Primary prevention of acute rheumat

Primary prevention of acute rheumatic fever (the prevention of initial attack) is achieved by treatment of acute throat infections caused by group A streptococcus. This is achieved by up to 10 days of an oral antibiotic (usually penicillin) or a single intramuscular penicillin injection. 

People who have had a previous attack of rheumatic fever are at high risk for a recurrent attack, which worsens the damage to the heart. Prevention of recurrent attacks of acute rheumatic fever is known as secondary prevention. This involves regular administration of antibiotics, and has to be continued for many years. Secondary prevention programmes are currently thought to be more cost effective for prevention of RHD than primary prevention and may be the only feasible option for low- to middle-income countries in addition to poverty alleviation efforts.

Surgery is often required to repair or replace heart valves in patients with severely damaged valves, the cost of which is very high and a drain on the limited health resources of poor countries

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

การป้องกันหลักของไข้รูมาติกเฉียบพลัน (จากการโจมตีเริ่มต้น) จะทำได้ โดยรักษาโรคติดเชื้อคอเฉียบพลันที่เกิดจากกลุ่ม A อุณหภูมิ นี่คือความสำเร็จของยาปฏิชีวนะ (มักยาเพนนิซิลลิน) ทางปากหรือฉีดยาเข้ากล้ามเนื้อเดียวเพนนิซิลลินถึง 10 วัน ผู้ที่เคยโจมตีก่อนหน้าของไข้รูมาติกมีความเสี่ยงสูงสำหรับการโจมตีเกิดขึ้น ที่เลวร้ายเสียหายถึงหัวใจ การป้องกันการโจมตีของไข้รูมาติกเฉียบพลันที่เกิดขึ้นเรียกว่าการป้องกันรอง นี้เกี่ยวข้องกับการบริหารทั่วไปของยาปฏิชีวนะ และมีการดำเนินต่อไปหลายปี โปรแกรมการป้องกันรองอยู่ได้คิดว่า จะประหยัดค่าใช้จ่ายสำหรับป้องกันโรค RHD กว่าการป้องกันหลัก และอาจเป็นตัวเลือกที่เป็นไปได้เท่านั้นสำหรับการกลางรายได้ต่ำประเทศที่นอกเหนือจากความยากจนความพยายามบรรเทาการผ่าตัดมักจะต้องซ่อมแซม หรือเปลี่ยนลิ้นหัวใจในผู้ป่วยที่เสียหายรุนแรงวาล์ว ต้นทุนที่ไม่สูงมากและยังเปลืองทรัพยากรจำกัดสุขภาพประเทศยากจน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การป้องกันระดับปฐมภูมิของโรคไขข้อไข้เฉียบพลัน ( ป้องกันการโจมตี ) ได้โดยการรักษาของโรคติดเชื้อเฉียบพลันคอกลุ่ม Streptococcus . นี้ได้ถึง 10 วันของการรับประทานยาปฏิชีวนะ ( โดยปกติเพนนิซิลิน ) หรือเพื่อ penicillin ฉีด ไหมผู้ที่มีการโจมตีก่อนหน้านี้ของโรคไขข้อไข้มีความเสี่ยงสูงสำหรับการโจมตีเกิดขึ้นอีก ซึ่งเลวร้ายสร้างความเสียหายให้กับหัวใจ ป้องกันการโจมตีของโรคไขข้อไข้กำเริบเฉียบพลัน เรียกว่าการป้องกันทุติยภูมิ นี้เกี่ยวข้องกับการบริหารทั่วไปของยาปฏิชีวนะ และมีต่อเนื่องมาหลายปี โปรแกรมป้องกันที่มีในปัจจุบันคิดเป็นค่าใช้จ่ายมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อป้องกันเลือดกรุ๊ป RhD Negative มากกว่าการป้องกันระดับปฐมภูมิ และอาจเป็นเพียงความเป็นไปได้ ตัวเลือก สำหรับประเทศรายได้ต่ำ - นอกเหนือไปจากความพยายามในการแก้ไขปัญหาความยากจน .การผ่าตัดมักต้องซ่อมหรือเปลี่ยนลิ้นหัวใจในผู้ป่วยที่มีลิ้นเสียหายอย่างรุนแรง ต้นทุนที่สูงมาก และระบายน้ำในทรัพยากรที่ จำกัด สุขภาพของประเทศยากจน