Lyotropic liquid crystals organise

Lyotropic liquid crystals organise themselves into special networks with unique symmetry, which means that their basic motif repeats itself periodically. In the case of liquid crystal cubic phases, the channels are made of lipid bilayer membranes in water and have a diameter of just a few nanometres, so only few free water molecules are available in the liquid crystal, whereas the majority is bound to the channel walls. These liquid crystal cubic phases are isotropic, or so to say, do not have any birefringent properties, which means that if a slide with a layer of lyotropic liquid crystal films is placed under a light source that allows polarised light to pass through, it appears black when observed through another polarizer tilted at 90°.

To achieve birefringence and thus receive a signal, the researchers reached again into their bag of tricks: they added certain enzymes to the liquid crystal to allow a chemical reaction to take place in the nanotubes. Since only a small amount of water is freely available in the nanotubes, the products of the reactions precipitated together to form crystals, which are themselves birefringent. A closer look at the sample through a second polarisation filter placed above it and perpendicular to the first shows a light pattern in instances where the enzyme has reacted with the substance tested.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ผลึกของเหลว Lyotropic จัดตัวเองเข้าไปในเครือข่ายที่พิเศษมีเฉพาะสมมาตร ซึ่งหมายความ ว่า สาระสำคัญพื้นฐานของพวกเขาทำซ้ำตัวเองเป็นระยะ ๆ ในกรณีของผลึกเหลวระยะลูกบาศก์ ช่องที่ทำจากเยื่อหุ้ม bilayer ไขมันในน้ำ และมีเส้นผ่าศูนย์กลางของ nanometres กี่ ให้ฟรีเพียงไม่กี่ โมเลกุลน้ำมีผลึกเหลว ในขณะที่ส่วนใหญ่ถูกผูกไว้กับผนังช่อง ระยะนี้ลูกบาศก์ผลึกเหลวเป็น isotropic ขึ้นดังนั้นต้องพูด ไม่มีคุณสมบัติใด ๆ birefringent ซึ่งหมายความ ว่า ถ้าภาพนิ่งกับชั้นของฟิล์ม lyotropic ผลึกเหลวอยู่ภายใต้แหล่งกำเนิดแสงที่ให้แสง polarised ผ่าน ปรากฏสีดำเมื่อสังเกตผ่านส่วนอื่นที่ยืดที่ 90 องศาการบรรลุ birefringence จึง รับสัญญาณ นักวิจัยถึงอีกในกระเป๋าของพวกเขาของเทคนิค: พวกเขาเพิ่มเอนไซม์บางผลึกเหลวให้ปฏิกิริยาทางเคมีขึ้นใน nanotubes เพียงเล็กน้อยของน้ำเป็นอิสระมีการ nanotubes ผลิตภัณฑ์ของปฏิกิริยาการตกตะกอนร่วมกันการฟอร์มผลึก ซึ่งตัวเอง birefringent ตัวอย่างโดยใช้ตัวเร่งที่สองวางอยู่ด้านบน