Another endearing recommendation th

Another endearing recommendation that originated from the discussion was the proposal to invite greater public participation using the methodology applied by the National Economic and Social Development Board’s (NESDB) to draw up Thailand’s Ninth National Economic and Social Development Plan.4 Prior to this, financial sector development often applied the top-down approach dominated by regulators and policy makers. The procedure used by the NESDB on the other hand opens the door for a bottom-up approach by soliciting public comments and debates via hearings and focus groups. Using this methodology, researchers would therefore be able to capture and distill complex issues into manageable topics while at the same time generating proposals that respond to actual market and grass-root demands.
II. MODIFICATION OF METHODOLOGY
The need to develop a comprehensive financial sector development plan did not recede following the transfer of governorship of the Bank of Thailand from M.R. Chatu Mongol Sonakul to M.R. Pridiyathorn Devakula in May 2001. Governor M.R. Pridiyathorn was a key participant in the Eminent Persons Meeting held in April 2001, and took up the top post at the Bank of Thailand with the view that the project should remain on the agenda but with a more focused scope and objective that better reflects Thailand’s environmental limitations and economic reality.
Reengineered Scope: Tackling the Dominant Banking Sector
The project’s scope was reduced from encompassing the entire Thai financial system to covering mainly deposit-taking financial institutions under the supervision of the Bank of Thailand, namely commercial banks, finance companies, credit fonciers, and international banking facilities.
Several compelling reasons substantiated this amendment. First, even though there are some signs that the role of commercial bank loans has been slowly declining over-time (Chart 1), Thailand is still considered a bank-based economy whereby financial institutions under the supervision of the Bank of Thailand dominate the financial sector. Given this reliance on commercial bank financing, Thailand’s economy as a whole is bound to benefit from policies that improve efficiency and ability of deposit-taking institutions to offer innovative products at competitive prices.
Second, as commercial banks’ started to return to profitability in 2000 (Chart 2) and less preoccupied with internal restructuring, the situation was right for authorities 4 The Bank of Thailand received advisory assistance from Dr. Utis Kaothien of the NESDB

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ข้อเสนอเชิญชวนประชาชนมากกว่าใช้วิธีใช้ชาติเศรษฐกิจและสังคมพัฒนาคณะ (สศช.) ให้วาดไทยไนน์ชาติเศรษฐกิจและสังคมพัฒนา Plan.4 ก่อนหน้านี้ถูกแนะนำรักอื่นที่มาจากการสนทนา การพัฒนาภาคการเงินมักจะใช้วิธีแบบบนลงล่างที่ครอบงำ โดยหน่วยงานกำกับดูแลและผู้กำหนดนโยบาย ขั้นตอนที่ใช้ตามสศช.คงเปิดประตูวิธีล่างขึ้น โดยล่วงละเมิดทางเพศความคิดเห็นสาธารณะและการดำเนินการทางทรัพย์สินและโฟกัสกลุ่ม ใช้วิธีนี้ นักวิจัยจึงจะสามารถจับ และแยกปัญหาที่ซับซ้อนในหัวข้อที่สามารถจัดการได้ในเวลาเดียวกันที่สร้างข้อเสนอที่ตอบสนองตลาดที่แท้จริงและความต้องการของรากหญ้า II การปรับเปลี่ยนวิธีการ จำเป็นในการพัฒนาแผนการพัฒนาภาคการเงินที่ครอบคลุมไม่ได้น้ำต่อการโอนย้ายของ governorship ของธนาคารแห่งประเทศไทยจากจตุโชติมรว.จัตุมงคลโสณกับมรว. Pridiyathorn ธรเทใน 2544 พฤษภาคม ผู้ว่าราชการมรว. Pridiyathorn มีผู้เข้าร่วมประชุมอีกคนสำคัญที่จัดขึ้นในเดือน 2001 เมษายน และเอาขึ้นลงสูงสุดที่ธนาคารแห่งประเทศไทยด้วยมุมมองที่โครงการควรยังคงอยู่ในวาระการประชุม แต่ มีขอบเขตและวัตถุประสงค์มุ่งเน้นมากขึ้น ที่ดีสะท้อนให้เห็นถึงข้อจำกัดด้านสิ่งแวดล้อมและความเป็นจริงทางเศรษฐกิจของประเทศไทย ขอบเขต reengineered: แก้ปัญหาตัวหลักภาคการธนาคาร ขอบเขตของโครงการถูกลดจากครอบคลุมทั้งระบบการเงินไทยให้ครอบคลุมสถาบันการเงินรับฝากส่วนใหญ่ภายใต้การดูแลของธนาคารแห่งประเทศไทย ได้แก่ธนาคารพาณิชย์ บริษัทเงินทุน สินเชื่อ fonciers และสิ่งอำนวยความสะดวกลูกค้านานาชาติ หลายเหตุผลที่น่าสนใจ substantiated แก้ไขนี้ ครั้งแรก แม้ว่าจะมีสัญญาณบางอย่างว่า บทบาทของสินเชื่อธนาคารพาณิชย์มีการช้าลดลงเกินเวลา (แผนภูมิ 1), ไทยยังคงถือโดยสถาบันการเงินภายใต้การกำกับดูแลของธนาคารแห่งประเทศไทยครองภาคการเงินการเศรษฐกิจการธนาคาร กำหนดนี้พึ่งเงินธนาคารไทยพาณิชย์ ถูกผูกไว้เศรษฐกิจไทย โดยรวมได้ประโยชน์จากนโยบายที่ปรับปรุงประสิทธิภาพและความสามารถของสถาบันรับฝากเงินเพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ในราคาที่แข่งขัน สอง เป็นของธนาคารพาณิชย์เริ่มกลับไปทำกำไรในปี 2000 (แผนภูมิ 2) และน้อยมัวแต่ปรับโครงสร้างภายใน สถานการณ์เหมาะสมสำหรับหน่วยงาน 4 ธนาคารของไทยได้รับความช่วยเหลือให้คำปรึกษาจากดร. Kaothien รถตรงมายังของสศช

