Sky Burial in TibetTibetans practic

Sky Burial in Tibet

Tibetans practice several different forms of funeral: sky burial (or celestial burial), water funeral, cremation, interment and stupa burial. Which one is chosen depends on the wealth and social status of the deceased.

Sky burial is to feed vultures with the body of the dead. After vultures finish eating the body and fly into the sky, Tibetans think that the dead will go to the heaven. It is the usual means adopted to dispose of the corpses of commoners, and is not considered suitable for children who are less than 18 years old, pregnant women, or those who have died of infectious disease or accident. Even today, the origin of sky burial remains largely hidden in Tibetan mystery.

Religious belief

Sky burial is a ritual with great religious meaning behind it. Tibetans are encouraged to witness this ritual, to confront death openly and to feel the impermanence of life. Tibetans believe that the corpse is nothing more than an empty vessel. The spirit, or the soul, of the deceased has exited the body to be reincarnated into another circle of life. It is believed that the Drigung Kagyu order of Tibetan Buddhism established the tradition in this land of snow, although there are other versions of its origin.

The corpse is offered to the vultures. It is believed that the vultures are Dakinis. Dakinis are the Tibetan equivalent of angels. In Tibetan, Dakini means "sky dancer". Dakinis will take the soul into the heaven, which is understood to be a windy place where souls await reincarnation into their next lives. This donation of human flesh to the vultures is considered virtuous because it saves the lives of small animals that the vultures might otherwise capture for food. Sakyamuni, one of the Buddhas, demonstrated this virtue. To save a pigeon, he once fed a hawk with his own flesh.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ฝังศพฟ้าในทิเบตTibetans ฝึกรูปแบบต่าง ๆ หลายศพ: สกาฝังศพ (หรือฝังศพคน) น้ำฝังศพศพ เผาศพ interment และเจดีย์ เลือกหนึ่งที่ขึ้นอยู่กับสมบัติและสถานะทางสังคมของผู้ตายฝังศพฟ้าจะฟีด vultures กับร่างกายของคนตาย หลังจาก vultures เสร็จกินร่างกาย และบินไปในฟากฟ้า Tibetans คิดว่า คนตายจะไปสวรรค์ มันเป็นวิธีปกติที่นำไปทิ้งศพของไพร่ และไม่ถือว่าเหมาะสำหรับเด็กที่อายุต่ำกว่า 18 ปี หญิงตั้งครรภ์ หรือผู้ที่มีการเสียชีวิตของโรคติดเชื้อหรืออุบัติเหตุ แม้วันนี้ จุดเริ่มต้นของการฝังศพฟ้ายังคงซ่อนอยู่ในความลึกลับทิเบตส่วนใหญ่ ความเชื่อทางศาสนาฝังศพลอยฟ้าเป็นพิธีกรรมที่ มีความหมายทางศาสนาที่ดีเรื่อง Tibetans จะให้การเป็นพยานนี้พิธีกรรม การเผชิญความตายอย่างเปิดเผย และความอนิจจังของชีวิต Tibetans เชื่อว่า ศพเป็นอะไรมากไปกว่าเรือว่างเปล่า วิญญาณ หรือวิญญาณ ผู้ตายได้ออกจากร่างกายเป็นกระบี่ไร้เทียมทานเป็นวงอื่นของชีวิต เชื่อว่า ลำดับนิกายกาจู Drigung ของศาสนาพุทธแบบทิเบตก่อตั้งประเพณีในแผ่นดินนี้ของหิมะ แม้ว่าจะมีรุ่นอื่น ๆ มาศพจะเสนอให้ vultures เชื่อกันว่า vultures Dakinis Dakinis มีค่าเท่ากับทิเบตของเทวดา ในธิเบต Dakini หมายถึง "นักเต้นสกา" Dakinis จะนำวิญญาณไปสวรรค์ ซึ่งเป็นที่เข้าใจเป็นวินดี้ที่วิญญาณรออาละวาดในชีวิตของเขาต่อไป นี้บริจาค vultures เนื้อมนุษย์จะถือว่าบริสุทธิ์ เพราะมันจะบันทึกชีวิตของสัตว์ขนาดเล็กที่ vultures มิฉะนั้นอาจจับอาหาร Sakyamuni พระ หนึ่งแสดงให้เห็นว่าคุณธรรมนี้ บันทึกนกพิราบ เขาครั้งเลี้ยงเหยี่ยวที่ มีเนื้อของตัวเอง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ศพสกายในทิเบตทิเบตปฏิบัติในรูปแบบที่แตกต่างกันหลายศพ: ฝังศพท้องฟ้า (หรือที่ฝังศพบนท้องฟ้า) ศพน้ำศพและศพที่ฝังศพเจดีย์ ซึ่งหนึ่งถูกเลือกขึ้นอยู่กับความมั่งคั่งและสถานะทางสังคมของผู้ตาย. ฝังศพสกายคือการให้อาหารแร้งกับร่างกายของคนตาย หลังจากเสร็จสิ้นการรับประทานอาหารแร้งร่างกายและบินสู่ท้องฟ้าชาวทิเบตคิดว่าตายแล้วจะไปสวรรค์ มันเป็นวิธีปกตินำมาใช้ในการกำจัดของศพของไพร่และไม่ถือว่าเหมาะสำหรับเด็กที่มีน้อยกว่า 18 ปี, หญิงตั้งครรภ์หรือผู้ที่มีผู้เสียชีวิตจากโรคติดเชื้อหรืออุบัติเหตุ แม้กระทั่งวันนี้ที่มาของการฝังศพบนท้องฟ้ายังคงซ่อนอยู่ส่วนใหญ่อยู่ในความลึกลับทิเบต. ทางศาสนาความเชื่อที่ฝังศพท้องฟ้าเป็นพิธีกรรมทางศาสนาที่มีความหมายที่ดีที่อยู่เบื้องหลังมัน ชาวทิเบตได้รับการสนับสนุนที่จะเป็นพยานพิธีกรรมนี้ที่จะเผชิญหน้ากับความตายอย่างเปิดเผยและจะรู้สึกไม่เที่ยงของชีวิต ชาวทิเบตเชื่อว่าศพเป็นอะไรมากไปกว่าที่เป็นภาชนะว่างเปล่า จิตวิญญาณหรือจิตวิญญาณของผู้ตายได้ออกร่างกายที่จะกลับชาติมาเกิดเป็นวงกลมของชีวิตอีก เป็นที่เชื่อกันว่าคำสั่ง Drigung Kagyu พุทธศาสนาในทิเบตประเพณีที่จัดตั้งขึ้นในดินแดนแห่งหิมะนี้แม้ว่าจะมีรุ่นอื่น ๆ ของต้นกำเนิดของมัน. ศพมีให้แก่แร้ง เป็นที่เชื่อว่ามีแร้ง Dakinis Dakinis เป็นเทียบเท่าทิเบตของเทวดา ในทิเบต Dakini หมายถึง "นักเต้นฟ้า" Dakinis จะใช้จิตวิญญาณสู่สวรรค์ซึ่งเป็นที่เข้าใจกันว่าเป็นสถานที่ที่มีลมแรงที่รอคอยการกลับชาติมาเกิดจิตวิญญาณเข้ามาในชีวิตของพวกเขาต่อไป การบริจาคของเนื้อมนุษย์เพื่อแร้งนี้ถือเป็นคุณงามความดีเพราะมันช่วยชีวิตของสัตว์ขนาดเล็กที่แร้งอาจจับอาหาร ศากยมุนีซึ่งเป็นหนึ่งในพระพุทธรูปที่แสดงให้เห็นถึงคุณความดีนี้ เพื่อประหยัดนกพิราบเขาเคยเลี้ยงเหยี่ยวกับเนื้อของเขาเอง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การฝังศพในทิเบตชาวทิเบตฟ้า

