10.5 Multiproduct Pricing10.5.1 Con

10.5 Multiproduct Pricing
10.5.1 Context
In all the analysis of pricing so far it has been assumed that the firm is producing a single product. However, it was explained in Chapter 3 that this common assumption is not at all realistic; indeed it is difficult to think of many firms that do only produce a single product, while it is easy to think of firms that produce or sell thousands of different products. The reasons for making this assumption were also outlined in Chapter 3, and relate to the simplification of the analysis involved. It is true that there are some firms that produce or sell a wide diversity of products that are not related to each other in any way, either in terms of demand or production; in this situation the firm’s pricing and output decisions can be examined using the same analytical framework as the single-product firm. However, this is a relatively rare situation. More often than not, firms producing multiple products face both demand and production interrelationships. It is now necessary to consider these relationships in more detail.

10.5.2 Demand interrelationships
Multiproduct firms frequently produce a product line or range of product lines, and many examples of this have already been discussed in previous chapters: cars, domestic appliances, athletic shoes, consumer electronics, and also services like banking, accounting and insurance. In some cases the products or models are substitutes for each other to some degree, which is usually the case within product lines, but in other cases the products are complementary, for example when Gillette produces shavers, blades and aftershave.

The consequence of such interrelationships is that a change in the price of one product affects the demand for others of the firm’s products. If we consider a firm producing two products, X and Y, then the total revenue of the firm is given by:
สูตร
where TRX is the total revenue from product X, and TRY is the total revenue from product Y. The marginal revenues of each product are given by:
สูตร
These equations show that when the quantity of one product sold by the firm changes, it not only affects the revenue obtained from the sale of that product, but it also affects the revenue obtained from the sale of other products of the firm. This is shown in the interaction term at the end of each expression; this term can be either positive or negative, depending on the nature of the relationship with the other product. If X and Y are in the same product line, and are therefore substitutes, the interaction term is negative, while if the products are complementary, as in the Gillette example, the interaction term is positive.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

10.5 การกำหนดราคา multiproduct

บริบท 10.5.1 ในทุกการวิเคราะห์ของการกำหนดราคาเพื่อให้ห่างไกลจะได้รับการสันนิษฐานว่า บริษัท คือการผลิตผลิตภัณฑ์เดียว อย่างไรก็ตามมันก็อธิบายในบทที่ 3 ข้อสันนิษฐานว่าเรื่องนี้เหมือนกันคือไม่ได้อยู่ที่เหตุผลทั้งหมด; จริงมันเป็นเรื่องยากที่จะคิดว่าหลาย บริษัท ที่ไม่เพียง แต่ผลิตผลิตภัณฑ์เดียว,ในขณะที่มันเป็นเรื่องง่ายที่จะคิดว่า บริษัท ที่ผลิตหรือขายผลิตภัณฑ์หลายพันชนิดที่แตกต่างกัน เหตุผลสำหรับการทำสมมติฐานนี้ถูกระบุไว้ในบทที่ 3 และที่เกี่ยวข้องกับความเรียบง่ายของการวิเคราะห์ที่เกี่ยวข้อง มันเป็นความจริงว่ามีบาง บริษัท ที่ผลิตหรือขายความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ที่ไม่เกี่ยวข้องกับแต่ละอื่น ๆ ในทางใดทางหนึ่งทั้งในแง่ของความต้องการหรือการผลิต;ในสถานการณ์เช่นนี้ บริษัท ตัดสินใจการกำหนดราคาและการส่งออกสามารถตรวจสอบได้โดยใช้กรอบการวิเคราะห์เช่นเดียวกับ บริษัท เดียวกับผลิตภัณฑ์ แต่นี้เป็นสถานการณ์ที่ค่อนข้างหายาก บ่อยกว่าไม่, บริษัท ผลิตสินค้าหลายเผชิญกับความสัมพันธ์ความต้องการและการผลิตทั้ง ตอนนี้มันเป็นความจำเป็นที่จะต้องพิจารณาความสัมพันธ์เหล่านี้ในรายละเอียดอื่น ๆ .

