CHEVRON Thailand may be hit with a

CHEVRON Thailand may be hit with a tax bill of close to Bt7 billion, said an informed source at the Finance Ministry.
Finance Minister Apisak Tantivorawong has been asked by the Office of the Auditor-General to collect back taxes from Chevron Thailand, a giant producer of natural gas and crude oil.
The tax examination started when current Customs Department director-general Kulit Sombatsiri questioned the previous customs and tax procedures relating to oil transported to be used at oil rigs in the Gulf of Thailand, which resulted in Chevron paying no tax for oil it transported to its offshore oil rigs since 2001.
Kulit raised the point that oil sent by Chevron Thailand to its offshore rigs should not be counted as exports.
As a result of this new interpretation of tax law, Chevron should have paid an excise tax, an Oil Fund levy and 7 per cent value-added tax since 2001.
The Bt7-billion collection figure could include a tax surcharge as well as a fine, according to the source.
The source said the company might be spared the fine if it acted in good faith after receiving advice on the matter from the Customs Department but it might not be spared the tax surcharge of 1.5 per cent.
Thailand's sovereignty rights are at the heart of the issue, as there are two schools of thought on this subject among customs officials.
Since 2001, oil transported by Chevron to its offshore rigs has been counted as exports by the Customs Department, with customs officials referring to Thailand's maritime claim stipulating that its territorial sovereignty does not exceed 12 nautical miles.
So oil transported farther than 12 nautical miles from the coast must be counted as exports and benefit from a tax exemption.
However, the Revenue Code and Petroleum Act extend Thailand's sovereignty rights to cover 200 nautical miles of an exclusive economic zone and continental shelf. So oil transported within the 200-mile radius should not be counted as exports and as such should be subject to a tax payment.
Apisak is likely to agree with this argument, according to the source.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เชฟรอนประเทศไทยอาจตีกับใบกำกับภาษีของใกล้ Bt7 หนึ่งแสนล้าน กล่าวว่า เป็นแหล่งข้อมูลที่กระทรวงการคลัง ขอรัฐมนตรีว่าอภิศักดิ์ตันติวรวงศ์ โดยสำนักงานตรวจเงินจะเก็บภาษีหลังจากเชฟรอนประเทศไทย ยักษ์ผู้ผลิตก๊าซธรรมชาติและน้ำมันดิบ ตรวจสอบภาษีที่เริ่มเมื่อปัจจุบันกรมศุลกากรอธิบดีเลทเทอร์กู๊ด Sombatsiri ศุลกากรก่อนหน้านี้ และขั้นตอนภาษีน้ำมันที่ขนส่งที่จะใช้ที่ rigs น้ำมันในอ่าวไทย ซึ่งผลในการจ่ายเงินไม่มีภาษีสำหรับน้ำมันที่จะส่งไป rigs น้ำมันนอกชายฝั่งตั้งแต่ 2001 เชฟรอน เลทเทอร์กู๊ดยกจุดที่น้ำมันส่ง โดยเชฟรอนไทยไป rigs ของต่างประเทศควรไม่นับเป็นการส่งออก จากการตีความใหม่นี้ด้านกฎหมายภาษี เชฟรอนควรจ่ายเป็นภาษีสรรพสามิต levy กองทุนน้ำมัน และภาษีมูลค่าเพิ่มร้อยละ 7 ตั้งแต่ 2001 รูป Bt7 พันคอลเลกชันอาจรวมถึงค่าธรรมเนียมภาษีตลอดจนปรับ ตามแหล่งที่มา แหล่งที่มาว่า บริษัทอาจงดเว้นการดีหากปฏิบัติสุจริตหลังจากได้รับคำแนะนำเกี่ยวกับเรื่องนี้จากกรมศุลกากรแต่มันอาจไม่งดเว้นค่าธรรมเนียมภาษีของ 1.5 เปอร์เซ็นต์ สิทธิอธิปไตยของประเทศไทยคือหัวใจของปัญหา มีสองโรงเรียนของความคิดในเรื่องนี้ระหว่างเจ้าหน้าที่ศุลกากร ตั้งแต่ 2001 น้ำมันขนส่งเชฟรอนไป rigs ของต่างประเทศถูกนับเป็นการส่งออกของกรมศุลกากร กับเจ้าหน้าที่ศุลกากรหมายถึงข้อเรียกร้องทางทะเลของไทยดูถูกว่า ของแดนไม่เกิน 12 ไมล์ทะเล ดังนั้น น้ำมันที่ขนส่ง farther than 12 ไมล์ทะเลจากชายฝั่งต้องนับเป็นการส่งออก และได้รับประโยชน์จากการยกเว้นภาษี อย่างไรก็ตาม ประมวลรัษฎากรและพระราชบัญญัติปิโตรเลียมขยายสิทธิอธิปไตยของประเทศไทยครอบคลุม 200 ไมล์ทะเลของเขตเศรษฐกิจจำเพาะและชั้นวางของคอนติเนนตัล ดังนั้นน้ำมันที่ขนส่งภายในรัศมี 200 กิโลเมตรไม่ควรนับ เป็นการส่งออก และเป็นเช่นนี้ ควรจะต้องชำระภาษี อภิศักดิ์เป็นแนวโน้มที่จะยอมรับอาร์กิวเมนต์นี้ ตามแหล่งที่มา

