The Legislative Council had 130 mem

The Legislative Council had 130 members, of which 80 were elected and 50 appointed by the British authorities.[2] All citizens over the age of 18 were enfranchised as long as they met certain requirements.[3] Suffrage in the 44 rural constituencies was based on taxation - in Upper Burma voters had to pay household tax, whilst in Lower Burma they had to pay the married rate of capitation tax.[3] This requirement disenfranchised most of the peasantry.[2] In eight towns with urban constituencies the same requirements as for local elections were applied.[3] Of the country's 12 million population, only 1.8 million were eligible to vote,[2] as the Shan States and some border districts were not part of the election.[3] Separate seats were established for Karen, Eurasians and Europeans.[4]

Candidates had to be aged 25 or over.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

สภาสภามีสมาชิก 130 ที่ 80 ได้รับการเลือกตั้ง และ 50 แต่งตั้ง โดยเจ้าหน้าที่ชาวอังกฤษ[2] ประชาชนทั้งหมดผ่านอายุ 18 ได้ enfranchised ตราบใดที่พวกเขาได้พบกับความต้อง[3] suffrage ในชุมชนชนบทที่ 44 ถูกตามภาษี - ในพม่าด้านบนที่มีผู้ลงคะแนนต้องจ่ายภาษีในครัวเรือน ในขณะที่ในพม่าด้านล่าง พวกเขาต้องจ่ายอัตราภาษี capitation สมรส[3] ความต้องการนี้กลุ่มใหญ่กันที่[2] ในเมืองแปดกับชุมชนเมือง มีใช้ข้อกำหนดเดียวกันสำหรับการเลือกตั้งท้องถิ่น[3] ของของประเทศ 12 ล้านประชากร เพียง 1.8 ล้านมีสิทธิลงคะแนนเสียง, [2] เป็นรัฐฉาน และบางขอบเขตไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของการเลือกตั้ง[3] ที่นั่งแยกก่อกะเหรี่ยง Eurasians และชาวยุโรป[4]ผู้สมัครมีอายุจะ 25 หรือเกิน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

สภานิติบัญญัติมี 130 คนซึ่งได้รับการเลือกตั้ง 80 และ 50 ได้รับการแต่งตั้งโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจอังกฤษ. [2] พลเมืองอายุ 18 ปีขึ้นไปได้รับสัมปทานตราบเท่าที่พวกเขาได้พบกับความต้องการบางอย่าง. [3] อธิษฐานใน 44 เขตเลือกตั้งในชนบทเป็น ขึ้นอยู่กับการจัดเก็บภาษี - ผู้มีสิทธิเลือกตั้งในสังคมพม่าต้องจ่ายเงินภาษีที่ใช้ในครัวเรือนในขณะที่พม่าพวกเขาจะต้องจ่ายอัตราการแต่งงานของภาษีรายหัว [3] ข้อกำหนดนี้สิทธิ์ส่วนใหญ่ของชาวนา [2] ในแปดเมืองที่มีการเลือกตั้งในเมือง.. ความต้องการเช่นเดียวกับการเลือกตั้งท้องถิ่นถูกนำไปใช้. [3] ของประชากร 12 ล้านของประเทศ 1.8 ล้านคนมีสิทธิ์ที่จะลงคะแนนเสียง [2] ในขณะที่สหรัฐอเมริกาฉานและหัวเมืองชายแดนบางคนได้เป็นส่วนหนึ่งของการเลือกตั้ง. [3] ที่นั่งเฉพาะกิจ ถูกจัดตั้งขึ้นมาเพื่อชาวกะเหรี่ยง, ยุโรปและเอเชียและยุโรป. [4] ผู้สมัครจะต้องมีอายุ 25 ปีขึ้นไป

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

สภานิติบัญญัติมี 130 สมาชิกของ 80 ซึ่งได้รับเลือกตั้งและ 50 ได้รับการแต่งตั้งโดยเจ้าหน้าที่อังกฤษ [ 2 ] ประชาชนอายุ 18 เป็น enfranchised ตราบเท่าที่พวกเขาได้พบกับความต้องการบางอย่าง . [ 3 ] การออกเสียงเลือกตั้งในเขตเลือกตั้ง 44 ชนบทขึ้นอยู่กับภาษี - สังคมในพม่า ผู้มีสิทธิเลือกตั้งจะต้องจ่ายภาษีครัวเรือน ขณะที่ในพม่าตอนล่าง พวกเขาต้องจ่ายในอัตราการแต่งงานของภาษีรัชชูปการ .[ 3 ] ความต้องการนี้ถูกตัดสิทธิ์ชาวนาส่วนใหญ่ [ 2 ] ในแปดเมืองในเขตเลือกตั้งเดียวกันความต้องการสำหรับการเลือกตั้งท้องถิ่นมาประยุกต์ [ 3 ] ในประเทศ 12 ล้านคน เพียง 1.8 ล้าน มีสิทธิออกเสียง [ 2 ] เป็นรัฐฉาน และบางเขตชายแดนไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของการเลือกตั้ง [ 3 ] แยกที่นั่งขึ้นสำหรับคาเรน eurasians และยุโรป [ 4 ]

ผู้สมัครต้องอายุ 25 ขึ้นไป