As the steel is heated above the cr

As the steel is heated above the critical temperature, about 1335°F (724°C), it undergoes a phase change, recrystallizing as austenite (i.e. it changes from body centered cubic to face centered cubic) Continued heating to the hardening temperature, 1450°F - 1500°F (788°C - 816°C) ensures complete conversion to austenite, the springs are then cooled suddenly by quenching in a bath of water, a new crystal structure, martensite, is formed as seen in the micro structural analysis above. Martensite is characterized by an angular needle like structure and very high hardness, as seen from the hardness test carried out. While martensitic steel is extremely hard, it is also extremely brittle and will break, chip, and crumble with the slightest shock. Furthermore, internal stresses remain in the spring from the sudden quenching; these will also facilitate breakage of the spring. Tempering relieves these stresses and causes partial decomposition of the martensite into ferrite and cementite. The amount of this partial phase change is controlled by the tempering temperature. The tempered steel is not as hard as pure martensite, but is much tougher. This can be observed from the result tabulated above where by the water quenched sprigs have the highest hardness and are the least ductile from all the springs, but after the water quenched steel were tempered it was observed that the hardness of the spring reduced, the toughness and ductility increased when compared to the water quenched springs.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เป็นเหล็กเป็นอุ่นเหนืออุณหภูมิสำคัญ ประมาณ 1335° F (724° C), มันผ่านการเปลี่ยนแปลงระยะ recrystallizing เป็น austenite (เช่นจะเปลี่ยนจากลูกบาศก์ร่างกายแปลกหน้าแปลกลูกบาศก์) ความร้อนที่อุณหภูมิแข็ง 1450° F - 1500° F (788° C - 816° C) ต่อเนื่องมั่นใจสมบูรณ์แปลง austenite สปริงมีแล้วระบายความร้อนด้วยทันที โดยการชุบในอ่างน้ำ โครงสร้างผลึกใหม่ martensite มีรูปแบบที่เห็นในการวิเคราะห์โครงสร้างขนาดเล็กที่ด้านบน Martensite มีลักษณะตามเข็มเป็นแองกูลาร์เช่นโครงสร้างและความแข็งสูงมาก เห็นจากการทดสอบความแข็งที่ดำเนินการ ขณะเหล็ก martensitic ยากมาก มันก็เปราะมาก และจะทำลาย ชิ และพังทลายกับช็อกเพียงน้อยนิด นอกจากนี้ ความเครียดภายในยังคงอยู่ในฤดูใบไม้ผลิจากฉับพลันชุบ นอกจากนี้เหล่านี้ยังจะช่วยสนับสนุนเคมีฯ ของฤดูใบไม้ผลิ แบ่งเบาบรรเทารักษาอาการเครียดเหล่านี้ และทำให้เน่าบางส่วนของ martensite ที่เป็น ferrite และ cementite จำนวนการเปลี่ยนแปลงขั้นตอนบางส่วนนี้จะถูกควบคุม โดยอุณหภูมิ tempering เหล็กหนาแข็งแรงไม่เป็นยากเป็น martensite บริสุทธิ์ แต่จะรุนแรงมาก นี้สามารถสังเกตได้จากผลที่สนับสนุนด้านบนที่น้ำ quenched sprigs มีความแข็งสูงสุด และ ductile น้อยจากน้ำพุทั้งหมด แต่หลังจากที่เหล็กน้ำ quenched ถูกอารมณ์ มันถูกตรวจสอบว่า ความแข็งของฤดูใบไม้ผลิลดลง นึ่งและเกิดความเหนียวโดยเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับสปริงน้ำ quenched

