Baan Bat monk bowl villageHistoric

Baan Bat monk bowl village

Historic sites are often the main draw for travellers, but exploring ancient neighbourhoods built around important historic landmarks can sometimes be even more fascinating than the sites themselves. While wandering the narrow side streets around Wat Saket, we stumbled on the gritty but intriguing temple supply neighbourhood of Baan Bat, where locals have crafted monks begging (alms) bowls continuously since the 1700s.

Some of Bangkok’s oldest standing structures, the neighbourhood’s Sino-European shophouses were built in the late 1800s as part of a major building push by King Rama V. Most of the houses have remained in everyday use ever since, and though some look like they could collapse at any moment they possess a distinctly weathered charm while sagging over the often traffic-choked Bamrung Muang Road.

Long-running temple supply shops line Bamrung Muang’s western end, offering everything from orange fabric to be sewn into robes for monks, to candles, incense, and Buddhist chanting books, to a dizzying array of statues depicting every conceivable posture of the Buddha.

In keeping with Thailand’s intermingled spiritual cosmology, which contains not only elements of Theravada Buddhism but also Mahayana Buddhism, Hinduism and a complex tradition of spirit worship, the shops along Bamrung Muang also sell images of the Buddha’s historical disciples, famous Thai monks, Hindu deities, protective spirits, and Mahayana icons like Kuan Yin, the goddess of compassion.

Walking this part of Bamrung Muang feels like being dropped in some ancient, strangely urban fantasy world inhabited by glistening, timeless deities (and the odd bus or tuk tuk), and the area is well worth a visit just to see the temple supply shops. The most famous aspect of the neighborhood, however, is the hand-made alms bowl community of Baan Bat.

Tucked down a small side street off Bamrung Muang, Baan Bat has been home to a small group of locals who have made their livings for centuries by producing hand-made alms bowls to be purchased by the faithful and donated to monks. The community continues to function today in the exact same location — and in much the same way — as it would have generations ago.

Virtually every monk in Thailand (and Burma, Laos, Cambodia and Sri Lanka) uses alms bowls to collect donations of food from the lay community each morning, a custom in place since the Buddha is believed to have lived more than 2,500 years ago. Although they’re typically factory produced in Thailand today, the Baan Bat community persists with an age-old method of crafting the bowls from slabs of raw steel using only their hands and a hammer.

Baan Bat’s locals are a charming and friendly lot, always excited to share their craft with visitors. Polished, hand-made bowls — some more than 50 years old — are available for purchase, but visitors are left with a smile whether they buy a bowl or just watch the craftspeople at work. Don't be afraid to wander all the way down the alley for a glimpse of the village spirit shrine.

How to get there
From the Giant Swing, head east on Bamrung Muang, cross the canal bridge and look for Soi Baan Bat on the right. From Wat Saket, exit through the eastern gate and take a right on to Thanon Worachak. After a short distance turn right on to Bamrung Muang at the first traffic light, then continue another 100 or so metres before turning left down Soi Baan Bat. It's easily missed -- if you hit the bridge spanning the canal you've gone too far.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