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

บริษัท เชฟรอนประเทศไทยอาจได้รับผลกระทบกับการเรียกเก็บเงินภาษีของใกล้ถึง 7 บาทพันล้านกล่าวว่าแหล่งข่าวที่กระทรวงการคลัง.
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังอภิศักดิ์ตันติวรวงศ์ได้รับการถามโดยสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินใหญ่ที่จะเก็บภาษีย้อนหลังจาก บริษัท เชฟรอนประเทศไทยซึ่งเป็นผู้ผลิตยักษ์ใหญ่ ก๊าซธรรมชาติและน้ำมันดิบ.
ตรวจสอบภาษีที่เริ่มต้นเมื่อปัจจุบันกรมศุลกากรอธิบดี Kulit สมบัติถามศุลกากรก่อนหน้านี้และขั้นตอนการเสียภาษีที่เกี่ยวข้องกับน้ำมันเคลื่อนย้ายไปยังนำมาใช้ในแท่นขุดเจาะน้ำมันในอ่าวไทยซึ่งส่งผลให้เชฟรอนจ่ายไม่ต้องเสียภาษี สำหรับน้ำมันมันส่งไปที่แท่นขุดเจาะน้ำมันในต่างประเทศตั้งแต่ปี 2001
Kulit ยกจุดที่น้ำมันที่ส่งมาจาก บริษัท เชฟรอนประเทศไทยไปยังแท่นขุดเจาะนอกชายฝั่งไม่ควรถูกนับเป็นการส่งออก.
ในฐานะที่เป็นผลมาจากการตีความใหม่ของกฎหมายภาษีเชฟรอนควรจะได้จ่ายภาษีสรรพสามิต ภาษีที่จัดเก็บกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงและ 7 ต่อภาษีมูลค่าเพิ่มร้อยตั้งแต่ปี 2001
7 บาทพันล้านรูปที่คอลเลกชันอาจรวมถึงการคิดค่าใช้จ่ายภาษีเช่นเดียวกับการปรับตามแหล่งที่มา.
แหล่งข่าวกล่าวว่า บริษัท อาจจะมีการงดเว้นดีถ้า มันทำหน้าที่ในความเชื่อที่ดีหลังจากที่ได้รับคำแนะนำเกี่ยวกับเรื่องจากกรมศุลกากร แต่มันอาจจะไม่รอดคิดค่าใช้จ่ายภาษีร้อยละ 1.5.
สิทธิอธิปไตยของไทยที่เป็นหัวใจของปัญหาเช่นมีสองโรงเรียนแห่งความคิดในเรื่องนี้ ในหมู่เจ้าหน้าที่ศุลกากร.
ตั้งแต่ปี 2001 น้ำมันขนส่งโดยเชฟรอนจะแท่นขุดเจาะนอกชายฝั่งที่ได้รับนับเป็นมูลค่าการส่งออกโดยกรมศุลกากรกับเจ้าหน้าที่ศุลกากรหมายถึงการเรียกร้องทางทะเลของประเทศไทยเงื่อนไขที่ว่าอธิปไตยเหนือดินแดนของไม่เกิน 12 ไมล์ทะเล.
ดังนั้นน้ำมันส่งได้ไกลกว่า 12 ไมล์ทะเลจากชายฝั่งจะต้องนับการส่งออกและได้รับประโยชน์จากการได้รับการยกเว้นภาษี.
อย่างไรก็ตามในประมวลรัษฎากรและพระราชบัญญัติปิโตรเลียมขยายสิทธิอธิปไตยของไทยเพื่อให้ครอบคลุม 200 ไมล์ทะเลของเขตเศรษฐกิจพิเศษและไหล่ทวีป ดังนั้นน้ำมันส่งภายในรัศมี 200 ไมล์ไม่ควรนับเป็นการส่งออกและเป็นเช่นนี้ควรจะเป็นเรื่องการจ่ายภาษี.
อภิศักดิ์มีแนวโน้มที่จะเห็นด้วยกับเรื่องนี้ตามแหล่งที่มา

