buy when expectation is high, and s

buy when expectation is high, and sell when it is low. Chapter 2 explains this
expectation concept and how to measure it. It is my first pillar for successful
trading.
The second thing to look for when diagnosing a stock is its symptoms.
Today’s technical analysis is still performed at the level of the symptoms:
Traders like to catch trends and their reversals, they will look for overbought
and oversold situations, they will search for crowd movements,
they will examine the demand/supply equilibrium, and so on. These traders
are like doctors who look at a fever and know that after a few days the fever
should dissipate. These traditional analysis tools are very useful if you master
the art of interpreting them. Traders, like doctors, need a fair amount
of experience to become truly skilled. Only then will they be able to see in
the charts where a market or an individual stock is heading.
These traditional tools require skills, training, and thinking. The great
majority of traders use these tools with end-of-day data and react in unison
during the following trading session. The “doctors” will see similar symptoms
and will prescribe similar treatments (though this is not always the
case). I also use these traditional technical analysis tools, because it is critical
to see what others see to know where the technical analysis will push
the crowd of traders.
A doctor who has a doubt about a patient’s diagnosis will order a blood
sample to be analyzed; the doctor can then diagnose the disease and prescribe
the necessary medicine.
Now, suppose that it were possible for a doctor to insert a tiny microscope
inside the patient’s body, and that this microscope had a wireless
communication with the doctor’s health monitoring station. The doctor
could then monitor the fever not only after it appears (when the
patient has already become sick), but before the fever appears, by monitoring
any conditional change occurring at the microscopic level. The doctor
could sort those changes and take into consideration only those that might
cause a fever. Of course, this capability doesn’t yet exist in medicine. Similarly,
what is lacking in today’s technical analysis is a way to detect micro
changes that are strong enough to propagate over time into a full-blown
sickness.
A very useful tool that I present in this book therefore allows traders to
reach what might be called the cell level. Going down to the cell level does
not necessarily mean analyzing each transaction, looking over the trading
book size, or studying all the coming orders. You need to look at the microbes
through your microscope, but remember that you are more interested
in seeing their propagation than their mere existence. When Pasteur
discovered microorganisms such as viruses and bacteria, it was not finding
out they existed that revolutionized medicine but rather the interpretation

of how these organisms work. This interpretation led the way to vaccines
that changed our everyday life.
I love the work of Russian Nobel Prize winner Dr. Ilya Prigogine and his
theories of dissipative structures. I have to confess that it was when I was
looking for a way to discover a new tool that I remembered my readings
of Prigogine during my student days. Although these theories would not
apply to understanding how the stock market works, I found the principles
strikingly close to how I believe the stock market functions. The work of
Dr. Prigogine states that the dissipation of matter or energy is usually
linked to the ideas of efficiency loss and to the evolution toward a larger
disorder. However, far from the equilibrium of a structure, the dissipation
could be at the origin of new states of matter. In short, life was created
by dissipation that brought a system far from the equilibrium and forced it
into a new state of order. Prigogine states:

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ซื้อเมื่อความคาดหวังสูง และขายเมื่อมันอยู่ในระดับต่ำ บทที่ 2 อธิบายนี้แนวคิดความคาดหวังและวิธีการวัด เป็นเสาหลักของฉันแรกสำหรับประสบความสำเร็จซื้อขายสิ่งสองในการวิเคราะห์หุ้นเป็นคือ อาการของวิเคราะห์ทางเทคนิควันนี้ยังคงดำเนินระดับอาการ:ค้าอยากจับแนวโน้มและกลับของพวกเขา พวกเขาจะดูสำหรับ overboughtและสถานการณ์ oversold พวกเขาจะค้นหาความเคลื่อนไหวของฝูงชนพวกเขาจะตรวจสอบการอุปสงค์/อุปทานสมดุล และอื่น ๆ ผู้ค้าเหล่านี้เช่นหมอดูเป็นไข้ และรู้ว่าหลังจากนั้นไม่มีไข้ควรกระจายไป เครื่องมือวิเคราะห์แบบดั้งเดิมเหล่านี้มีประโยชน์มากถ้าคุณต้นศิลปะของการตีความนั้น ผู้ค้า เช่นหมอ ต้องสมควรประสบการณ์เป็นผู้เชี่ยวชาญอย่างแท้จริง หลังจากนั้น พวกเขาจะได้เห็นในแผนภูมิที่ตลาดหรือหุ้นแต่ละตัวมีหัวเครื่องมือแบบดั้งเดิมเหล่านี้ต้องใช้ทักษะ ฝึกอบรม และการคิด มหาราชเทรดเดอร์ส่วนใหญ่ใช้เครื่องมือเหล่านี้ มีข้อมูลสิ้นวัน และตอบสนองในหัวใจในระหว่างสมัยการค้าต่อไปนี้ "แพทย์" จะเห็นอาการคล้ายคลึงกันและจะสั่งยารักษาคล้ายกัน (แต่ไม่เสมอกรณี) ผมยังใช้เครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคแบบดั้งเดิม เนื่องจากมีความสำคัญเมื่อต้องการดูสิ่งที่ผู้อื่นเห็นรู้ที่จะผลักดันการวิเคราะห์ทางเทคนิคฝูงชนของผู้ค้าหมอที่มีข้อสงสัยเกี่ยวกับการวินิจฉัยของผู้ป่วยจะสั่งเลือดตัวอย่างที่จะวิเคราะห์ แพทย์สามารถวินิจฉัยโรค แล้วกำหนดยาที่จำเป็นตอนนี้ สมมติว่า มีแพทย์กล้องจุลทรรศน์ขนาดเล็กแทรกไปได้ภายในร่างกายของผู้ป่วย และที่ นี้กล้องจุลทรรศน์ได้ไร้สายสื่อสารกับสถานีการตรวจสอบสุขภาพการแพทย์ หมอแล้วสามารถติดตามไข้ไม่เพียงแต่หลังจากนั้นปรากฏ (เมื่อการผู้ป่วยเป็นป่วย), แต่ ก่อนไข้ ปรากฏ การตรวจสอบเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขใด ๆ เกิดขึ้นในระดับกล้องจุลทรรศน์ หมอสามารถเรียงลำดับการเปลี่ยนแปลงเหล่านั้น และพิจารณาเฉพาะผู้ที่อาจทำให้เกิดไข้ แน่นอน ความสามารถนี้ไม่ได้มีอยู่ในยา ในทำนองเดียวกันสิ่งขาดในวันนี้วิเคราะห์ทางเทคนิคเป็นวิธีการตรวจหาไมโครการเปลี่ยนแปลงที่มีความแข็งแรงพอที่จะเผยแพร่ช่วงเวลาในการ full-blownเจ็บป่วยเครื่องมือที่มีประโยชน์ที่ผมนำเสนอในหนังสือเล่มนี้จึงช่วยให้นักถึงอะไรอาจเรียกว่าระดับเซลล์ ไม่ไปลงไปในระดับเซลล์ไม่ได้หมายความว่า การวิเคราะห์แต่ละธุรกรรม มองผ่านการซื้อขายขนาดหนังสือ หรือเรียนใบสั่งมาทั้งหมด คุณต้องดูจุลินทรีย์ผ่านทางกล้องจุลทรรศน์ของคุณ แต่จำไว้ว่า คุณจะให้ความสนใจในการเห็นของพวกเขาเผยแพร่มากกว่าของพวกเขามีอยู่เพียง เมื่อเมืองบันดุงค้นพบจุลินทรีย์เช่นไวรัสและแบคทีเรีย จะได้ไม่หาออกจะอยู่ที่แพทย์ปฏิวัติแต่เป็นการตีความของสิ่งมีชีวิตเหล่านี้ทำงานอย่างไร การตีความนี้นำไปรู้ที่เปลี่ยนแปลงชีวิตประจำวันของเรารักการทำงานของผู้ชนะรางวัลโนเบลรัสเซียดร. Ilya Prigogine และของเขาทฤษฎีโครงสร้าง dissipative ได้รับสารภาพว่า เป็นผมหาวิธีการค้นพบเครื่องมือใหม่ที่ฉันจำของฉันอ่านของ Prigogine ในระหว่างวันนักเรียนของฉัน แม้ว่าทฤษฎีเหล่านี้จะไม่ใช้เพื่อทำความเข้าใจวิธีการทำงานของตลาดหลักทรัพย์ พบหลักกว่าปิดไรผมหน้าที่ตลาดหุ้น การทำงานของดร. Prigogine ระบุว่า การกระจายของสสารหรือพลังงานเป็นปกติเชื่อมโยงความคิดของการสูญเสียประสิทธิภาพ และวิวัฒนาการไปเป็นใหญ่โรค อย่างไรก็ตาม จากสมดุลของโครงสร้าง การกระจายอาจจะอยู่ที่จุดเริ่มต้นสถานะใหม่ของสสาร ในระยะสั้น สร้างชีวิตโดยการกระจายที่นำระบบจากสมดุล และบังคับมันเข้าสู่สถานะใหม่ของใบสั่ง อเมริกา Prigogine:

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ซื้อเมื่อความคาดหวังสูงและขายเมื่อมันอยู่ในระดับต่ำ บทที่ 2
อธิบายนี้แนวความคิดความคาดหวังและวิธีการวัด มันเป็นเสาแรกของฉันสำหรับการประสบความสำเร็จ. ซื้อขายสิ่งที่สองที่จะมองหาเมื่อการวินิจฉัยหุ้นเป็นอาการของ. การวิเคราะห์ทางเทคนิคในวันนี้ยังคงมีการดำเนินการในระดับของอาการ: ผู้ค้าชอบที่จะจับแนวโน้มและการพลิกกลับของพวกเขาจะมองหา overbought และสถานการณ์ oversold พวกเขาจะค้นหาการเคลื่อนไหวของฝูงชนที่พวกเขาจะตรวจสอบความสมดุลอุปสงค์/ อุปทานและอื่น ๆ ผู้ค้าเหล่านี้เป็นเหมือนแพทย์ที่ดูมีไข้และรู้ว่าหลังจากไม่กี่วันไข้ควรกระจาย เหล่านี้เครื่องมือในการวิเคราะห์แบบดั้งเดิมจะมีประโยชน์มากถ้าคุณโทศิลปะของการแปลความหมายของพวกเขา ผู้ค้าเช่นแพทย์จำเป็นต้องมีจำนวนเงินที่ยุติธรรมของประสบการณ์ที่จะกลายเป็นที่มีความเชี่ยวชาญอย่างแท้จริง เท่านั้นแล้วพวกเขาจะสามารถที่จะเห็นในชาร์ตที่ตลาดหรือหุ้นแต่ละคนจะมุ่งหน้า. เครื่องมือแบบดั้งเดิมเหล่านี้จำเป็นต้องมีทักษะการฝึกอบรมและการคิด ดีส่วนใหญ่ของผู้ค้าใช้เครื่องมือเหล่านี้ที่มีข้อมูลในตอนท้ายของวันและตอบสนองในเวลาเดียวกันในระหว่างช่วงการซื้อขายต่อไปนี้ "การแพทย์" จะเห็นอาการคล้ายกันและจะกำหนดวิธีการรักษาที่คล้ายกัน(แต่นี้ไม่เสมอกรณี) ฉันยังใช้เครื่องมือในการวิเคราะห์ทางเทคนิคแบบดั้งเดิมเหล่านี้เพราะมันเป็นสิ่งสำคัญที่จะเห็นสิ่งที่คนอื่นเห็นที่จะทราบว่าการวิเคราะห์ทางเทคนิคที่จะผลักดันฝูงชนของผู้ค้า. แพทย์ที่มีข้อสงสัยเกี่ยวกับการวินิจฉัยของผู้ป่วยจะสั่งซื้อเลือดตัวอย่างที่จะวิเคราะห์; แพทย์แล้วสามารถวินิจฉัยโรคและกำหนดยาที่จำเป็น. ตอนนี้คิดว่ามันเป็นไปได้สำหรับแพทย์ที่จะแทรกกล้องจุลทรรศน์ขนาดเล็กที่อยู่ภายในร่างกายของผู้ป่วยและที่กล้องจุลทรรศน์นี้มีสายการสื่อสารกับสถานีตรวจสอบสุขภาพของแพทย์ แพทย์ก็จะตรวจสอบไข้ไม่เพียง แต่หลังจากที่มันปรากฏขึ้น (เมื่อผู้ป่วยได้กลายเป็นคนป่วย) แต่ก่อนที่จะมีไข้ปรากฏขึ้นโดยการตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขใด ๆ ที่เกิดขึ้นในระดับกล้องจุลทรรศน์ แพทย์สามารถเรียงลำดับการเปลี่ยนแปลงเหล่านั้นและนำเข้าสู่การพิจารณาเฉพาะผู้ที่อาจก่อให้เกิดไข้ แน่นอนความสามารถนี้ยังไม่มีในการแพทย์ ในทำนองเดียวกันสิ่งที่ขาดในการวิเคราะห์ทางเทคนิคของวันนี้เป็นวิธีที่จะตรวจสอบไมโครการเปลี่ยนแปลงที่มีความแข็งแรงพอที่จะเผยแพร่ในช่วงเวลาเป็นเต็มเป่าเจ็บป่วย. เครื่องมือที่มีประโยชน์มากที่ผมนำเสนอในหนังสือเล่มนี้จึงช่วยให้ผู้ค้าที่จะมาถึงสิ่งที่อาจจะเรียกว่าในระดับเซลล์ จะลงไปที่ระดับเซลล์ไม่ได้หมายความว่าการวิเคราะห์แต่ละรายการมองซื้อขายหนังสือขนาดหรือเรียนทั้งหมดที่สั่งซื้อมา คุณต้องมองไปที่จุลินทรีย์ผ่านกล้องจุลทรรศน์ของคุณแต่จำไว้ว่าคุณมีความสนใจในการมองเห็นการขยายพันธุ์ของพวกเขามากกว่าการดำรงอยู่ของพวกเขาเพียง เมื่อปาสเตอร์พบเชื้อจุลินทรีย์เช่นแบคทีเรียไวรัสและมันก็ไม่ได้หาว่าพวกเขาอยู่ที่ปฏิวัติยาแต่การตีความของวิธีการที่สิ่งมีชีวิตเหล่านี้ทำงาน การตีความนี้จะนำวิธีการฉีดวัคซีนที่เปลี่ยนชีวิตประจำวันของเรา. ฉันรักการทำงานของรัสเซียผู้ชนะรางวัลโนเบลดร. Ilya Prigogine และเขาทฤษฎีของโครงสร้างdissipative ผมต้องยอมรับว่ามันเป็นตอนที่ฉันกำลังมองหาวิธีการค้นพบเครื่องมือใหม่ที่ผมจำได้อ่านของฉันของPrigogine ช่วงวันนักเรียนของฉัน แม้ว่าทฤษฎีเหล่านี้จะไม่นำไปใช้กับการทำความเข้าใจวิธีการลงทุนในตลาดหุ้นทำงานผมพบว่าหลักการที่ยอดเยี่ยมกับวิธีที่ผมเชื่อว่าฟังก์ชั่นการลงทุนในตลาดหุ้น การทำงานของดร. Prigogine ระบุว่าการกระจายของสารหรือพลังงานมักจะเชื่อมโยงกับความคิดของการสูญเสียประสิทธิภาพและวิวัฒนาการไปสู่ขนาดใหญ่ความผิดปกติ แต่ยังห่างไกลจากความสมดุลของโครงสร้างที่กระจายอาจจะเป็นที่กำเนิดของรัฐใหม่ของเรื่อง ในระยะสั้นชีวิตที่ถูกสร้างขึ้นโดยการกระจายที่นำระบบการห่างไกลจากความสมดุลและบังคับให้มันเป็นรัฐใหม่ของการสั่งซื้อ รัฐ Prigogine:

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ซื้อเมื่อมีความคาดหวังสูง และขายเมื่อมันต่ำ บทที่ 1 อธิบายแนวคิดนี้
ความคาดหวังและวิธีการวัดมัน มันคือเสาแรกประสบความสำเร็จสำหรับการซื้อขาย
.
สิ่งที่สองที่จะมองหาเมื่อวินิจฉัยหุ้นคืออาการของ
การวิเคราะห์ทางเทคนิควันนี้ยังอยู่ในระดับของอาการ :
traders เหมือนจับแนวโน้มและการพลิกกลับของพวกเขา พวกเขาจะมองหา overbought
และสถานการณ์และพวกเขาจะค้นหาการเคลื่อนไหวของฝูงชน ,
พวกเขาจะศึกษาอุปสงค์ / อุปทานสมดุลและอื่น ๆ ผู้ค้าเหล่านี้
เหมือนแพทย์ที่ดูอาการไข้ และทราบว่า หลังจากไม่กี่วันไข้
ควรกระจาย . เครื่องมือการวิเคราะห์แบบดั้งเดิมเหล่านี้จะมีประโยชน์มากถ้าคุณต้นแบบศิลปะของการตีความ
. ผู้ค้า เช่น แพทย์ ต้องยุติธรรมจำนวน
ประสบการณ์ที่จะกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญอย่างแท้จริง แล้วพวกเขาจะได้เห็นใน
แผนภูมิที่ตลาดหรือหุ้นแต่ละตัวกำลังมุ่งหน้า .
เครื่องมือแบบดั้งเดิมเหล่านี้ต้องใช้ทักษะ การฝึกอบรม และการคิด ส่วนใหญ่ที่ดี
พ่อค้าใช้เครื่องมือเหล่านี้กับจุดสิ้นสุดของข้อมูลวันที่และตอบสนองกันต่อไป
ในระหว่างช่วงการซื้อขาย " หมอ " จะดูคล้ายอาการ
และจะแนะนำการรักษาที่คล้ายกัน ( แม้ว่านี้ไม่เสมอ
กรณี ) ผมยังใช้เครื่องมือการวิเคราะห์ทางเทคนิคเหล่านี้แบบดั้งเดิม เพราะมันเป็นวิกฤต
ที่จะเห็นสิ่งที่คนอื่นเห็นว่า การวิเคราะห์ทางเทคนิค จะผลักดันฝูงชนของผู้ค้า
.
หมอ ใครมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการวินิจฉัยโรคของผู้ป่วยจะสั่งเลือด
ตัวอย่าง มาวิเคราะห์ คือ แพทย์สามารถวินิจฉัยโรค และบัญญัติ
ยาจำเป็น
ตอนนี้สมมติว่ามันเป็นไปได้สำหรับแพทย์ที่จะแทรก
กล้องจุลทรรศน์เล็ก ๆ ภายในร่างกายของผู้ป่วย และกล้องจุลทรรศน์นี้มีการสื่อสารไร้สาย
กับหมอสุขภาพการตรวจสอบสถานี หมอ
สามารถตรวจสอบแล้วไข้ไม่เพียง แต่หลังจากที่มันปรากฏ ( เมื่อ
ผู้ป่วยได้ป่วย ) แต่ก่อนไข้ปรากฏ โดยการตรวจสอบ
ใด ๆที่มีเงื่อนไขการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในระดับอนุภาค หมอ
สามารถจัดเรียงการเปลี่ยนแปลงเหล่านั้น และพิจารณาเฉพาะผู้ที่อาจ
ทำให้เกิดไข้ ของหลักสูตรนี้ไม่ได้ แต่ความสามารถที่มีอยู่ในยา โดย
สิ่งที่ขาดในการวิเคราะห์ทางเทคนิคในวันนี้เป็นวิธีการตรวจหาการเปลี่ยนแปลงไมโคร
ที่แข็งแรงพอที่จะเผยแพร่ตลอดเวลาเป็นอาการป่วย