หมู่บ้านบ้านค้างคาวพระชามสถานที่ประวัติศาสตร์มักวาดหลักสำหรับผู้เดินทาง แต่สำรวจมาเยือนโบราณสถานสำคัญทางประวัติศาสตร์สร้างขึ้นบางครั้งก็อาจน่าสนใจยิ่งกว่าเว็บไซต์ตัวเอง ขณะเดินถนนแคบใกล้วัดสระเกศ เราสะดุดในละแวกวัดทราย แต่น่าสนใจจัดหาบ้านค้างคาว ซึ่งชาวบ้านได้สร้างพระขอทาน (ทาน) ชามอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ศตวรรษที่ 18บางส่วนของกรุงเทพฯ ของที่นี่ยืนโครงสร้าง ห้องแถวละแวกที่ Sino-ยุโรปถูกสร้างขึ้นในช่วงปลายปีเป็นส่วนหนึ่งของหลักการผลักอาคารพระ กับบ้านส่วนใหญ่ยังคงอยู่ในการใช้ชีวิตประจำวันนับตั้งแต่ และแม้ว่าบางคนดูเหมือนพวกเขาอาจยุบตลอดเวลา มีเสน่ห์เป็นลมอย่างเห็นได้ชัดในขณะที่หย่อนคล้อยมักจะการจราจรที่แออัดถนนบำรุงเมืองของวัดยาวทำงานซัพพลายร้านสายบำรุงเมืองทิศตะวันตก ตั้งแต่ผ้าสีส้มสามารถเย็บเป็นเสื้อคลุมสำหรับพระ เทียน ธูป และสวดมนต์หนังสือ เหนื่อยรูปปั้นภาพวาดทุกท่าที่เป็นไปของพระพุทธศาสนารักษาของไทยผสมจิตวิญญาณจักรวาล ที่ประกอบด้วยไม่เพียงแต่องค์ประกอบของพุทธ ศาสนาเถรวาท แต่ยังมหายาน ศาสนาฮินดูและประเพณีซับซ้อนของจิตวิญญาณบูชา ผับบำรุงเมืองยังขายภาพพระสาวกประวัติศาสตร์ พระสงฆ์ไทยที่มีชื่อเสียง เทพฮินดู ป้องกัน และไอคอนมหายานเช่นควนหยิน เทพเจ้าแห่งความเมตตาส่วนนี้ของบำรุงเมืองเดินรู้สึกเหมือนหลุดอยู่ในโลกจินตนาการโบราณ เมืองแปลกบางอาศัยอยู่ โดยวาม เทพตลอดกาล (และรถบัสหรือตุ๊กตุ๊คี่), และพื้นที่เป็นที่เที่ยวเพียงเพื่อดูวัดจัดหาร้านค้า ด้านที่มีชื่อเสียงของย่าน อย่างไรก็ตาม เป็นชุมชนของบ้านค้างคาวชามทานที่ทำด้วยมือซ่อนตัวอยู่ตามข้างถนนเล็กปิดบำรุงเมือง บ้านค้างคาวได้รับกลุ่มเล็ก ๆ ของชาวบ้านที่มีทำโครงการของพวกเขามานานหลายศตวรรษ โดยผลิตชามทานทำมือที่จะซื้อ ด้วยความซื่อสัตย์ และบริจาคให้พระสงฆ์ ชุมชนยังคงทำงานในตำแหน่งปัจจุบัน — และ ในลักษณะเดียวกัน — ตามที่มันจะมีรุ่นแล้วแทบทุกพระภิกษุสงฆ์ในประเทศไทย (พม่า ลาว กัมพูชา และศรีลังกา) ใช้ชามทานเรี่ยไรอาหารจากชุมชนวางเช้า แบบกำหนดเองในตั้งแต่พระพุทธเจ้าเชื่อว่าได้อาศัยอยู่กว่า 2,500 ปีมาแล้ว แม้ว่าโดยทั่วไปเป็นโรงงานผลิตในประเทศไทยวันนี้ ชุมชนบ้านค้างคาวยังคงอยู่ ด้วยวิธีการดั้งเดิมของชามจากแผ่นดิบเหล็กใช้มือของพวกเขาและค้อนชาวบ้านบ้านค้างคาวจะเป็นมิตร และมีเสน่ห์มาก ตื่นเต้นเสมอจะร่วมงานกับนักท่องเที่ยว ขัดเงา ทำมือชาม — บางมากกว่า 50 ปี — ใช้ได้สำหรับซื้อ แต่คนซ้าย ด้วยรอยยิ้มว่าเขาซื้อชาม หรือเพียงแค่ดูช่างผู้ชำนาญงาน อย่ากลัวที่จะเดินลงมาซอยแวะผ่านหมู่บ้านศาลเจ้ามีจากชิงช้า หัวตะวันออกบนบำรุงเมือง ข้ามสะพานคลอง แล้วมองหาซอยบ้านค้างคาวด้านขวา จากวัดสระเกศ ออกผ่านประตูตะวันออก และใช้ขวาเข้าถนน Worachak หลังจากห่างหันขวาบนไปบำรุงเมืองไฟจราจรแรก อื่นมาก หรือ 100 เมตรก่อนเลี้ยวซ้ายลงซอยบ้านค้างคาวนั้นต่อ มันไม่มี - ถ้าคุณตีสะพานข้ามคลอง คุณได้ไปไกลเกินไป