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

อีกข้อเสนอแนะที่เป็นที่รักที่เกิดจากการสนทนาเป็นข้อเสนอที่จะขอเชิญชวนให้ประชาชนมีส่วนร่วมมากขึ้นโดยใช้วิธีการที่นำมาใช้โดยแห่งชาติสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม (สศช) ที่จะวาดขึ้นในประเทศไทยเก้าพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ Plan.4 ก่อนหน้านี้ภาคการเงิน มักจะนำไปใช้ในการพัฒนาวิธีการจากบนลงล่างครอบงำโดยหน่วยงานกำกับดูแลและผู้กำหนดนโยบาย ขั้นตอนการใช้โดยสศชในมืออื่น ๆ เปิดประตูสำหรับวิธีการด้านล่างขึ้นโดยชักชวนความคิดเห็นของประชาชนและการอภิปรายผ่านการพิจารณาและการสนทนากลุ่ม การใช้วิธีการนี้นักวิจัยจึงจะสามารถจับภาพและสกัดปัญหาที่ซับซ้อนในหัวข้อการจัดการที่ในขณะที่ในเวลาเดียวกันการสร้างข้อเสนอที่ตอบสนองต่อตลาดและความต้องการที่แท้จริงของรากหญ้า.
ครั้งที่สอง การปรับเปลี่ยนวิธีการจำเป็นที่จะต้องพัฒนาแผนพัฒนาที่ครอบคลุมภาคการเงินไม่ได้ลดลงต่อไปนี้การถ่ายโอนของผู้ว่าราชการจังหวัดของธนาคารแห่งประเทศไทยจาก ม.ร.ว. จัตุมงคลโสณกุลที่จะปรีดิยาธรเทวกุลนายในเดือนพฤษภาคมปี 2001 ผู้ว่าราชการ ม.ร.ว. ปรีดิยาธรเป็นผู้มีส่วนร่วมสำคัญในการประสบความสำเร็จคน การประชุมจัดขึ้นในเดือนเมษายน 2001 และเอาขึ้นโพสต์บนที่ธนาคารแห่งประเทศไทยที่มีมุมมองว่าโครงการนี้ควรจะอยู่ในวาระการประชุม แต่มีขอบเขตที่มุ่งเน้นมากขึ้นและมีวัตถุประสงค์ที่ดีขึ้นสะท้อนให้เห็นถึงข้อ จำกัด ด้านสิ่งแวดล้อมของประเทศไทยและความเป็นจริงทางเศรษฐกิจ. reengineered ขอบเขต: การแก้ปัญหา ภาคการธนาคารที่โดดเด่นขอบเขตของโครงการลดลงจากที่ครอบคลุมระบบการเงินทั้งไทยครอบคลุมส่วนใหญ่รับฝากเงินจากสถาบันการเงินภายใต้การกำกับดูแลของธนาคารแห่งประเทศไทยคือธนาคารพาณิชย์บริษัท เงินทุน fonciers เครดิตและวิเทศธนกิจ. หลายคนที่น่าสนใจ เหตุผลที่ยืนยันการแก้ไขนี้ ครั้งแรกแม้ว่าจะมีสัญญาณบางอย่างที่บทบาทของเงินให้สินเชื่อของธนาคารพาณิชย์ที่ได้รับช้าที่ลดลงในช่วงเวลา (ตารางที่ 1) ประเทศไทยก็ยังถือว่าเศรษฐกิจของธนาคารที่ใช้โดยสถาบันการเงินภายใต้การกำกับดูแลของธนาคารแห่งประเทศไทยครองการเงิน ภาค ได้รับความเชื่อมั่นนี้ในการจัดหาเงินธนาคารพาณิชย์เศรษฐกิจของประเทศไทยโดยรวมถูกผูกไว้จะได้รับประโยชน์จากนโยบายที่ปรับปรุงประสิทธิภาพและความสามารถของสถาบันรับฝากเงินที่จะนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่เป็นนวัตกรรมใหม่ในราคาที่แข่งขัน. ประการที่สองเป็นธนาคารพาณิชย์เริ่มที่จะกลับมาทำกำไรในปี 2000 (แผนภูมิ 2) และน้อยหมกมุ่นอยู่กับการปรับโครงสร้างภายในสถานการณ์ที่ถูกต้องสำหรับหน่วย 4 ธนาคารแห่งประเทศไทยได้รับความช่วยเหลือจากที่ปรึกษาดร. Utis Kaothien ของสศช