เป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์มากที่ผมนำเสนอในหนังสือเล่มนี้จึงช่วยให้ผู้ค้า

ถึงสิ่งที่อาจจะเรียกว่าระดับเซลล์ จะลงไปที่ระดับเซลล์ไม่
ไม่ได้หมายความว่าการวิเคราะห์แต่ละรายการ มองผ่านการซื้อขาย
หนังสือ ขนาด หรือ เรียนกันมาสั่ง คุณต้องการหาที่จุลินทรีย์
ผ่านกล้องจุลทรรศน์ของคุณ แต่จำไว้ว่าคุณสนใจมากขึ้น
ในการเห็นของพวกเขากว่ามีอยู่เพียงของพวกเขา เมื่อปาสเตอร์
ค้นพบจุลินทรีย์ เช่น แบคทีเรีย และไวรัส มันไม่ได้หา
ออกมาอยู่ที่ปฏิวัติยา แต่การตีความ

ของสิ่งมีชีวิตเหล่านี้ทำงานอย่างไร การตีความนี้นำวิธีการที่เปลี่ยนชีวิตของเราทุกวัน )
.
ฉันรักการทำงานของรัสเซียรางวัลโนเบล ดร. ลยา ปริโกจินและ
ทฤษฎีโครงสร้าง dissipative . ฉันต้องสารภาพว่าตอน
มองหาวิธีที่จะค้นพบเครื่องมือใหม่ที่ผมจำได้ว่าผมอ่าน
ของ prigogine ในระหว่างวันนักเรียนของฉัน แม้ว่าทฤษฎีเหล่านี้จะไม่ได้
ใช้ความเข้าใจตลาดหุ้นทำงานอย่างไร ฉันพบหลักการ
มากใกล้แล้วผมเชื่อว่าตลาดหุ้นฟังก์ชัน การทำงานของ
ดร.prigogine ระบุว่า การกระจายของวัตถุหรือพลังงานมักจะเชื่อมโยงกับความคิดของ
การสูญเสียประสิทธิภาพและวิวัฒนาการต่อโรคใหญ่

อย่างไรก็ตาม ห่างไกลจากความสมดุลของโครงสร้าง การสลาย
อาจจะเป็นที่มาของรัฐใหม่ของเรื่อง ในสั้น , ชีวิตที่ถูกสร้างขึ้นโดยการกระจาย
ที่นำระบบไกลจากสมดุลและบังคับ
เข้าสู่สถานะใหม่ของการสั่งซื้อprigogine สหรัฐอเมริกา :