The extraction results are summariz

The extraction results are summarized in Table 1. Sodium thiosulfate
produced the highest yield of dried carbohydrate compounds
from the extracts and at the highest concentration. After
bleaching, the pulp obtained from the sodium thiosulfate extraction
gave the highest breaking lengths, as shown in Table 2. The
sample, water-2, gave the lowest brightness. In fact, for the
water-2 case, repeated bleaching did not improve its brightness
(H2O2 stage). As previously observed (Seo et al., 2010), red algae
pulp showed higher opacity than wood pulp (Table 2).
Bleached wood chemical pulp usually gives opacities of approximately
70–80% for softwood and 80–85% for hardwood, at a basis
weight of 60 g/m2
. More than 10% higher ISO opacity for an equivalent
mass was obtained with red algae pulp. Table 3 shows the
chemical composition of the soluble carbohydrates in the extractsobtained from G. corneum after sodium thiosulfate extraction at
140 C. The red algae bleached pulp consisted of 64% cellulose,
27% galactose, 6% xylose, and 3% of other materials such as inorganic
ash. In comparison, bleached wood pulp consists of mostly
cellulose, small amounts of hemicellulose (mannan for softwood
and xylan for hardwood), and traces of lignin. The red algae extract
consisted of galactose almost exclusively. There is no lignin in the
red algae pulp and in the extracts of red algae.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ผลการสกัดได้สรุปไว้ในตารางที่ 1 โซเดียมไทโอซัลเฟต
ให้ผลผลิตสูงสุดของสารประกอบคาร์โบไฮเดรตแห้ง
จากสารสกัดและในความเข้มข้นสูงสุด หลังจาก
ฟอกเยื่อกระดาษที่ได้จากการสกัดโซเดียมไทโอซัลเฟต
ให้ความยาวสูงสุดทำลายดังแสดงในตารางที่ 2
ตัวอย่างน้ำ-2, ให้ความสว่างที่ต่ำที่สุด ในความเป็นจริงสำหรับ
กรณีน้ำ-2, ฟอกซ้ำแล้วซ้ำอีกไม่ได้ปรับปรุงความสว่าง
(เวที H2O2) ในฐานะที่เป็นข้อสังเกตก่อนหน้านี้ (Seo et al., 2010), สาหร่ายสีแดง
เยื่อแสดงให้เห็นความทึบแสงสูงกว่าเยื่อไม้ (ตารางที่ 2).
เยื่อไม้เคมีฟอกขาวมักจะให้ opacities ประมาณ
70-80% สำหรับไม้เนื้ออ่อนและ 80-85% สำหรับไม้เนื้อแข็งที่ พื้นฐาน
น้ำหนัก 60
กรัม / m2 มากกว่า 10% สูงทึบแสง ISO สำหรับเทียบเท่า
มวลที่ได้รับกับเยื่อสาหร่ายสีแดง ตารางที่ 3 แสดงให้เห็นถึง
องค์ประกอบทางเคมีของคาร์โบไฮเดรตที่ละลายใน extractsobtained จาก Corneum G. หลังจากโซเดียมไทโอซัลเฟตสกัดที่
140 ซีสาหร่ายสีแดงเยื่อกระดาษฟอกขาวประกอบด้วยเซลลูโลส 64%,
กาแลคโต 27%, ไซโล 6% และ 3% ของวัสดุอื่น ๆ เช่นอนินทรี
เถ้า ในการเปรียบเทียบการฟอกเยื่อไม้ส่วนใหญ่ประกอบด้วย
เซลลูโลสจำนวนน้อยเฮมิเซลลูโลส (Mannan สำหรับไม้เนื้ออ่อน
และไม้เนื้อแข็งสำหรับไซแลน) และร่องรอยของลิกนิน สารสกัดจากสาหร่ายสีแดง
ประกอบด้วยกาแลคเกือบเฉพาะ ไม่มีลิกนินในเป็น
เยื่อสาหร่ายสีแดงและสารสกัดจากสาหร่ายสีแดง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ผลการสกัดสรุปได้ในตารางที่ 1 โซเดียมไธโอซัลเฟต
ผลิต ให้ผลผลิตสูงของคาร์โบไฮเดรตสารประกอบแห้ง
จากสารสกัดที่ความเข้มข้นสูงสุด หลังจาก
ฟอกเยื่อกระดาษที่ได้จากการสกัด
ให้โซเดียมไธโอซัลเฟตสูงสุดแบ่งความยาว ดังแสดงในตารางที่ 2
ตัวอย่าง water-2 ให้ความสว่างต่ำสุด ในความเป็นจริง สำหรับกรณี water-2
,ฟอกซ้ำไม่ได้ปรับปรุงความสว่าง
( เวที H2O2 ) ตามที่เคยปฏิบัติ ( ซอ et al . , 2010 ) , สาหร่ายสีแดง มีความทึบแสงมากกว่า
เยื่อเยื่อไม้ ( ตารางที่ 2 ) .
ฟอกขาวเยื่อเคมีไม้มักให้ opacities ประมาณ 70 - 80 %
สำหรับไม้เนื้ออ่อนและ 80 – 85% สำหรับไม้เนื้อแข็ง ที่พื้นฐาน
น้ำหนัก 60 g / m2

ความทึบแสง ISO มากกว่า 10 % สูงเทียบเท่า
มวลได้ด้วยสาหร่ายสีแดง เยื่อกระดาษ ตารางที่ 3 แสดงองค์ประกอบทางเคมีของคาร์โบไฮเดรตที่ละลาย
ใน extractsobtained จากกรัมโซเดียมไธโอซัลเฟต corneum หลังจากการสกัดที่
140 C สีแดงสาหร่ายฟอกขาวเยื่อเซลลูโลสจำนวน 64 %
% 27 , กาแลคโตสร้อยละ 6 6 และ 3 เปอร์เซ็นต์ของวัสดุอื่นๆ เช่น สารอนินทรีย์
เถ้า ในการเปรียบเทียบ , ไม้เยื่อกระดาษฟอกขาวประกอบด้วยส่วนใหญ่
เซลลูโลสจำนวนเงินขนาดเล็กของเฮมิเซลลูโลส ( Mannan สำหรับไม้เนื้ออ่อนและไม้
ไซสำหรับ ) และร่องรอยของลิกนิน สาหร่ายแดงสกัด
ประกอบด้วยกาแลกโทสเกือบเฉพาะ . ไม่มีลิกนินใน
สาหร่ายสีแดง เยื่อใน สารสกัดจากสาหร่ายสีแดง