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

บ้านค้างคาวพระภิกษุสงฆ์หมู่บ้านชาม

เว็บไซต์ประวัติศาสตร์มักจะวาดหลักสำหรับนักท่องเที่ยว แต่การสำรวจละแวกใกล้เคียงโบราณสร้างขึ้นรอบ ๆ สถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญบางครั้งอาจจะยิ่งน่าสนใจมากขึ้นกว่าเว็บไซต์ของตัวเอง ในขณะที่เดินไปถนนด้านข้างแคบรอบวัดสระเกศเราสะดุดในย่านอุปทานวัดทราย แต่รักของบ้านค้างคาวที่ชาวบ้านได้สร้างขึ้นมาพระสงฆ์ขอทาน (ทาน) ชามอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ยุค 1700.

บางส่วนของที่เก่าแก่ที่สุดโครงสร้างยืนของกรุงเทพฯย่าน Sino- ห้องแถวยุโรปที่ถูกสร้างขึ้นในช่วงปลายปี 1800 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของอาคารผลักดันที่สำคัญโดยสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวบ้านส่วนใหญ่ยังคงอยู่ในการใช้งานในชีวิตประจำวันนับตั้งแต่และแม้ว่ารูปลักษณ์บางอย่างเช่นที่พวกเขาสามารถยุบในขณะที่พวกเขามีเสน่ห์ตากแดดตากฝนอย่างเห็นได้ชัดในขณะที่ การลดลงมากกว่ามักจราจรสำลัก Bamrung ถนนเมืองจ.

ด้านตะวันตกยาวทำงาน Temple ร้านค้าอุปทานเส้นบำรุงเมืองที่นำเสนอทุกอย่างจากผ้าสีส้มที่จะเย็บเป็นเสื้อคลุมสำหรับพระสงฆ์เทียนธูปและชาวพุทธสวดมนต์หนังสือไปยังแถว dizzying ของรูปปั้นภาพวาดทุกท่าเท่าที่จะนึกออกของพระพุทธเจ้า.

ในการรักษาด้วยจักรวาลวิทยาของไทยผสมจิตวิญญาณซึ่งมีไม่เพียง แต่องค์ประกอบของพระพุทธศาสนาเถรวาท แต่ยังพุทธศาสนามหายานฮินดูและประเพณีที่ซับซ้อนของการเคารพบูชาจิตวิญญาณ, ร้านค้าพร้อมบำรุงเมืองยังขายภาพของ สาวกประวัติศาสตร์ของพระพุทธเจ้าพระสงฆ์ที่มีชื่อเสียงของไทยเทพฮินดูวิญญาณป้องกันและไอคอนมหายานเช่นเจ้าแม่กวนอิม, เทพเจ้าแห่งความเมตตา.

เดินเป็นส่วนหนึ่งของบำรุงเมืองนี้รู้สึกเหมือนถูกทิ้งไว้ในโบราณโลกจินตนาการบางเมืองแปลกที่อาศัยอยู่โดยวามเทพอมตะ (และรถบัสคี่หรือรถตุ๊กตุ๊ก) และพื้นที่เป็นอย่างดีคุ้มค่าเข้าชมเพียงเพื่อดูร้านค้าอุปทานพระวิหาร ด้านที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของพื้นที่ใกล้เคียง แต่เป็นชุมชนบาตรที่ทำด้วยมือบ้านค้างคาว.

ซุกลงข้างถนนเล็ก ๆ บำรุงเมืองบ้านค้างคาวอยู่บ้านกลุ่มเล็ก ๆ ของชาวบ้านที่ได้ทำให้ชีวิตของพวกเขามานานหลายศตวรรษ โดยการผลิตทานทำมือชามที่จะซื้อโดยซื่อสัตย์และบริจาคให้กับพระสงฆ์ ชุมชนยังคงทำงานวันนี้ในสถานที่เดียวกันแน่นอน - และในทางเดียวกันมาก - ตามที่มันจะมีคนรุ่นที่ผ่านมา.

