อนมากเช่นไขมันและชอบในหัวของคุณ " แต่กลับกลายเป็นว่า เพียงแค่นี้ไม่ถูกต้อง. ความเข้าใจผิดนี้ดูเหมือนว่าจะได้รับความนิยมโดยคู่มือการอยู่รอดของกองทัพสหรัฐในปี 1960 กองทัพสหรัฐดำเนินการศึกษาเพื่อทดสอบการสูญเสียความร้อนในร่างกายในอุณหภูมิที่เย็นมาก ผลที่ได้จากการทดสอบเหล่านี้จบลงด้วยการให้สูงขึ้นไปยังส่วนของคู่มือที่ระบุเป็นคนที่ "สามารถลด 40-45 เปอร์เซ็นต์ของความร้อนในร่างกายจากหัวที่ไม่มีการป้องกัน" ปัญหาคือว่านี้ไม่ได้บอกเรื่องราวทั้งหมด สิ่งที่จะต้องเพิ่มเติมคือเรื่องของการทดสอบสวมชุดการอยู่รอดได้รับการออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับเย็น แต่ไม่ได้สวมอะไรในหัวของพวกเขา ดังนั้นจึงไม่ควรมาเป็นแปลกใจว่าอาสาสมัครที่หายไปร้อยละใหญ่ของความร้อนในร่างกายของพวกเขาผ่านหัวของพวกเขา

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

มันเป็นเรื่องธรรมดามากสำหรับผู้ปกครองเพื่อให้เด็กของพวกเขาที่จะสวมหมวกหรือคลุมศีรษะของพวกเขาเมื่อมันหนาว กับเหตุผลที่อยู่เบื้องหลังคำแนะนำนี้มักจะอ้างเป็น " ที่สุดของร่างกายของคุณร้อนหนีผ่านหัวของคุณ " หรือ " คุณจะสูญเสียความร้อนได้เร็วขึ้นผ่านหัวของคุณ ผู้คนมักจะตัดสินทำไมนี้อาจจะมีกรณี ระบุสิ่งต่างๆเช่น : " เพราะของจำนวนมากของเลือดบวกกับขาดมากฉนวนเช่นไขมันและเช่นบนหัว มันเปิดออก แต่มันไม่ถูกต้องความเข้าใจผิดนี้ดูเหมือนว่าจะได้รับความนิยมโดยกองทัพสหรัฐคู่มือการอยู่รอดในยุค กองทัพสหรัฐศึกษาทดสอบการสูญเสียความร้อนในร่างกายในอุณหภูมิหนาวมาก ผลของการทดสอบเหล่านี้สิ้นสุดขึ้นให้ลุกขึ้น ส่วนของคู่มือที่ระบุเป็นคน " สามารถสูญเสีย 40 ถึง 45 เปอร์เซ็นต์ของความร้อนในร่างกายจากศีรษะ " ลุยเดี่ยว ปัญหาคือมันไม่ได้บอกเรื่องราวทั้งหมด สิ่งที่ต้องเพิ่มคือ กลุ่มตัวอย่างของการทดสอบที่สวมชุดการอยู่รอดได้รับการออกแบบโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับเย็น แต่ไม่ได้ใส่อะไรบนหัวของพวกเขา ดังนั้นจึงไม่ควรมาเป็นแปลกใจว่านักเรียนหายไปร้อยละขนาดใหญ่ของความร้อนของร่างกายผ่านหัวของพวกเขา