In 1961, Klopfer and Cooley develop

In 1961, Klopfer and Cooley developed the Test on Understanding Science (TOUS), which was to become the most widely used paper-and-pencil assessment of students’ conceptions. Using the TOUS and a comprehensive review of several nationwide surveys, Klopfer and Cooley concluded that high school students’ understandings of the scientific enterprise and of scientists was inadequate. Miller (1963), also using the TOUS, found student conceptions that were considered totally inadequate. As research began to document that students possessed less than adequate views of nature of science, research in the field began to proliferate (National Science Teachers Association [NSTA], 1962). Early assessments of students’ understandings were not limited to the United States. Mackay (1971) pre- and posttested 1,203 Australian secondary students spanning grades 7–10, using the TOUS instrument. He concluded that students lacked sufficient knowledge of (a) the role of creativity in science; (b) the function of scientific models; (c) the roles of theories and their relation to research; (d) the distinctions among hypotheses, laws, and theories; (e) the relationship between experimentation, models and theories, and absolute truth; (f) the fact that science is not solely concerned with the collection and classification of facts; (g) what constitutes a scientific explanation; and (h) the interrelationships among and the interdependence of the different branches of science. Similar findings resulted from the investigations of Korth (1969), Broadhurst (1970), and Aikenhead (1972, 1973).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ใน 1961, Klopfer และ Cooley พัฒนาทดสอบบนความเข้าใจวิทยาศาสตร์ (TOUS), ซึ่งได้ประเมินกระดาษ และดินสอที่ใช้กันอย่างแพร่หลายนักเรียน conceptions ใช้ TOUS การทบทวนที่ครอบคลุมของการสำรวจทั่วประเทศหลาย Klopfer และ Cooley สรุปว่า เปลี่ยนความเข้าใจของนักเรียนมัธยม ขององค์กรทางวิทยาศาสตร์ และนักวิทยาศาสตร์ไม่เพียงพอ มิลเลอร์ (1963), ใช้ TOUS พบ conceptions นักเรียนที่ได้รับการพิจารณาทั้งหมดไม่เพียงพอ เป็นวิจัยเริ่มเอกสารที่นักเรียนต้องมีน้อยกว่าเพียงพอมองเห็นธรรมชาติของวิทยาศาสตร์ วิจัยในฟิลด์เริ่มต้นการ proliferate (ชาติวิทยาศาสตร์ครูสมาคม [NSTA], 1962) เปลี่ยนความเข้าใจของนักเรียนประเมินต้นไม่จำกัดประเทศสหรัฐอเมริกา แมคเคย์ (1971) ก่อน และ posttested 1,203 ออสเตรเลียรองนักเรียนเกรด 7 – 10 รัฐใช้เครื่องมือ TOUS เขาสรุปว่า นักเรียนขาดความรู้เพียงพอ (a) บทบาทของความคิดสร้างสรรค์วิทยาศาสตร์ (ข) การทำงานของแบบจำลองทางวิทยาศาสตร์ (ข)บทบาทของทฤษฎีและความสัมพันธ์เพื่อการวิจัย (ง)ข้อแตกต่างระหว่างสมมุติฐาน กฎหมาย และ ทฤษฎี (จ) ความสัมพันธ์ ระหว่างทดลอง แบบจำลอง และทฤษฎี ความ จริง (f) ความจริงที่ว่า วิทยาศาสตร์ไม่เพียงเกี่ยวข้องกับเก็บรวบรวมและจัดประเภทของข้อมูล (g) ถึงองค์ประกอบของคำอธิบายทางวิทยาศาสตร์ (h) และ interrelationships ระหว่าง และอิสระเสรีของสาขาต่าง ๆ ของวิทยาศาสตร์ ผลการวิจัยที่คล้ายกันเป็นผลมาจากการสืบสวนของ Korth (1969), Broadhurst (1970), และ Aikenhead (1972, 1973)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ในปี 1961 Klopfer และคูลลีย์พัฒนาทดสอบในการทำความเข้าใจวิทยาศาสตร์ (TOUS) ซึ่งกำลังจะกลายเป็นใช้กันอย่างแพร่หลายประเมินกระดาษและดินสอของมโนทัศน์ของนักเรียน ใช้ TOUS และทานที่ครอบคลุมของการสำรวจทั่วประเทศหลาย Klopfer คูลลีย์และได้ข้อสรุปว่าความเข้าใจของนักเรียนโรงเรียนมัธยมขององค์กรทางวิทยาศาสตร์และนักวิทยาศาสตร์ไม่เพียงพอ มิลเลอร์ (1963) ยังมีการใช้ TOUS พบมโนทัศน์ของนักเรียนที่ได้รับการพิจารณาไม่เพียงพอ เป็นงานวิจัยเริ่มการจัดทำเอกสารที่มีนักเรียนน้อยกว่ามุมมองที่เพียงพอของธรรมชาติของวิทยาศาสตร์การวิจัยในสาขาที่เริ่มงอก (วิทยาศาสตร์แห่งชาติสมาคมครู [NSTA], 1962) การประเมินผลในช่วงต้นของความเข้าใจของนักเรียนที่ไม่ได้ จำกัด อยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา แม็คเคย์ (1971) ก่อนและ posttested 1203 นักเรียนระดับมัธยมศึกษาออสเตรเลียทอดเกรด 7-10 โดยใช้เครื่องมือ TOUS เขาสรุปว่านักเรียนขาดความรู้ที่เพียงพอของ (ก) บทบาทของความคิดสร้างสรรค์ในทางวิทยาศาสตร์นั้น (ข) ฟังก์ชั่นของรูปแบบทางวิทยาศาสตร์; (ค) บทบาทของทฤษฎีและความสัมพันธ์ของพวกเขาเพื่อการวิจัย; (ง) ความแตกต่างระหว่างสมมติฐานกฎหมายและทฤษฎี (จ) ความสัมพันธ์ระหว่างการทดลองรูปแบบและทฤษฎีและความจริงแน่นอน; (ฉ) ความจริงที่ว่าวิทยาศาสตร์ไม่ได้เป็นกังวล แต่เพียงผู้เดียวกับการเก็บรวบรวมและจัดหมวดหมู่ของข้อเท็จจริง (ช) สิ่งที่ถือว่าเป็นคำอธิบายทางวิทยาศาสตร์; และ (ซ) ความสัมพันธ์ในหมู่และการพึ่งพาของสาขาที่แตกต่างกันของวิทยาศาสตร์ ผลการวิจัยที่คล้ายกันเป็นผลมาจากการสืบสวนของ Korth นี้ (1969) Broadhurst (1970) และ Aikenhead (1972, 1973)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ในปี 1961 คล็อปเฟอร์ คูลีย์พัฒนาและทดสอบความเข้าใจวิทยาศาสตร์ ( ทั้งหมด ) , ซึ่งได้กลายเป็นที่ใช้กันอย่างแพร่หลายกระดาษและดินสอของมโนทัศน์การประเมินนักเรียน ' ใช้ทั้งหมดและตรวจสอบที่ครอบคลุมการสำรวจหลายทั่วประเทศ และสรุปได้ว่า คล็อปเฟอร์คูลลีย์ของนักเรียนมัธยมศึกษาตอนปลาย ความเข้าใจขององค์กรวิทยาศาสตร์และนักวิทยาศาสตร์ก็ยังไม่เพียงพอ มิลเลอร์ ( 1963 )ยังใช้ทั้งหมด พบนักเรียนมโนทัศน์ที่ถูกถือว่าเป็นทั้งหมดไม่เพียงพอ การวิจัยเริ่มเอกสารที่นักศึกษามีน้อยกว่ามุมมองที่เพียงพอของธรรมชาติของวิทยาศาสตร์ การวิจัยเริ่มเผยแพร่ ( สมาคมครูวิทยาศาสตร์แห่งชาติ nsta [ ] , 1962 ) การประเมินแรกของความเข้าใจของนักเรียนไม่ จำกัด ประเทศสหรัฐอเมริกาแม็คเคย์ ( 1971 ) ก่อน และใช้เวลา 1203 ออสเตรเลียนักเรียนมัธยมศึกษาตั้งแต่เกรด 7 – 10 , การใช้เครื่องมือทั้งหมด . เขาสรุปได้ว่านักเรียนยังไม่มีความรู้เพียงพอของ ( ) บทบาทของความคิดสร้างสรรค์ทางวิทยาศาสตร์ ; ( b ) ฟังก์ชันของแบบจำลองทางวิทยาศาสตร์ ; ( c ) บทบาทของทฤษฎีและความสัมพันธ์ของการวิจัย ; ( d ) ความแตกต่างระหว่างสมมติฐาน ทฤษฎี กฎ และ( E ) ความสัมพันธ์ระหว่างการทดลองและทฤษฎีแบบจำลอง และสัจจะ ( F ) ความจริงที่วิทยาศาสตร์ไม่เพียงเกี่ยวข้องกับการรวบรวมและแยกแยะข้อเท็จจริง ; ( G ) ที่ถือเป็นการอธิบายทางวิทยาศาสตร์ และ ( H ) และความสัมพันธ์ระหว่างและการพึ่งพาอาศัยกันของสาขาที่แตกต่างกันของวิทยาศาสตร์ ผลที่คล้ายกันเป็นผลมาจากการสืบสวนของคอร์ท ( 1969 )Broadhurst ( 1970 ) และ aikenhead
( 1972 , 1973 )