P12.3 SOLUTIONA. The effects of the

P12.3 SOLUTION
A. The effects of the DOJ overlap group inquiry has become the subject of an
interesting study by the National Bureau of Economic Research, Inc. The
NBER study found no evidence that the overlap colleges were colluding to
raise tuition, raise net tuition revenue, or to save expenditures on grants. Both
the overlap colleges and the control colleges raised tuition about 4 percent a
year both before and after the antitrust action. However, as a result of the suit,
financial aid at the overlap colleges became less progressive with respect to
parents income and more sensitive to the merit of individual students, as
measured by standard aptitude tests. In other words, financial aid became
less sensitive to parents income and more able students obtained more aid.
As a consequence of the DOJ case, the apparent trend in overlap colleges is to
have a student body with proportionately more well-off students and
relatively fewer black and Hispanic students.
Apparently, DOJ found it difficult to apply standard economic analysis
to college education. Although students are consumers of education, they are
also producers in sense that peers affect the student experience. Many students would like colleges to maintain need-based aid for others, but make
exceptions for them if they fail to qualify. (Note: Founded in 1920, NBER
is a private, nonprofit, nonpartisan research organization dedicated to
promoting a greater understanding of how the economy works. NBER
research is conducted by more than 600 university professors around the
country.)

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

P12.3 โซลูชั่นA. ผลของการสอบถามกลุ่มซ้อน DOJ กลายเป็น เรื่องของการน่าสนใจศึกษา โดยชาติสำนักของเศรษฐกิจวิจัย Inc.พบไม่มีหลักฐานที่วิทยาลัยทับซ้อนถูก colluding การศึกษา NBERเพิ่มค่าเล่าเรียน เพิ่มรายได้สุทธิค่าเล่าเรียน หรือบันทึกค่าใช้จ่ายในเงินช่วยเหลือ ทั้งสองอย่างวิทยาลัยทับซ้อนและวิทยาลัยควบคุมขึ้นค่าเล่าเรียนประมาณร้อยละ 4 แบบปีทั้งก่อน และ หลังการดำเนินการต่อต้านการผูกขาด อย่างไรก็ตาม จากไพ่ความช่วยเหลือทางการเงินที่วิทยาลัยทับซ้อนเป็นก้าวหน้าน้อยด้วย respect เพื่อผู้ปกครองรายได้และสำคัญมากกว่าการทำบุญของแต่ละนักเรียน เป็นวัด โดยการทดสอบความสามารถมาตรฐาน ในคำอื่น ๆ ความช่วยเหลือทางการเงินเป็นนักเรียนน้อยสำคัญที่ผู้ปกครองรายได้ และมากขึ้นสามารถรับความช่วยเหลือเพิ่มเติมเป็นลำดับกรณี DOJ แนวโน้มชัดเจนในวิทยาลัยทับซ้อนคือการมีร่างกายนักเรียนกับนักเรียนสังคมเพิ่มมากขึ้นตามสัดส่วน และค่อนข้างน้อย Hispanic และดำนักเรียนเห็นได้ชัด DOJ พบมันยากที่จะใช้วิเคราะห์เศรษฐกิจมาตรฐานการศึกษาวิทยาลัย ถึงแม้ว่านักเรียนจะศึกษาผู้บริโภค มีนอกจากนี้ยัง ผลิตในแง่ที่เพียร์มีผลต่อประสบการณ์นักเรียน นักเรียนหลายคนต้องวิทยาลัย การรักษาตามต้องการช่วยเหลือผู้อื่น ทำให้ข้อยกเว้นสำหรับพวกเขาหากพวกเขาไม่มีสิทธิ์ (หมายเหตุ: ก่อตั้งขึ้นในปี 1920, NBERงานวิจัยส่วนตัว ผลกำไร nonpartisan ทุ่มเทเพื่อส่งเสริมความเข้าใจที่มากขึ้นของวิธีการทำงานของเศรษฐกิจ NBERดำเนินการวิจัย โดยอาจารย์มหาวิทยาลัยมากกว่า 600 สถานประเทศ)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