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

บริษัท เชฟรอนประเทศไทยอาจจะถูกตีด้วยเงินภาษีเกือบ 10 ล้านบาท กล่าวว่า เป็นกระแสข่าวที่กระทรวงการคลัง .รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังรัฐมนตรีว่าการรังสรรค์ได้รับการถามโดยสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินในการเก็บภาษีจากบริษัท เชฟรอนประเทศไทย เป็นผู้ผลิตยักษ์ของก๊าซธรรมชาติและน้ำมันดิบการตรวจสอบภาษีเริ่มต้นเมื่ออธิบดีกรมศุลกากรในปัจจุบัน นงนุช สอบสวนศุลกากรและภาษีที่เกี่ยวข้องกับน้ำมันก่อนกระบวนการขนส่งเพื่อใช้ในแท่นขุดเจาะน้ำมันในอ่าวไทย ซึ่งส่งผลให้เชฟรอน จ่ายภาษีสำหรับน้ำมันของแท่นขุดเจาะน้ำมันนอกชายฝั่ง มันส่งไปตั้งแต่ปี 2001รายกจุดที่น้ำมันที่ถูกส่งโดย บริษัท เชฟรอนประเทศไทยของแท่นขุดเจาะในต่างประเทศไม่ควรนับเป็นการส่งออกผลของการตีความใหม่ของกฎหมายภาษี , เชฟรอน น่าจะจ่ายเป็นภาษีสรรพสามิต , การจัดเก็บกองทุนน้ำมัน และภาษีมูลค่าเพิ่ม 7 เปอร์เซ็นต์ ตั้งแต่ปี 2001รูปที่ 10 พันล้านคอลเลกชันสามารถรวมภาษีค่าธรรมเนียมรวมทั้งปรับ ตามแหล่งที่มาแหล่งข่าวกล่าวว่า บริษัทอาจจะรอดก็ได้ถ้ามันทำในความเชื่อที่ดีหลังจากที่ได้รับคำแนะนำในเรื่องจากกรมศุลกากร แต่มันอาจจะไม่รอดภาษี คิดค่าบริการ 1.5 เปอร์เซ็นต์ .สิทธิในอธิปไตยของไทยที่เป็นหัวใจของปัญหา เพราะมี 2 โรงเรียนของความคิดในเรื่องนี้ระหว่างเจ้าหน้าที่ของศุลกากรตั้งแต่ปี 2001 , น้ำมันของแท่นขุดเจาะนอกชายฝั่งขนส่ง โดยเชฟรอนได้นับเป็นการส่งออกจากกรมศุลกากร พร้อมเจ้าหน้าที่ศุลกากรหมายถึงประเทศไทยเรียกร้องระบุว่าดินแดนอธิปไตยทางทะเลของไม่เกิน 12 ไมล์ทะเลดังนั้นน้ำมันขนส่งมากกว่า 12 ไมล์ทะเลจากชายฝั่งจะถูกนับเป็นการส่งออกและได้รับประโยชน์จากการยกเว้นภาษีอย่างไรก็ตาม ประมวลรัษฎากร และกฎหมายปิโตรเลียมขยายสิทธิอธิปไตยของประเทศไทยครอบคลุม 200 ไมล์ทะเลของเขตเศรษฐกิจพิเศษและไหล่ทวีป . ดังนั้นน้ำมันขนส่งภายในรัศมี 200 ไมล์ ไม่ควรนับเป็นการส่งออกและดังกล่าวควรจะต้องจ่ายภาษีอภิชัย มีแนวโน้มที่จะเห็นด้วยกับอาร์กิวเมนต์นี้ , ตามแหล่งที่มา