10.5.2 สัมพันธ์ความต้องการ
บริษัท multiproduct บ่อยผลิตสายผลิตภัณฑ์หรือช่วงของสายผลิตภัณฑ์และหลายตัวอย่างของเรื่องนี้ได้รับการกล่าวถึงในบทก่อนหน้า: รถยนต์เครื่องใช้ภายในประเทศ, รองเท้ากีฬา, อิเล็กทรอนิกส์สำหรับผู้บริโภคและยังบริการเช่นธนาคารบัญชีและการประกัน ในบางกรณีที่สินค้าหรือรูปแบบทดแทนซึ่งกันและกันในระดับหนึ่งซึ่งปกติจะเป็นกรณีภายในสายผลิตภัณฑ์ แต่ในกรณีผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ประกอบเช่นเมื่อ Gillette ผลิตใบมีด, เครื่องโกนหนวดและหลังโกนหนวด.

ผลมาจากความสัมพันธ์ดังกล่าวเป็นว่าการเปลี่ยนแปลงในราคาหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่มีผลกระทบต่อความต้องการใช้ คนอื่น ๆ ของผลิตภัณฑ์ของ บริษัท ถ้าเราพิจารณา บริษัท ที่ผลิตผลิตภัณฑ์สอง x และ y,แล้วรายได้รวมของ บริษัท จะได้รับโดย:

สูตรที่ TRX คือรายได้ทั้งหมดจาก x ผลิตภัณฑ์และพยายามที่จะมีรายได้รวมจากผลิตภัณฑ์ y รายได้ส่วนเพิ่มของสินค้าแต่ละชิ้นจะได้รับโดย:

สูตรสมการเหล่านี้แสดงให้เห็นว่าเมื่อปริมาณของผลิตภัณฑ์ที่จำหน่ายโดย บริษัท การเปลี่ยนแปลงนั้นไม่เพียง แต่ส่งผลกระทบต่อรายได้ที่ได้รับจากการขายของผลิตภัณฑ์ที่,แต่มันก็ยังมีผลกระทบต่อรายได้ที่ได้รับจากการขายผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ของ บริษัท นี้จะแสดงให้เห็นในระยะปฏิสัมพันธ์ในตอนท้ายของการแสดงออกในแต่ละเทอมนี้สามารถเป็นได้ทั้งบวกหรือลบขึ้นอยู่กับธรรมชาติของความสัมพันธ์กับผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ถ้า x และ y อยู่ในสายผลิตภัณฑ์เดียวกันและจึงทดแทนระยะปฏิสัมพันธ์เป็นลบในขณะที่หากสินค้าที่จะประกอบในขณะที่ตัวอย่างที่ยิลเลตต์ระยะปฏิสัมพันธ์เป็นบวก.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

10.5 ราคา multiproduct
10.5.1 บริบท
ในการวิเคราะห์ทั้งหมดของราคามาก จึงสันนิษฐานว่า บริษัทผลิตผลิตภัณฑ์เดียวกัน อย่างไรก็ตาม มันถูกอธิบายในบทที่ 3 อัสสัมชัญนี้ทั่วไปไม่จริง แน่นอนจึงยากที่จะคิดว่า หลายบริษัทที่ผลิตผลิตภัณฑ์เดียว เท่านั้น ในขณะพักจะคิดว่า บริษัทที่ผลิต หรือขายผลิตภัณฑ์แตกต่างกันหลายพัน เหตุผลสำหรับการนี้ยังได้อธิบายไว้ในบทที่ 3 และสอดคล้องกับรวบการวิเคราะห์ที่เกี่ยวข้อง มันเป็นความจริงว่า มีบางบริษัทที่ผลิต หรือขายหลากหลายผลิตภัณฑ์ที่ไม่เกี่ยวข้องกันในลักษณะใด ทั้งความต้องการหรือผลิต กว้าง ในสถานการณ์นี้ บริษัทของราคา และตัดสินผลลัพธ์สามารถถูกตรวจสอบโดยใช้กรอบการวิเคราะห์เดียวกันเป็นบริษัทเดียวของผลิตภัณฑ์ อย่างไรก็ตาม นี้เป็นสถานการณ์ที่ค่อนข้างหายาก มากมักจะไม่ บริษัทที่ผลิตผลิตภัณฑ์หลายหน้า interrelationships ความต้องการและผลิต ตอนนี้จำเป็นต้องพิจารณาความสัมพันธ์เหล่านี้ในรายละเอียดเพิ่มเติม

