the aim of this in vitro study was

the aim of this in vitro study was to evaluate the effect of different bur types and acid etching protocols on the shear bond
strength (SBS) of a resin modified glass ionomer cement (RM-GIC) to primary dentin. Forty-eight clinically sound human
primary molars were selected and randomly assigned to four groups (n=12). In G1, the lingual surface of the teeth was cut with
a carbide bur until a 2.0-mm-diameter dentin area was exposed, followed by the application of RM-GIC (Vitremer – 3M/ESPE)
prepared according to the manufacturer’s instructions. The specimens of G2, received the same treatment of G1, however the
dentin was conditioned with phosphoric acid. In groups G3 and G4 the same procedures of G1 and G2 were conducted
respectively, nevertheless dentin cutting was made with a diamond bur. The specimens were stored in distilled water at 37o
C for
24h, and then tested in a universal testing machine. SBS. data were submitted to 2-way ANOVA (= 5%) and indicated that SBS
values of RM-GIC bonded to primary dentin cut with different burs were not statistically different, but the specimens that were
conditioned with phosphoric acid presented SBS values significantly higher that those without conditioning. To observe
micromorphologic characteristics of the effects of dentin surface cut by diamond or carbide rotary instruments and conditioners
treatment, some specimens were examined by scanning electron microscopy. Smear layer was present in all specimens regardless
of the type of rotary instrument used for dentin cutting, and specimens etched with phosphoric acid presented more effective
removal of smear layer. It was concluded that SBS of a RM-GIC to primary dentin was affected by the acid conditioning but the
bur type had no influence.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

จุดมุ่งหมายของการศึกษาการเพาะเลี้ยงนี้คือการ ประเมินผลของบูร์ต่างชนิดและกรดโพรโทคอบนพันธะเฉือนการแกะสลักความแข็งแรง (SBS) ของยางปรับเปลี่ยนกระจกซึ่งสามารถช่วยซีเมนต์ (RM-GIC) กับเนื้อหลัก สี่สิบแปดทางคลินิกเสียงมนุษย์molars หลักถูกเลือก และสุ่มให้กลุ่มที่ 4 (n = 12) ใน G1 ภาษาพื้นผิวของฟันถูกตัดด้วยบูร์ไฮไดรด์จนถูกสัมผัสบริเวณเนื้อฟันขนาด 2.0 มม. ตามแอพลิเคชันของ RM-GIC (Vitremer – 3M/ESPE)จัดทำตามคำแนะนำของผู้ผลิต ไว้เป็นตัวอย่างของ G2 ได้รับการรักษาที่เหมือนกันของ G1 อย่างไรก็ตามการเนื้อถูกปรับอากาศกับกรดฟอสฟอริก ในกลุ่ม G3 และ G4 ได้ดำเนินขั้นตอนเดียวของ G1 และ G2ตามลำดับ อย่างไรก็ตามเนื้อฟันตัดทำกับบูร์เพชร ไว้เป็นตัวอย่างถูกเก็บไว้ในน้ำกลั่นที่ 37oC สำหรับ24 ชม และทดสอบแล้ว ในเครื่องทดสอบสากล SBS ข้อมูลถูกส่งไปที่วิธีที่ 2 การวิเคราะห์ความแปรปรวน (= 5%) และระบุว่า SBSค่า RM-GIC พันธะกับเนื้อหลักตัดกับ burs ต่าง ๆ ไม่แตกต่างกันทางสถิติ แต่การไว้เป็นตัวอย่างที่มีปรับอากาศ มีค่า SBS กรดฟอสฟอริกที่นำเสนออย่างมีนัยสำคัญว่าที่ไม่ มีการปรับ สังเกตmicromorphologic ลักษณะของผลกระทบของผิวเนื้อฟันตัด โดยเครื่องโรตารี่ไดมอนด์หรือคาร์ไบด์และปรับอากาศรักษา ไว้เป็นตัวอย่างบางส่วนถูกตรวจสอบ โดยการสแกน microscopy อิเล็กตรอน เลอะเปื้อนชั้นมีในทั้งหมดไว้เป็นตัวอย่างที่ไม่ชนิดของเครื่องโรตารี่ที่ใช้สำหรับตัดเนื้อ และสลัก ด้วยกรดฟอสฟอริกไว้เป็นตัวอย่างนำเสนอมีประสิทธิภาพเอาเลเยอร์การเลอะเปื้อน จึงได้สรุปว่า SBS ของ GIC RM กับเนื้อหลักได้รับผลจากการปรับกรดแต่ชนิดบูร์อิทธิพลไม่ได้

