Financial vulnerability is a critic

Financial vulnerability is a critical issue for nonprofit sports clubs due to clubs’ increasing
costs and impediments to generating sufficient income. The first objective of this study is
to derive a conceptual understanding of financial vulnerability for sports clubs by
assessing three financial vulnerability models, two of which have previously been applied
in the nonprofit sector generally. Two models are based on revenue patterns and
expenditure, and the third is based on movements in Net Assets over four years. A second
objective is to identify determinants of financial vulnerability within amateur sports clubs,
focusing specifically on golf and football.
The data to test these models were derived from the financial reports of 227 amateur
sports clubs in New Zealand (98 football and 129 golf clubs). Each of the three models
results in different predictive variables and has different explanatory strengths. For
example, football clubs that were financially vulnerable under Model 1: Program
Expenditure had declining revenues from members and trading, as well as high
administration costs. Conversely, declining reserves are predictive in financially
vulnerable golf clubs using Model 2: Net Assets. Model 3: Net Earnings was generalizable
to both football and golf clubs. The explanatory variables were different between these
sports, due to their different asset base and propensity to employ paid staff. The common
variables those with oversight responsibilities should monitor against financial
vulnerability are: an undue reliance on external, rather than member-based revenue,
increasing debt, and excessive expenditure. Further research could extend this model to
other sports and other jurisdictions

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ความเสี่ยงทางการเงินเป็นปัญหาสำคัญสำหรับสโมสรกีฬาต่าง ๆ จากสโมสรเพิ่มต้นทุนและ impediments เพื่อสร้างรายได้ที่เพียงพอ วัตถุประสงค์แรกของการศึกษานี้คือสามารถรับการเข้าใจแนวคิดเกี่ยวกับความเสี่ยงทางการเงินในสโมสรกีฬาโดยประเมินความเสี่ยงทางการเงินรุ่นสาม สองซึ่งก่อนหน้านี้ถูกใช้ไม่แสวงผลกำไรในภาคทั่วไป 2 รุ่นขึ้นอยู่กับรูปแบบรายได้ และรายจ่าย และที่สามขึ้นอยู่กับการเคลื่อนไหวในสินทรัพย์สุทธิสี่ปี ที่สองวัตถุประสงค์คือการ ระบุดีเทอร์มิแนนต์ของเงินความเสี่ยงภายในสมัครเล่นสปอร์ตคลับเน้นเฉพาะในสนามกอล์ฟและฟุตบอลข้อมูลการทดสอบโมเดลเหล่านี้ได้มาจากรายงานทางการเงินของสมัครเล่น 227สโมสรกีฬาในนิวซีแลนด์ (98 ฟุตบอลและกอล์ฟ 129) แต่ละรุ่นสามผลลัพธ์ในตัวแปรทำนายที่แตกต่างกัน และมีจุดแข็งการอธิบายที่แตกต่างกัน สำหรับตัวอย่าง สโมสรฟุตบอลที่มีความเสี่ยงทางการเงินภายใต้แบบจำลอง 1: โปรแกรมมีรายจ่ายลดลงรายได้จากสมาชิกและการซื้อขาย เช่นสูงบริหารต้นทุน ในทางกลับกัน ทุนสำรองลดลงคาดการณ์ในทางการเงินกอล์ฟมีความเสี่ยงที่ใช้ 2 รุ่น: สินทรัพย์สุทธิ รุ่นที่ 3: กำไรสุทธิถูก generalizableฟุตบอลและกอล์ฟ ตัวแปรอธิบายแตกต่างกันระหว่างเหล่านี้กีฬา ฐานสินทรัพย์อื่นและสิ่งที่จะได้รับค่าจ้างพนักงานจ้างของพวกเขา ทั่วไปตัวแปรที่มีความรับผิดชอบกำกับดูแลควรตรวจสอบกับทางการเงินมีความเสี่ยง: ที่พึ่งภายนอก แทนสมาชิกตามรายได้ ไม่ครบกำหนดชำระเพิ่มหนี้ และค่าใช้จ่ายมากเกินไป การวิจัยสามารถขยายรูปแบบนี้ไปกีฬาอื่น ๆ และประเทศอื่น ๆ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ช่องโหว่ทางการเงินที่เป็นปัญหาสำคัญสำหรับสโมสรกีฬาที่ไม่แสวงหากำไรเนื่องจากสโมสรที่เพิ่มขึ้น
ค่าใช้จ่ายและผลักดันให้มีการสร้างรายได้ที่เพียงพอ เป้าหมายแรกของการศึกษานี้
จะได้รับความเข้าใจแนวความคิดของความเสี่ยงทางการเงินสำหรับสโมสรกีฬาโดย
การประเมินความเปราะบางทางการเงินรูปแบบสามสองแห่งที่ได้รับก่อนหน้านี้นำไปใช้
ในภาคที่ไม่แสวงหากำไรโดยทั่วไป สองรุ่นจะขึ้นอยู่กับรูปแบบของรายได้และ
ค่าใช้จ่ายและคนที่สามจะขึ้นอยู่กับการเปลี่ยนแปลงของมูลค่าสินทรัพย์สุทธิกว่าสี่ปี สอง
วัตถุประสงค์คือการระบุปัจจัยความเสี่ยงทางการเงินภายในสโมสรกีฬาสมัครเล่น
โดยมุ่งเน้นเฉพาะในกอล์ฟและฟุตบอล.
ข้อมูลในการทดสอบรูปแบบเหล่านี้ได้มาจากรายงานทางการเงินของมือสมัครเล่น 227
สโมสรกีฬาในประเทศนิวซีแลนด์ (98 ฟุตบอลและกอล์ฟ 129) . ทั้งสามรุ่น
จะส่งผลในตัวแปรทำนายที่แตกต่างกันและมีจุดแข็งที่แตกต่างกันอธิบาย สำหรับ
ตัวอย่างเช่นสโมสรฟุตบอลที่มีความเสี่ยงทางการเงินภายใต้รุ่นที่ 1: โปรแกรม
ค่าใช้จ่ายได้ที่ลดลงของรายได้จากสมาชิกและการค้าเช่นเดียวกับที่สูง
ค่าใช้จ่ายในการบริหารงาน ตรงกันข้ามสำรองที่ลดลงมีการคาดการณ์ในทางการเงิน
ไม้กอล์ฟที่มีช่องโหว่โดยใช้รุ่นที่ 2: มูลค่าสินทรัพย์สุทธิ รุ่นที่ 3: กำไรสุทธิอยู่ที่ generalizable
ทั้งฟุตบอลและกอล์ฟ ตัวแปรอธิบายที่แตกต่างกันระหว่างทั้ง
กีฬาเนื่องจากฐานสินทรัพย์ที่แตกต่างกันของพวกเขาและความโน้มเอียงที่จะจ้างพนักงานจ่าย ที่พบ
ตัวแปรที่มีความรับผิดชอบกำกับดูแลควรตรวจสอบกับทางการเงินที่
มีช่องโหว่: เชื่อถือไม่เหมาะกับภายนอกมากกว่ารายได้จากสมาชิกที่ใช้
หนี้ที่เพิ่มขึ้นและค่าใช้จ่ายที่มากเกินไป นอกจากนี้การวิจัยสามารถขยายรูปแบบนี้ใน
กีฬาอื่น ๆ และประเทศอื่น ๆ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ความเสี่ยงทางการเงินที่เป็นปัญหาสำคัญสำหรับแสวง สโมสรกีฬาเนื่องจากคลับเพิ่ม
ค่าใช้จ่ายและอุปสรรคเพื่อสร้างรายได้เพียงพอ วัตถุประสงค์แรกของการศึกษานี้ เพื่อสืบทอดแนวคิด
เข้าใจความเสี่ยงทางการเงินสำหรับกีฬากอล์ฟโดย
3 แบบประเมินความเสี่ยงทางการเงินของทั้งสองซึ่งเคยถูกใช้
ในภาคแสวง ทั่วไปสองรุ่นตามรูปแบบรายได้และรายจ่าย
, และที่สามจะขึ้นอยู่กับการเคลื่อนไหวของสินทรัพย์สุทธิมากกว่า 4 ปี วัตถุประสงค์ที่สองคือการระบุปัจจัยเสี่ยง

