Teaching an Inductive ClassAs a tea

Teaching an Inductive Class

As a teacher you do not explicitly state any rules, but rather your job is to guide the students towards the rule getting them to become aware of it. Firstly you need to have clearly in your mind the concept or rule which needs to be discovered. Then you create a series of clear examples which demonstrate use of the rule.

Suppose you are getting the class to work out how to convert a passive to an active sentence. You might begin by writing up:

The window was broken by the boy.

Encourage speculation. Get students involved in looking for the rule, brainstorming ideas and suchlike. Of course they may well come up with alternative ideas or radical observations which are nothing to do with the rule, but that doesn’t matter as long as they are participating and thinking for themselves (or, in other words, learning to think).

There are 4 words in the sentence.
It begins with a capital letter and ends in a full stop.
There’s no object.
We don’t know who broke the window.

And so on. Then add further examples which either confirm or deny previous observations:

My car was stolen yesterday.
The cake was eaten by Elsa.

As a teacher you then need to guide them to the rule so they become aware of it. In other words, get the class to “notice” a particular rule. In the passive example above the students need to be aware that the usual SVO‏‎ order has not been followed and that the subject is not always present.

Once the students have “noticed” this you can put a couple of sentences next to each other and encourage the class to work out the pattern from one to another:

The boy broke the window.
The window was broken by the boy.

Finally you can explicitly confirm the rules the students have discovered. You will not have told them these rules, you will have merely guided the class towards them.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

สอนการเรียนเชิงอุปนัยเป็นครู คุณไม่ชัดเจนรัฐกฎใด ๆ แต่แทนที่จะ เป็นคู่มือนักเรียนต่อกฎที่ได้รับพวกเขาจะตระหนักถึงมัน ประการแรก คุณต้องมีอย่างชัดเจนในใจแนวคิดหรือกฎซึ่งจำเป็นต้องพบ จากนั้น คุณสามารถสร้างชุดของตัวอย่างที่ชัดเจนที่แสดงให้เห็นถึงการใช้กฎสมมติว่า คุณได้รับระดับการทำงานจากวิธีการแปลงการแฝงถึงประโยคใช้งานอยู่ คุณอาจเริ่มต้น โดยการเขียนค่า:หน้าต่างเสีย โดยเด็กขอแนะนำให้เก็งกำไร ได้เรียนเกี่ยวข้องในการค้นหากฎ ความคิดระดมสมอง กับ suchlike แน่นอนเขาอาจดีขึ้นมาความคิดอื่นสังเกตรุนแรงที่มีอะไรกับกฎ แต่ที่ไม่สำคัญตราบใดที่พวกเขาเข้าร่วม และคิดด้วยตนเอง (หรือ ในคำอื่น ๆ การเรียนรู้คิด)ยังมีคำในประโยคมันเริ่มต้น ด้วยตัวอักษร และสิ้นสุดในการหยุดวัตถุไม่ได้เราไม่รู้ว่าใครยากจนหน้าต่างและอื่น ๆ เพิ่มเติมตัวอย่างที่ยืนยัน หรือปฏิเสธข้อสังเกตก่อนหน้า:รถของผมถูกขโมยเมื่อวานนี้เค้กรับประทาน โดย Elsaเป็นครู แล้วได้แนะนำให้กับกฎเพื่อให้พวกเขาตระหนักว่า ในคำอื่น ๆ คลา "สังเกต" กฎเฉพาะได้ ในตัวอย่างแฝงข้าง นักเรียนต้องระวังว่า ไม่ได้ตามสั่ง SVO ปกติ และให้ชื่อเรื่องอยู่เสมอเมื่อนักเรียนที่มี "สังเกต" นี้คุณสามารถใส่สองประโยคติดกัน และส่งเสริมให้การเรียนการทำงานจากรูปหนึ่งไปยังอีก:เด็กยากจนหน้าต่างหน้าต่างเสีย โดยเด็กสุดท้าย คุณสามารถอย่างชัดเจนยืนยันได้ค้นพบกฎนักเรียน คุณจะไม่ได้บอกว่า กฎเหล่านี้ คุณจะได้แค่แนะนำเรียนต่อพวกเขา

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การเรียนการสอนชั้นอุปนัยเป็นครูคุณไม่ได้ระบุอย่างชัดเจนกฎใด ๆ แต่งานของคุณคือการแนะนำนักเรียนต่อกฎรับพวกเขาจะกลายเป็นตระหนักถึงมัน ประการแรกคุณจะต้องมีอย่างชัดเจนในใจของคุณแนวคิดหรือกฎที่จะต้องพบ จากนั้นคุณสร้างชุดของตัวอย่างที่ชัดเจนที่แสดงให้เห็นถึงการใช้กฎที่. สมมติว่าคุณจะได้รับการเรียนการทำงานออกวิธีการแปลงไปเรื่อย ๆ ประโยคที่ใช้งาน คุณอาจเริ่มต้นด้วยการเขียนขึ้น. หน้าต่างถูกทำลายโดยเด็กส่งเสริมการเก็งกำไร รับนักเรียนมีส่วนร่วมในการมองหากฎระดมความคิดและเช่นกัน แน่นอนว่าพวกเขาอาจจะมากับความคิดทางเลือกที่รุนแรงหรือข้อสังเกตที่มีอะไรจะทำอย่างไรกับการปกครอง แต่ที่ไม่สำคัญตราบเท่าที่พวกเขามีส่วนร่วมและการคิดสำหรับตัวเอง (หรือในคำอื่น ๆ เรียนรู้ที่จะคิดว่า) มี 4 คำในประโยคที่มี. มันเริ่มต้นด้วยอักษรตัวใหญ่และจบลงด้วยการหยุดเต็ม. ไม่มีวัตถุเป็น. เราไม่ทราบว่าที่ยากจนหน้าต่าง. และอื่น ๆ แล้วเพิ่มอีกตัวอย่างซึ่งอาจยืนยันหรือปฏิเสธข้อสังเกตก่อนหน้านี้:. รถของผมถูกขโมยไปเมื่อวานนี้. เค้กที่ได้รับการกินโดยเอลซาเป็นครูแล้วคุณต้องแนะนำให้กฎเพื่อให้พวกเขาตระหนักถึงมัน ในคำอื่น ๆ ที่จะได้รับระดับ "สังเกต" กฎโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในตัวอย่างข้างต้นเรื่อย ๆ นักเรียนจะต้องตระหนักว่าคำสั่ง SVO ปกติยังไม่ได้รับการปฏิบัติตามและบอกว่าเป็นเรื่องที่ไม่ได้เสมอในปัจจุบัน. เมื่อนักเรียนได้ "สังเกตเห็น" นี้คุณสามารถใส่คู่ของประโยคติดกัน และส่งเสริมให้มีการเรียนการทำงานออกจากรูปแบบหนึ่งไปยังอีกที่เด็กยากจนหน้าต่าง. หน้าต่างถูกทำลายโดยเด็ก. ในที่สุดคุณสามารถยืนยันได้อย่างชัดเจนกฎนักเรียนได้ค้นพบ คุณจะไม่ได้บอกพวกเขาว่ากฎเหล่านี้คุณจะได้รับคำแนะนำเป็นเพียงการเรียนต่อพวกเขา