10.5.2 ความต้อง interrelationships
บริษัท multiproduct บ่อยผลิตผลิตภัณฑ์หรือช่วงของสายผลิตภัณฑ์ และในตัวอย่างนี้แล้วได้การกล่าวถึงในบทก่อนหน้านี้: รถยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในประเทศ รองเท้ากีฬา เครื่องใช้ไฟฟ้า และบริการเช่นธนาคาร บัญชีและการประกัน ในบางกรณี ผลิตภัณฑ์หรือแบบจำลองแทนที่กัน กับ ซึ่งมักจะเป็นกรณีที่ภายในสายผลิตภัณฑ์ แต่ในกรณีอื่นๆ ผลิตภัณฑ์เสริม อย่างกิลเลตต์ผลิต shavers ใบมีด และน้ำหอม

สัจจะของ interrelationships ดังกล่าวเป็นการเปลี่ยนแปลงในราคาของผลิตภัณฑ์มีผลกระทบต่อความต้องการอื่น ๆ ของผลิตภัณฑ์ของบริษัท ถ้าเราพิจารณาบริษัทที่ผลิตผลิตภัณฑ์สอง X และ Y แล้วรายได้รวมของบริษัทถูกกำหนดโดย:
สูตร
ที่ TRX เป็นรายได้รวมจากผลิตภัณฑ์ X และพยายามที่จะรวมรายได้จากผลิตภัณฑ์ Y รายได้กำไรของแต่ละผลิตภัณฑ์ได้โดย:
สูตร
สมการเหล่านี้แสดงว่า เมื่อปริมาณของผลิตภัณฑ์ที่ขาย โดยการเปลี่ยนแปลงของบริษัท จะมีผลไม่เท่ากับรายได้ที่ได้รับจากการขายของผลิตภัณฑ์นั้น แต่มันยังมีผลต่อรายได้ได้รับจากการขายผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ของบริษัท นี้จะปรากฏในคำโต้ตอบในตอนท้ายของแต่ละนิพจน์ เทอมนี้สามารถบวก หรือ ลบ ขึ้นอยู่กับลักษณะของความสัมพันธ์กับผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ถ้า X และ Y อยู่ในสายผลิตภัณฑ์เดียวกัน และดังนั้น ทดแทน คำโต้ตอบเป็นค่าลบ ถ้าผลิตภัณฑ์เสริม ตัวอย่างกิลเลตต์ คำโต้ตอบเป็นบวก

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การตั้งราคา 10.5 multiproduct
10.5.1 บริบท
ซึ่งจะช่วยในการวิเคราะห์ทั้งหมดของการตั้งราคาแต่ได้รับการสันนิษฐานได้ว่าบริษัทที่มีการผลิต ผลิตภัณฑ์ เดียว แต่ถึงอย่างไรก็ตามยังมีอธิบายไว้ในบทที่ 3 ที่คาดไว้ทั่วไปในที่นี้คือไม่ใช่ทั้งหมดในความเป็นจริงที่จริงแล้วมันเป็นเรื่องยากที่จะคิดว่าของบริษัทจำนวนมากที่ผลิต ผลิตภัณฑ์ เดียวเท่านั้นในขณะที่มันมีความง่ายในการคิดว่าของบริษัทที่ผลิตหรือขายหลายพันคนของ ผลิตภัณฑ์ เหตุผลที่ทำให้สมมุติฐานนี้ก็ระบุไว้ในบทที่ 3 และเกี่ยวข้องกับออกเอกสารของการวิเคราะห์ที่เกี่ยวข้อง เป็นความจริงที่ว่ามีบริษัทที่ผลิตหรือขายความหลากหลายของ ผลิตภัณฑ์ ที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับกันในทางใดๆทั้งในด้านการผลิตหรือความต้องการในสถานการณ์แบบนี้การตั้งราคาของบริษัทให้การตัดสินใจและสามารถตรวจสอบการใช้กรอบในการวิเคราะห์เหมือนกับบริษัท ผลิตภัณฑ์ เดียวได้ อย่างไรก็ตามสถานการณ์นี้มีน้อยมาก มากกว่าไม่ใช่บริษัทผลิตสินค้าหลายรายการหน้าแต่การผลิตและความต้องการ ในตอนนี้เป็นความจำเป็นที่จะต้องพิจารณาความสัมพันธ์เหล่านี้ในรายละเอียดมากขึ้น.

