Energy drove the industrial revolut

Energy drove the industrial revolution in the 1800s, and drives
the information technology (IT) revolution of the 21st century.
Today, the world’s population stands at over 7 billion. Energy
usage per capita in developed countries is too high, with 4.4 t of
oil equivalent used per person per annum in the Organisation for
Economic Co-operation and Development (OECD) [1]; and developing countries are catching up. The present primary source of
energy is fossil fuel in the forms of coal, petroleum, and natural
gas. Recent oil price volatility has had a major impact on the energy sector. From mid-2014 to early 2015, the price of oil dropped
from over $100 USD to less than $50 USD per barrel, lowering the
market prices of natural gas and coal [2]. Although worldwide
energy demand is likely to increase, the energy industry cannot
continue sourcing energy from fossil fuels over the long term. A
revealing statistic is that the total global carbon emissions by the
energy sector over the past 27 years is equal to the total for all
previous years, with fossil fuels making up more than 80% of the
primary energy mix [2]. Greenhouse gas emissions have grown

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

พลังงานขับเคลื่อนการปฏิวัติอุตสาหกรรมในศตวรรษที่ 19 และไดรฟ์ การปฏิวัติเทคโนโลยีสารสนเทศข้อมูลของศตวรรษที่ 21 วันนี้ ประชากรโลกอยู่ที่กว่า 7 พันล้าน พลังงาน การใช้งานต่อหัวในประเทศที่พัฒนามากเกินไป กับ 4.4 t ของ เทียบเท่าน้ำมันใช้ต่อคนต่อปีในการ ร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) [1]; และประเทศกำลังพัฒนาจะจับขึ้น มีหลักแหล่งที่มาของ พลังงานเป็นเชื้อเพลิงซากดึกดำบรรพ์ในรูปแบบของถ่านหิน ปิโตรเลียม และธรรมชาติ ก๊าซ ความผันผวนของราคาน้ำมันล่าสุดได้มีผลสำคัญต่อในภาคพลังงาน จากกลางปี 2014 ถึงต้นปี 2015 ราคาน้ำมันลดลง จากกว่า 100 ดอลลาร์ จะน้อยกว่า 50 ดอลลาร์ ต่อบาร์เรล ลดการ ราคาตลาดของก๊าซธรรมชาติและถ่านหิน [2] แม้ว่าทั่วโลก ความต้องการพลังงานมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้น ไม่อุตสาหกรรมพลังงาน ดำเนินการจัดหาพลังงานจากเชื้อเพลิงฟอสซิลในระยะยาว A เปิดเผยสถิติว่าการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ทั่วโลกรวมโดยการ ภาคพลังงานที่ผ่านมา 27 ปีจะเท่ากับผลรวมทั้งหมด ก่อนหน้าปี ฟอสซิเชื้อเพลิงถึงกว่า 80% ของการ พลังงานหลักผสม [2] ก๊าซเรือนกระจกมีโต

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

พลังงานขับรถการปฏิวัติอุตสาหกรรมในปี 1800 และไดรฟ์
การปฏิวัติเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT) ของศตวรรษที่ 21.
วันนี้ประชากรโลกที่ยืนอยู่ที่กว่า 7 พันล้าน พลังงาน
ใช้งานได้ต่อหัวในประเทศที่พัฒนาสูงเกินไป 4.4 ตัน
เทียบเท่าน้ำมันดิบใช้ต่อคนต่อปีในองค์การเพื่อ
ความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) [1]; และประเทศกำลังพัฒนาจะจับขึ้น แหล่งที่มาหลักปัจจุบันของ
พลังงานเชื้อเพลิงฟอสซิลในรูปแบบของถ่านหินปิโตรเลียมและเป็นธรรมชาติ
ก๊าซ ความผันผวนของราคาน้ำมันที่ผ่านมาได้มีผลกระทบสำคัญในภาคพลังงาน ตั้งแต่กลางเดือน 2014 ถึงต้นปี 2015 ราคาน้ำมันปรับตัวลดลง
จากกว่า $ 100 ดอลลาร์สหรัฐน้อยกว่า $ 50 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรลลด
ราคาในตลาดก๊าซธรรมชาติและถ่านหิน [2] แม้ว่าทั่วโลก
ความต้องการพลังงานที่มีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นในอุตสาหกรรมพลังงานที่ไม่สามารถ
ดำเนินการต่อการจัดหาพลังงานจากเชื้อเพลิงฟอสซิลในระยะยาว
สถิติที่เผยให้เห็นก็คือการปล่อยก๊าซคาร์บอนทั้งหมดทั่วโลกโดย
ภาคพลังงานที่ผ่านมา 27 ปีมีค่าเท่ากับยอดรวมของทุก
ปีที่ผ่านมากับเชื้อเพลิงฟอสซิลทำขึ้นมากกว่า 80% ของ
พลังงานผสมหลัก [2] ปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้เติบโต

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

พลังงานผลักดันการปฏิวัติอุตสาหกรรมในอังกฤษ และไดรฟ์เทคโนโลยีสารสนเทศ ( IT ) การปฏิวัติในศตวรรษที่ 21วันนี้ ประชากรของโลกถึงกว่า 7 พันล้าน พลังงานการใช้รายได้ต่อหัวในประเทศที่พัฒนาสูงมากกับ 4.4 ทีเทียบเท่าน้ำมันใช้ต่อคนต่อปีในองค์กรสำหรับร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา ( โออีซีดี ) [ 1 ] ; และประเทศกำลังพัฒนาจะจับใจขึ้น ปัจจุบันแหล่งที่มาหลักของพลังงานเชื้อเพลิงฟอสซิลในรูปแบบของถ่านหิน ปิโตรเลียม และ ธรรมชาติก๊าซ ความผันผวนของราคาน้ำมัน ล่าสุด มีผลกระทบที่สำคัญในภาคพลังงาน จากช่วงกลาง 2014 2015 , ราคาน้ํามันลดลงจากมากกว่า $ 100 USD จะน้อยกว่า $ 50 USD ต่อบาร์เรล , ลดตลาดราคาของก๊าซธรรมชาติและถ่านหิน [ 2 ] แม้ว่าทั่วโลกความต้องการพลังงานมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น อุตสาหกรรมพลังงานไม่ได้การจัดหาพลังงานจากเชื้อเพลิงฟอสซิลต่อไปในระยะยาว เป็นเปิดเผยสถิติว่าทั้งหมดทั่วโลกปล่อยก๊าซคาร์บอนโดยพลังงานที่ผ่านมา 27 ปีเท่ากับจำนวนทั้งหมดปีก่อนหน้านี้ กับเชื้อเพลิงฟอสซิลที่ทำมากกว่า 80% ของผสมพลังงานปฐมภูมิ [ 2 ] การปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้เติบโตขึ้น