P12.3 SOLUTION
เอ ผลกระทบของ DOJ
ทับซ้อนสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้กลายเป็นกลุ่มเรื่องของการที่ศึกษาที่น่าสนใจโดยสำนักวิจัยเศรษฐกิจแห่งชาติ, อิงค์ศึกษา NBER พบหลักฐานว่าวิทยาลัยที่ทับซ้อนกันได้สมรู้ร่วมคิดที่จะยกระดับการเรียนการสอน, การเรียนการสอนเพิ่มรายได้สุทธิหรือบันทึก ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับเงินอุดหนุน ทั้งสองวิทยาลัยทับซ้อนและวิทยาลัยการควบคุมการเรียนการสอนที่เกิดขึ้นประมาณร้อยละ 4 ปีทั้งก่อนและหลังการดำเนินการต่อต้านการผูกขาด แต่เป็นผลมาจากชุดสูทความช่วยเหลือทางการเงินที่วิทยาลัยการทับซ้อนกลายเป็นความก้าวหน้าน้อยที่เกี่ยวกับพ่อแม่ของรายได้และมีความไวต่อบุญของนักเรียนแต่ละคนในขณะที่วัดได้จากการทดสอบความถนัดมาตรฐาน ในคำอื่น ๆความช่วยเหลือทางการเงินกลายเป็นความสำคัญน้อยกว่ารายได้ผู้ปกครองและนักเรียนสามารถอื่น ๆ ที่ได้รับความช่วยเหลือเพิ่มเติม. เป็นผลมาจากกรณี DOJ มีแนวโน้มที่เห็นได้ชัดในวิทยาลัยที่ทับซ้อนกันคือการมีนักศึกษาที่มีสัดส่วนมากขึ้นนักเรียนดีออกและค่อนข้างน้อยสีดำและนักเรียนสเปนและโปรตุเกส. เห็นได้ชัดว่า DOJ พบว่ามันยากที่จะใช้การวิเคราะห์ทางเศรษฐศาสตร์มาตรฐานการศึกษาวิทยาลัย แม้ว่านักเรียนเป็นผู้บริโภคของการศึกษาที่พวกเขาจะยังผลิตในแง่ที่ว่าเพื่อนส่งผลกระทบต่อประสบการณ์ของนักเรียน นักเรียนหลายคนต้องการที่จะรักษาวิทยาลัยต้องการความช่วยเหลือที่ใช้สำหรับคนอื่น ๆ แต่จะทำให้ข้อยกเว้นสำหรับพวกเขาหากพวกเขาล้มเหลวที่จะมีคุณสมบัติ (หมายเหตุ: ก่อตั้งขึ้นในปี 1920 NBER เป็นโรงเรียนเอกชนที่ไม่แสวงหากำไรองค์กรวิจัยกลางที่ทุ่มเทให้กับการส่งเสริมความเข้าใจมากขึ้นว่าเศรษฐกิจทำงาน NBER. การวิจัยจะดำเนินการโดยกว่า 600 อาจารย์มหาวิทยาลัยทั่วประเทศ.)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

p12.3 โซลูชั่น
. ผลของกลุ่มซ้อน DOJ สอบถามได้กลายเป็นเรื่องของ
น่าสนใจศึกษา โดยสำนักวิจัยเศรษฐกิจแห่งชาติ , Inc .
nber พบหลักฐานว่าซ้อนวิทยาลัยเป็นสมรู้ร่วมคิดเพื่อ
เพิ่มค่าเล่าเรียนเพิ่มรายได้ค่าเล่าเรียนสุทธิ หรือประหยัดค่าใช้จ่ายในอนุญาต ทั้งวิทยาลัยและวิทยาลัย
ซ้อนควบคุมค่าเล่าเรียนประมาณ 4 เปอร์เซ็นต์
ตั้งขึ้นปี ทั้งก่อนและหลังการต่อต้านการผูกขาด . อย่างไรก็ตาม ผลของชุด
ช่วยเหลือทางการเงินที่ทับซ้อนวิทยาลัยกลายเป็นก้าวหน้าน้อย ด้วยความเคารพ

พ่อแม่รายได้และมีความไวต่อคุณธรรมของนักเรียนแต่ละคน เช่น
วัดโดยแบบทดสอบความถนัดมาตรฐาน ในคำอื่น ๆของความช่วยเหลือทางการเงินเป็น
ความไวน้อยรายได้ผู้ปกครองและนักเรียนสามารถได้รับความช่วยเหลือเพิ่มเติม .
ผลที่ตามมาของ DOJ กรณีแนวโน้ม ปรากฏ ใน วิทยาลัย ซ้อน คือ
มีนักเรียนกับนักเรียนและมั่งคั่งมากขึ้นเป็นสัดส่วนที่ค่อนข้างน้อยกว่าสีดำและฮิสแปนิคนักเรียน
.
Apparently , DOJ พบว่ามันยากที่จะใช้
เศรษฐศาสตร์วิเคราะห์มาตรฐานการศึกษาวิทยาลัย ถึงแม้ว่านักเรียนเป็นผู้บริโภคของพวกเขา
1นอกจากนี้ ผู้ผลิตในความรู้สึกที่เพื่อนมีผลต่อประสบการณ์ของนักเรียน นักเรียนหลายคนจะชอบวิทยาลัยรักษาต้องช่วยเหลือผู้อื่นตาม แต่ให้
ข้อยกเว้นสำหรับพวกเขาหากพวกเขาล้มเหลวที่จะมีคุณสมบัติ ( หมายเหตุ : ก่อตั้งขึ้นในปี 1920 , nber
เป็นส่วนบุคคล แสวง กลาง องค์กรวิจัย โดยเฉพาะ
ส่งเสริมความเข้าใจที่มากขึ้นของเศรษฐกิจเป็นยังไง nber
การวิจัยที่จัดทำโดยอาจารย์มหาวิทยาลัยกว่า 600 รอบ
ประเทศ )