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

อื่นเป็นข้อเสนอแนะที่มาจากการอภิปรายมีข้อเสนอเชิญมากขึ้นการมีส่วนร่วมของประชาชน โดยใช้วิธีการประยุกต์ โดยคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ( สศช. ) วาดขึ้น 9 ประเทศไทยมีแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่ 4 ก่อนนี้การพัฒนาภาคการเงินมักจะใช้วิธีการแบบบนลงล่าง ( เรกูเลเตอร์ และนโยบาย . ขั้นตอนการใช้ โดย สศช. ในมืออื่น ๆที่เปิดประตูสำหรับวิธีการจากล่างขึ้นบน โดยการรับความคิดเห็นสาธารณะและการอภิปรายที่ผ่านการพิจารณา และ โฟกัสกลุ่ม การใช้วิธีการนี้นักวิจัยจึงสามารถจับภาพและกลั่นกรองปัญหาซับซ้อนในหัวข้อการจัดการในขณะที่ในเวลาเดียวกันการสร้างข้อเสนอที่ตอบสนองความต้องการของตลาดที่เกิดขึ้นจริงและหญ้าราก
2 การปรับเปลี่ยนวิธีการ
ต้องพัฒนาครอบคลุมแผนพัฒนาภาคการเงินไม่ได้ลดลงตามการถ่ายโอนของข้าหลวงของธนาคารแห่งประเทศไทย จากคุณเห็นชาวมองโกล โสณกุล เพื่อการเพิ่มเงินทุนในเดือนพฤษภาคม 2001 การเพิ่มคีย์ผู้ว่าการรัฐได้เข้าร่วมในการประชุมที่จัดขึ้นในเดือนเมษายน 2001 บุคคลที่มีชื่อเสียง และเอาขึ้นโพสต์สูงสุดที่ธนาคารแห่งประเทศไทย กับมุมมองที่โครงการควรจะอยู่ในวาระการประชุม แต่เน้นมากขึ้น ขอบเขตและวัตถุประสงค์ที่ดีขึ้นสะท้อนถึงประเทศไทยสิ่งแวดล้อมข้อจำกัดและความเป็นจริงทางเศรษฐกิจ
ภาพที่ประกอบร่างแล้วขอบเขต : tackling
ภาคธนาคารเด่นของโครงการลดลงจากขอบเขตครอบคลุมทั้งระบบสถาบันการเงินไทยส่วนใหญ่จะครอบคลุมเงินฝากสถาบันการเงินภายใต้การกำกับดูแลของธนาคารแห่งประเทศไทย ได้แก่ ธนาคารพาณิชย์ บริษัทการเงินเครดิตเผยแพร่และบริการการธนาคารระหว่างประเทศ
เหตุผลที่น่าสนใจหลายพิสูจน์การแก้ไขนี้ แรก แม้จะมีสัญญาณบางอย่างที่บทบาทของสินเชื่อธนาคารพาณิชย์ที่ได้รับการค่อยๆลดลงในช่วงเวลา ( แผนภูมิที่ 1 ) ประเทศไทยยังถือว่าเป็นธนาคารตามเศรษฐกิจและสถาบันการเงินภายใต้การกำกับดูแลของธนาคารแห่งประเทศไทยครองภาคการเงิน ให้พึ่งพาธนาคารการเงินเศรษฐกิจไทยโดยรวมที่ถูกผูกไว้จะได้รับประโยชน์จากนโยบายที่เพิ่มประสิทธิภาพและความสามารถในการเสนอผลิตภัณฑ์เงินฝากของสถาบันใหม่ในราคาที่แข่งขัน
สอง ขณะที่ธนาคารพาณิชย์เริ่มกลับมาทำกำไรใน 2543 ( ตารางที่ 2 ) และไม่หมกมุ่นกับการปรับโครงสร้างภายในสถานการณ์ที่เหมาะสมสำหรับหน่วยงาน 4 ธนาคารแห่งประเทศไทยได้รับความช่วยเหลือจากที่ปรึกษา ดร. อุทิศ kaothien ของ สศช.