10.5.2 ความต้องการความเกี่ยวเนื่องสัมพันธ์กัน
บริษัท multiproduct ที่ผลิตหรือช่วงสาย ผลิตภัณฑ์ ของกลุ่ม ผลิตภัณฑ์ และตัวอย่างจำนวนมากของโรงแรมแห่งนี้ได้รับการกล่าวถึงในบทก่อนหน้ารถยนต์เครื่องใช้ไฟฟ้าในประเทศรองเท้ากีฬาอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อยู่แล้วและยังมีบริการต่างๆเช่นการประกัน ภัย และบัญชีธนาคาร ในบางกรณี ผลิตภัณฑ์ หรือรุ่นที่มีใช้แทนกันในระดับหนึ่งซึ่งโดยปกติคือคดีที่อยู่ในสาย ผลิตภัณฑ์ แต่ในกรณีอื่นๆสินค้าที่ได้รับของสมนาคุณสำหรับตัวอย่างเช่นเมื่อ Gillette Company ผลิตเครื่องโกนขนสำหรับ สุภาพสตรี aftershave และใบมีด.

ผลที่มีความเกี่ยวเนื่องสัมพันธ์กันนั้นเป็นการเปลี่ยนแปลงที่อยู่ในราคาที่สินค้าหนึ่งที่มีผลต่อความต้องการให้คนอื่นของ ผลิตภัณฑ์ ของบริษัท ถ้าเราพิจารณาบริษัทที่ผลิต ผลิตภัณฑ์ ทั้งสอง X และ Yแล้วรายได้รวมของบริษัทที่จะได้รับโดย:

สูตรที่ trx มีรายได้รวมจาก ผลิตภัณฑ์ x ลองและมีรายได้รวมจาก Y ผลิตภัณฑ์ รายได้จากเศษของแต่ละ ผลิตภัณฑ์ จะได้รับโดย:

สมสูตรนี้แสดงว่าเมื่อจำนวนของหนึ่ง ผลิตภัณฑ์ จำหน่ายโดยบริษัทจะเปลี่ยนเป็นไม่เพียงส่งผลกระทบต่อรายได้ที่ได้มาจากการขายของ ผลิตภัณฑ์ นั้นแต่ก็ยังส่งผลต่อรายได้ที่ได้มาจากการขายของ ผลิตภัณฑ์ อื่นของบริษัท โรงแรมแห่งนี้คือที่แสดงในระยะสั้นมีการโต้ตอบกันในช่วงปลายของการแสดงออกทางความคิดเห็นแต่ละ ภาค นี้สามารถเป็นได้ทั้งด้านบวกหรือด้านลบทั้งนี้ขึ้นอยู่กับธรรมชาติของความสัมพันธ์ที่มี ผลิตภัณฑ์ อื่นๆได้ หาก X และ Y อยู่ในสาย ผลิตภัณฑ์ เดียวกันและดังนั้นจึงใช้แทนคำว่าการโต้ตอบที่เป็นลบในขณะที่หากสินค้าที่เป็นของสมนาคุณในตัวอย่างเช่น Gillette Company ที่ระยะการโต้ตอบที่เป็นบวก.