ฝึกหลายรูปแบบที่แตกต่างกันของงานศพ : Sky Burial ( หรือสวรรค์ , ศพ , งานศพ ) น้ำเผาศพและฝังพระศพ . หนึ่งที่ถูกเลือกขึ้นอยู่กับความมั่งคั่งและสถานะทางสังคมของผู้ตาย งานศพเป็น

ฟ้าป้อนแร้งกับศพของคนตาย หลังจากแร้งกินศพ และบินไปในท้องฟ้าชาวทิเบตเชื่อว่าตายแล้วจะได้ไปสวรรค์ มันเป็นปกติ หมายความว่า อุปการะที่ทิ้งศพของคนธรรมดาสามัญ และไม่ถือว่าเหมาะสำหรับเด็กต่ำกว่า 18 ปี สตรีมีครรภ์ หรือผู้ที่ได้ตายจากโรคติดเชื้อ หรืออุบัติเหตุ แม้วันนี้ ที่มาของ Sky Burial ส่วนใหญ่ยังคงซ่อนอยู่ในความลึกลับของชาวทิเบต .



ความเชื่อในศาสนาSky Burial คือพิธีกรรมทางศาสนามากความหมายมัน ชาวทิเบตจะสนับสนุนให้พยานในพิธีนี้ เพื่อเผชิญหน้ากับความตายอย่างเปิดเผย และรู้สึกถึงความไม่แน่นอนของชีวิต ชาวทิเบตเชื่อว่าศพไม่มีอะไรมากกว่าสมองกลวง วิญญาณ หรือ วิญญาณของผู้ตายได้ออกจากร่างไปเกิดใหม่ในอีกวงกลมของชีวิตเชื่อกันว่า drigung Kagyu คำสั่งของพุทธศาสนาในทิเบตก่อตั้งประเพณีในเมืองหิมะนี้ แม้ว่าจะมีรุ่นอื่น ๆของที่มาของ

ศพให้แร้งลง เชื่อกันว่า อีแร้งกำลัง dakinis . dakinis เป็นทิเบต กับเทวดา ในธิเบต ฑากินี หมายถึง " นักเต้น " ฟ้า จะนำเอาวิญญาณผู้ตายไปสู่สวรรค์ซึ่งเป็นที่เข้าใจกันว่าเป็นสถานที่ที่วิญญาณรอคอยการเกิดใหม่ ลมเข้าไปในชีวิตของพวกเขาต่อไป การบริจาคของเนื้อมนุษย์ให้แร้งถือว่าเป็นคุณธรรม เพราะมันช่วยให้ชีวิตของสัตว์ขนาดเล็กที่แร้งอื่นอาจจับอาหาร โนบิตะ หนึ่งของพระพุทธเจ้า แสดงให้เห็นถึงคุณธรรมนี้ บันทึกที่เขาเคยเลี้ยงนกพิราบ เหยี่ยวกับเนื้อหนังของตัวเอง