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

จุดมุ่งหมายของการศึกษานี้ในหลอดทดลองเพื่อประเมินผลกระทบของประเภทที่แตกต่างกันหนามและโปรโตคอลกรดกัดในการยึดเฉือน
ความแข็งแรง (SBS) ของปูนซีเมนต์ ionomer แก้วแก้ไขเรซิน (RM-GIC) เพื่อเนื้อฟันหลัก สี่สิบแปดเสียงทางคลินิกของมนุษย์
ฟันกรามน้ำนมได้รับการคัดเลือกและสุ่มให้สี่กลุ่ม (n = 12) ใน G1, พื้นผิวลิ้นของฟันที่ถูกตัดด้วย
หนามคาร์ไบด์จนถึง 2.0 มิลลิเมตรเส้นผ่าศูนย์กลางพื้นที่เนื้อฟันได้สัมผัสตามด้วยการประยุกต์ใช้ RM-GIC (Vitremer - 3M / ESPE)
จัดทำขึ้นตามคำแนะนำของผู้ผลิต ตัวอย่างของ G2 ได้รับการรักษาเดียวกันของ G1 แต่
เนื้อฟันได้รับการปรับอากาศกับกรดฟอสฟ ในกลุ่ม G3 และ G4 ขั้นตอนเดียวกันของ G1 และ G2 ได้ดำเนินการ
ตามลำดับการตัดเนื้อฟันยังคงถูกทำให้มีหนามเพชร ตัวอย่างที่ถูกเก็บไว้ในน้ำกลั่นที่ 37o
เซลเซียสเป็นเวลา
24 ชั่วโมง, และผ่านการทดสอบแล้วในเครื่องทดสอบสากล SBS ข้อมูลที่ถูกส่งไป 2-way ANOVA (= 5%) และชี้ให้เห็นว่า SBS
ค่าของ RM-GIC ผูกมัดที่จะตัดเนื้อฟันหลักที่มีบุชไม่แตกต่างกันทางสถิติ แต่ชิ้นงานที่มีการ
ปรับอากาศที่มีกรดฟอสฟอรัสนำเสนอค่า SBS อย่างมีนัยสำคัญที่สูงขึ้น ผู้ที่ไม่มีเครื่อง จะสังเกตเห็น
ลักษณะ micromorphologic ของผลกระทบของพื้นผิวเนื้อฟันตัดโดยเพชรหรือคาร์ไบด์เครื่องมือหมุนและเครื่อง
รักษาตัวอย่างบางคนถูกตรวจสอบโดยกล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอน ชั้น smear ในปัจจุบันตัวอย่างทั้งหมดโดยไม่คำนึง
ถึงประเภทของตราสารหมุนที่ใช้สำหรับการตัดเนื้อฟันและชิ้นงานแกะสลักด้วยกรดฟอสฟที่นำเสนอมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ในการกำจัดของชั้นสเมียร์ ก็สรุปได้ว่า SBS ของ RM-GIC เพื่อเนื้อฟันหลักได้รับผลกระทบจากเครื่องกรด แต่
ชนิดหนามมีอิทธิพลไม่มี

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

จุดมุ่งหมายของการศึกษาในหลอดทดลอง เพื่อศึกษาผลของชนิด ให้ความรู้สึกที่แตกต่างกัน และกัดกรดโปรโตคอลบนพันธะเฉือน
แรง ( SBS ) ของกลาสไอโอโนเมอร์ซีเมนต์ดัดแปลงด้วยเรซิน ( rm-gic ) ซึ่งหลัก สี่สิบแปดเสียงหลักทางการแพทย์มนุษย์
ซี่ทำการเลือกแบบสุ่มสี่กลุ่ม ( n = 12 ) ต่ำกว่าผิวหน้าของฟันที่ถูกตัดลิ้นด้วย
เป็นคาร์ไบด์หนามจน 2พื้นที่ซึ่ง 0-mm-diameter ถูกเปิดเผย ตามด้วยการใช้ rm-gic ( vitremer – 3M / เอสป์ )
เตรียมไว้ตามคำแนะนำของผู้ผลิต ตัวอย่างของ G2 , ได้รับการรักษาเดียวกันของ G1 อย่างไรก็ตาม
ซึ่งเป็นเว็บไซด์ที่มีกรดฟอสฟอริก ในกลุ่ม G3 และ G4 กระบวนการเดียวกันของ G1 และ G2 มีวัตถุประสงค์
ตามลำดับแต่เนื้อฟันตัดทำจากเพชรบุรี . ทำการเก็บในน้ำกลั่นที่ 37o
C
24 ชั่วโมง แล้วทดสอบด้วยเครื่องทดสอบสากล ของ SBS ข้อมูลที่ถูกส่งไปยัง 2-way ANOVA ( = 5% ) และพบว่าค่าของ SBS
rm-gic ผูกตัดเนื้อฟันหลักกับ burs ต่างกัน ไม่แตกต่างกัน แต่ตัวอย่างที่
ปรับอากาศ มี กรดฟอสฟอริค เสนอค่าสูงกว่าที่ SBS ที่ไม่มีเครื่องปรับอากาศ สังเกต
ลักษณะ micromorphologic ผลของหน้าตัดเนื้อฟัน โดย เพชร หรือ คาร์ไบด์เครื่องมือหมุนและการรักษาปรับอากาศ
บางส่วนทำการตรวจสอบโดยกล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนแบบส่องกราด . เลเยอร์ละเลงอยู่ในตัวอย่างไม่
ชนิดของเครื่องมือที่ใช้สำหรับหมุนฟันตัดและชิ้นงานแกะสลักด้วยกรดฟอสฟอริค นำเสนอการกำจัดมีประสิทธิภาพ
เพิ่มเติมชั้นภายใน สรุปได้ว่า การใช้สาร rm-gic SBS เป็นหลักได้รับผลกระทบจากกรดปรับแต่
ประเภทหนาม ไม่มีอิทธิพล