แทบพระภิกษุสงฆ์ในประเทศไทย (พม่าลาวกัมพูชาและศรีลังกา) ทุกใช้ทานโบลิ่งการรวบรวมเงินบริจาคของอาหาร จากชุมชนนอนทุกเช้าที่กำหนดเองในสถานที่ตั้งแต่พระพุทธเจ้าเชื่อว่าจะมีชีวิตอยู่มากกว่า 2,500 ปีที่ผ่านมา ถึงแม้ว่าพวกเขากำลังโดยปกติโรงงานผลิตในประเทศไทยในวันนี้ชุมชนบ้านค้างคาวยังคงมีวิธีการที่อายุเก่าของงานหัตถกรรมชามจากแผ่นเหล็กดิบโดยใช้เพียงมือและค้อนของพวกเขา.

ชาวบ้านบ้านค้างคาวจำนวนมากที่มีเสน่ห์และเป็นมิตรเสมอ ตื่นเต้นที่จะแบ่งปันฝีมือของพวกเขากับผู้เข้าชม ขัดที่ทำด้วยมือชาม - บางมากกว่า 50 ปีขึ้นไป - มีความพร้อมสำหรับการซื้อ แต่ผู้เข้าชมจะเหลือด้วยรอยยิ้มว่าพวกเขาซื้อชามหรือเพียงแค่ดูช่างฝีมือที่ทำงาน อย่ากลัวที่จะเดินตลอดทางลงซอยสำหรับเหลือบของหมู่บ้านจิตวิญญาณศาลได้.

วิธีการที่จะได้มี
จากเสาชิงช้าหัวไปทางตะวันออกบนบำรุงเมือง, ข้ามสะพานคลองและมองหาซอยบ้านค้างคาวด้านขวา . จากวัดสระเกศทางออกผ่านประตูตะวันออกและเลี้ยวขวาไปยังถนนวรจักร หลังจากที่ไม่ไกลเลี้ยวขวาไปบำรุงเมืองที่สัญญาณไฟจราจรแรกแล้วดำเนินการต่ออีก 100 เมตรหรือดังนั้นก่อนที่จะเลี้ยวซ้ายลงซอยบ้านค้างคาว มันพลาดได้ง่าย - ถ้าคุณตีสะพานที่ทอดข้ามคลองที่คุณได้ไปไกลเกินไป