และเส้นตั้งฉากกับครั้งแรกแสดงรูปแบบแสงอินสแตนซ์ซึ่งเอนไซม์นี้มีปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นกับสารทดสอบ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ผลึกเหลว Lyotropic จัดระเบียบตัวเองอยู่ในเครือข่ายพิเศษที่มีสัดส่วนที่ไม่ซ้ำกันซึ่งหมายความว่าบรรทัดฐานพื้นฐานของพวกเขาซ้ำตัวเองเป็นระยะ ๆ ในกรณีที่ผลึกเหลวขั้นตอนลูกบาศก์ช่องทางที่ทำจากเยื่อไขมัน bilayer ในน้ำและมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางเพียงไม่กี่นาโนเมตรเพื่อให้เพียงไม่กี่โมเลกุลของน้ำฟรีมีอยู่ในผลึกเหลวในขณะที่ส่วนใหญ่ถูกผูกไว้กับช่อง ผนัง เหล่านี้ผลึกเหลวขั้นตอนลูกบาศก์มี isotropic หรือเพื่อที่จะพูดไม่ได้มีคุณสมบัติ birefringent ใด ๆ ซึ่งหมายความว่าถ้าสไลด์ด้วยชั้นของฟิล์มคริสตัลเหลว lyotropic จะอยู่ภายใต้แหล่งกำเนิดแสงที่ช่วยให้แสงผ่านไปก็จะปรากฏขึ้น . สีดำเมื่อสังเกตผ่านโพลาไรอีกเอียงที่ 90 องศาเพื่อให้บรรลุbirefringence และทำให้ได้รับสัญญาณนักวิจัยถึงอีกครั้งในกระเป๋าของพวกเขาของเทคนิค: พวกเขาเพิ่มเอนไซม์บางอย่างที่จะผลึกเหลวเพื่อให้เกิดปฏิกิริยาทางเคมีจะเกิดขึ้นในท่อนาโน ตั้งแต่เพียงจำนวนเล็กน้อยของน้ำได้อย่างอิสระที่มีอยู่ในท่อนาโนผลิตภัณฑ์ของปฏิกิริยาที่เร่งกันในรูปแบบผลึกซึ่งเป็นตัว birefringent มองใกล้ที่กลุ่มตัวอย่างที่ผ่านการกรองโพลาไรซ์ที่สองอยู่เหนือมันและตั้งฉากกับครั้งแรกที่แสดงให้เห็นถึงรูปแบบแสงในกรณีที่เอนไซม์มีปฏิกิริยากับสารทดสอบ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ผลึกเหลว lyotropic รวมตัวกันเป็นเครือข่ายพิเศษเฉพาะสมมาตรซึ่งหมายความว่ารูปแบบพื้นฐานของพวกเขาทำซ้ำตัวเองเป็นระยะ ๆ ในกรณีของคริสตัลเหลวลูกบาศก์ 1 ช่อง ทำจากเยื่อ bilayer ไขมันในน้ำ และมีเส้นผ่านศูนย์กลางเพียงไม่กี่นาโนเมตร โมเลกุลน้ำฟรีดังนั้นเพียงไม่กี่ที่มีอยู่ในผลึกเหลวในขณะที่คนส่วนใหญ่ที่ถูกผูกไว้กับผนังช่อง เหล่านี้ผลึกเหลวลูกบาศก์ขั้นตอนเป็นแบบ หรือจะว่าไปแล้ว ไม่มีไบรีฟรินเจนท์ คุณสมบัติ ซึ่งหมายความ ว่า ถ้าเป็นภาพนิ่งด้วยชั้นฟิล์มของผลึกเหลว lyotropic วางอยู่ภายใต้แหล่งกำเนิดแสงที่ให้แสงผ่านขั้วจะปรากฏสีดำเมื่อตรวจสอบผ่าน polarizer อื่นเอียง 90 องศา

เพื่อให้เกิดการหักเหสองแนว และดังนั้นจึง รับสัญญาณ นักวิจัยถึงอีกครั้งในถุงของเทคนิคของพวกเขาเพิ่มเอนไซม์บางอย่างกับผลึกเหลวเพื่อให้ปฏิกิริยาทางเคมีที่จะใช้สถานที่ในนาโน . ตั้งแต่เพียงเล็กน้อยของน้ำสามารถใช้ได้อย่างอิสระในนาโน ผลิตภัณฑ์ของปฏิกิริยาการตกตะกอนร่วมกันเพื่อฟอร์มผลึก ซึ่งตนเองไบรีฟรินเจนท์ .มองใกล้ที่ผ่านตัวกรองโพลาไรเซชันตัวอย่างที่สองวางไว้ข้างบนมันตั้งฉากกับครั้งแรกแสดงรูปแบบแสงในกรณีที่มีเอนไซม์ที่มีปฏิกิริยากับสารทดสอบ