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ในฐานะที่เป็นเหล็กที่มีความร้อนสูงกว่าอุณหภูมิวิกฤตประมาณ 1,335 ° F (724 ° C) มันผ่านการเปลี่ยนแปลงขั้นตอนการ recrystallizing เป็น austenite (คือมันมีการเปลี่ยนแปลงจากร่างกายศูนย์กลางลูกบาศก์ที่จะเผชิญกับศูนย์กลางลูกบาศก์) ต่อความร้อนที่อุณหภูมิชุบแข็งที่ 1450 ° F - 1500 ° F (788 ° C - 816 ° C) เพื่อให้แน่ใจว่าการแปลงที่สมบูรณ์เพื่อ austenite สปริงที่มีการระบายความร้อนด้วยแล้วก็โดยดับในห้องอาบน้ำของน้ำซึ่งเป็นโครงสร้างผลึกใหม่ martensite จะถูกสร้างขึ้นเท่าที่เห็นในไมโครโครงสร้าง การวิเคราะห์ข้างต้น martensite ที่โดดเด่นด้วยเข็มเชิงมุมเช่นโครงสร้างและความแข็งสูงมากเท่าที่เห็นจากการทดสอบความแข็งไปดำเนินการ ในขณะที่เหล็ก martensitic จะยิ่งยากก็ยังเป็นอย่างมากเปราะและจะทำลายชิปและสลายด้วยความตกใจแม้แต่น้อย นอกจากนี้ความเครียดภายในยังคงอยู่ในฤดูใบไม้ผลิจากดับฉับพลันนั้น เหล่านี้จะอำนวยความสะดวกในการแตกของฤดูใบไม้ผลิ แบ่งเบาบรรเทาความเครียดเหล่านี้ทำให้เกิดการสลายตัวและบางส่วนของ martensite ลงเฟอร์ไรท์และซีเมน จำนวนเงินของการเปลี่ยนแปลงขั้นตอนบางส่วนนี้จะถูกควบคุมโดยอุณหภูมิการแบ่งเบาบรรเทา เหล็กเป็นอารมณ์ไม่ยากอย่างที่ martensite บริสุทธิ์ แต่เป็นเรื่องที่ยากขึ้น นี้สามารถสังเกตได้จากผล tabulated ดังกล่าวข้างต้นที่โดยน้ำก้านดับมีความแข็งสูงที่สุดและเป็นเหนียวน้อยจากน้ำพุทั้งหมด แต่หลังจากที่เหล็กดับน้ำที่ถูกอารมณ์ที่มันถูกตั้งข้อสังเกตว่ามีความแข็งของฤดูใบไม้ผลิลดความเหนียว และความเหนียวเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับน้ำพุน้ำดับ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เป็นเหล็กมีอุณหภูมิสูงกว่าอุณหภูมิวิกฤตประมาณ 355 องศา F ( 333 องศา C ) มันผ่านการเปลี่ยนเฟส recrystallizing เป็น austenite ( คือมันเปลี่ยนจากร่างกายเป็นสำคัญ ลูกบาศก์จะทิ่มตำ ) ยังคงความร้อนขึ้นอุณหภูมิ 1450 ° F - 1500 ° F ( 788 / C - 816 ° C ) เพื่อให้แน่ใจว่าการแปลงเสร็จสมบูรณ์เพื่อ austenite , สปริงแล้วเย็นทันที โดยการชุบในอ่างของน้ำคริสตัลอันใหม่โครงสร้างมาร์เทนไซต์ , มีรูปแบบตามที่เห็นในไมโครโครงสร้างการวิเคราะห์ข้างต้น มาร์เทนไซต์มีลักษณะเป็นเข็ม ใบหน้าเหมือนโครงสร้างและความแข็งสูงมาก เห็นได้จากความแข็งทดสอบการ ในขณะที่มาร์เทนซิติกเหล็กยากมาก มันยังเปราะบางมาก และจะแบ่ง ขนม และสลายด้วยตกใจเลยแม้แต่น้อย นอกจากนี้ความเครียดภายในยังคงอยู่ในฤดูใบไม้ผลิจากดับฉับพลัน เหล่านี้จะช่วยในการแตกของฤดูใบไม้ผลิ การแบ่งเบาบรรเทาความเครียดเหล่านี้ทำให้เกิดการย่อยสลายบางส่วนของมาร์เทนไซต์เป็นเฟอร์ไรท์และซีเมนไตต์ . จำนวนนี้บางส่วนจะถูกควบคุมโดยการเปลี่ยนเฟสที่อุณหภูมิ นิสัยเหล็กไม่ยากอย่างบริสุทธิ์ มาร์เทนไซต์ แต่จะรุนแรงมาก .นี้สามารถสังเกตได้จากผลการทดสอบตามข้างต้นแล้ว โดยน้ำดับ sprigs มีความแข็งสูงและมีอย่างน้อยอ่อนจากสปริงทั้งหมด แต่หลังจากน้ำดับเหล็กเป็นนิสัยและพบว่าค่าความแข็งของ สปริงลดลง ความทนทานและความเหนียวเพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับน้ำดับ สปริง