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

บ้านไม้บ้านพระ ชามเว็บไซต์ในประวัติศาสตร์มักจะวาดหลักสำหรับนักเดินทาง แต่การสำรวจละแวกใกล้เคียงโบราณสร้างขึ้นรอบ ๆสถานที่สำคัญที่สำคัญบางครั้งสามารถที่น่าสนใจมากขึ้นกว่าเว็บไซต์ที่ตัวเอง ในขณะที่เดินตามถนนแคบ ๆข้างวัดสระเกศ เรา stumbled บนทราย แต่ที่รักวัดจัดหาๆบ้านไม้ ที่ชาวบ้านมี crafted พระขอทาน ( ขอทาน ) ชามอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ 1700s .ของกรุงเทพมหานครที่เก่าแก่ที่สุดมีโครงสร้างของบ้านตึกแถวชิโนยุโรปถูกสร้างขึ้นในช่วงปลายยุค 1800 เป็นส่วนหนึ่งของอาคารใหญ่ดันรัชกาลที่บ้านส่วนใหญ่ยังคงใช้ในชีวิตประจำวัน ตั้งแต่ และแม้ว่าบางเหมือนจะพังในขณะใด ๆพวกเขามีเอกลักษณ์ มีเสน่ห์กว่าผุขณะหย่อน การจราจรถนนบำรุงเมือง สำลักบ่อยๆ .ยาววิ่งวัดจัดหาร้านค้าแถวเมืองสิ้นสุดตะวันตกบำรุง เสนอทุกอย่างจากผ้าที่จะเย็บเป็นจีวรสีส้ม สำหรับถวายพระสงฆ์ เพื่อจุดธูปเทียนและพุทธมนต์ หนังสือ เป็น dizzying ของรูปปั้น ภาพวาดที่เป็นไปได้ทุกท่าของพระพุทธรูปในการรักษากับไทยน่องแน่งจักรวาลวิทยาจิตวิญญาณซึ่งมีไม่เพียง แต่ยังองค์ประกอบของพระพุทธศาสนาเถรวาท มหายาน , ฮินดู และเป็นประเพณีที่ซับซ้อนของจิตวิญญาณนมัสการ ร้านค้าพร้อมบำรุงเมืองยังขายภาพประวัติศาสตร์พุทธสาวก ที่มีพระสงฆ์ไทยฮินดูเทพ วิญญาณของการป้องกัน และ มหายาน ไอคอนเหมือนกวนอิม , เทพธิดาแห่งความเมตตาเดินส่วนนี้ของบำรุงเมืองรู้สึกเหมือนกับเป็นลดลงในบางโบราณ ตระการเมืองโลกจินตนาการที่อาศัยอยู่โดยวิบวับเทพกาลเวลา ( และรถบัสคี่หรือตุ๊กตุ๊ก ) และพื้นที่เป็นอย่างดีคุ้มค่าเข้าชม ดูวัดจัดหาร้านค้า ที่มีชื่อเสียงที่สุดในด้านนี้แต่เป็นชาวชุมชนบ้านบาตรพระ ค้างคาวซุกลงถนนขนาดเล็กด้านออกม่วงบำรุง บ้านค้างคาวได้รับบ้านในกลุ่มเล็ก ๆของชาวบ้านที่ทำให้สิ่งมีชีวิตพวกเขามานานหลายศตวรรษ โดยการผลิตทานด้วยมือ ชามที่ถูกซื้อโดยซื่อสัตย์และบริจาคให้กับพระสงฆ์ ชุมชนยังคงทำงานในวันนี้ในสถานที่เดียวกันที่แน่นอนและในลักษณะเดียวกัน - มันจะมีรุ่นที่แล้วแทบทุกพระไทย ( พม่า ลาว กัมพูชา และศรีลังกา ) ใช้ทานชามเพื่อรวบรวมเงินบริจาคของอาหารจากชุมชนวางในแต่ละเช้า เองในสถานที่ตั้งแต่พระพุทธเจ้า เชื่อว่ามีการอาศัยอยู่กว่า 2 , 500 ปีมาแล้ว ถึงแม้ว่าพวกเขาโดยทั่วไปโรงงานผลิตในไทย วันนี้ บ้านไม้ชุมชนยังคงอยู่กับวิธีการโบราณของหัตถกรรมชามจากแผ่นเหล็กดิบโดยใช้เพียงมือและค้อนบ้านไม้ของชาวบ้านเป็นเสน่ห์ และเป็นกันเองมาก มักจะตื่นเต้นที่จะแบ่งปันงานฝีมือของพวกเขากับผู้เข้าชม ขัดด้วยมือ ชาม - บางกว่า 50 ปี - จะใช้ได้สำหรับการซื้อสินค้า แต่ผู้เข้าชมจะจากไปด้วยรอยยิ้ม ไม่ว่าจะซื้อชามหรือเพียงแค่ดู craftspeople ที่งาน อย่ากลัวที่จะเดินทางไปตามตรอกเป็นเหลือบของหมู่บ้านวิญญาณศักดิ์สิทธิ์วิธีการที่จะได้รับมีจากเสาชิงช้า หัว ทางตะวันออกของเมืองบำรุง ข้ามสะพานคลองและมองหาซอยบ้านค้างคาวที่ถูกต้อง จากวัดสระเกศ ออกทางประตูตะวันออก และเลี้ยวขวาไปถนนวรจักร . หลังจากที่ระยะทางสั้น ๆเลี้ยวขวาไปบำรุงเมืองที่สัญญาณไฟจราจรแรก แล้วต่ออีก 100 หรือดังนั้นเมตรก่อนเลี้ยวซ้ายไปซอยบ้านค้างคาว มันพลาดได้ง่าย . . . ถ้าคุณกดปุ่มสะพานทอดข้ามคลอง คุณทำเกินไปแล้ว