ทางการเงินภายในสโมสรกีฬาสมัครเล่น โดยเน้นเรื่องกอล์ฟและฟุตบอล .
ข้อมูลเพื่อทดสอบโมเดลเหล่านี้ได้มาจากการรายงานทางการเงินของ 227 มือสมัครเล่น
สโมสรกีฬาในนิวซีแลนด์ ( 98 ฟุตบอลและ 129 กอล์ฟคลับ ) แต่ละรุ่นสามตัวแปรทำนาย
ผลลัพธ์ในที่แตกต่างกันและมีจุดแข็งในการอธิบายที่แตกต่างกัน สำหรับ
เช่นสโมสรฟุตบอลที่ทางการเงินความเสี่ยงภายใต้รูปแบบ 1 : ค่าใช้จ่ายโปรแกรม
รายได้ลดลงจากสมาชิก และการค้า ตลอดจนสูง
การบริหารต้นทุน ในทางกลับกันสำรองที่ลดลงเป็นการทำนายโดยใช้แบบจำลองความเสี่ยงทางการเงิน
กอล์ฟคลับ 2 : สินทรัพย์สุทธิ รุ่น 3 : กําไรสุทธิเป็น generalizable
ทั้งฟุตบอลและกอล์ฟคลับ ตัวแปรอธิบายความแตกต่างระหว่างกีฬาเหล่านี้
เนื่องจากที่แตกต่างกันของพวกเขาสินทรัพย์พื้นฐานและความโน้มเอียงที่จะจ้างค่าจ้างพนักงาน ทั่วไป
ตัวแปรเหล่านั้นด้วย ดูแลรับผิดชอบควรจะตรวจสอบกับการเงิน
จุดอ่อน : เป็นการไม่เหมาะสมในภายนอก มากกว่าสมาชิกรายได้ตาม
เพิ่มหนี้ และการใช้จ่ายมากเกินไป ศึกษาเพิ่มเติม สามารถขยายรูปแบบนี้

กีฬาอื่น ๆและเงื่อนไขอื่น ๆ