วัตถุประสงค์ของการวิจัยเพื่อการศึกษาผลกระทบของประสิทธิภาพการบริหารความเสี่ยงที่มีผลต่อการดำเนินงานในการเตรียมตัวก่อนเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนของธุรกิจ SMEs ในกลุ่มค้าปลีกเขตกรุงเทพมหานคร โดยทำการเก็บรวบรวมข้อมูลจากผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการดำเนินงาน SME s ในกลุ่มการค้าปลีกเขตกรุงเทพมหานคร จำนวน 330 คน โดยมีการใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ T-test, F-test (ANOVA) การวิเคราะห์สหสัมพันธ์พหุคูณ
ผลการวิจัย พบว่ากลุ่มธุรกิจการค้าปลีกส่วนใหญ่เป็นกิจการของคนไทย รูปแบบธุรกิจแบบห้างหุ้นส่วนมีประสิทธิภาพการบริหารความเสี่ยงและผลการดำเนินงานมากกว่ารูปแบบบุคคลธรรมดาธุรกิจSMEs ค้าปลีกที่มีทุนจดทะเบียน ระยะเวลาในการดำเนินงาน และจำนวนพนักงานที่แตกต่างกันส่งผลต่อประสิทธิภาพการบริหารความเสี่ยงโดยรวมด้านการระบุความเสี่ยง ด้านการประเมินความเสี่ยง ด้านการจัดการความเสี่ยง และด้านการติดตามประเมินผลและการรายงานแตกต่างกัน แต่จำนวนพนักงานที่แตกต่างกันไม่ส่งผลต่อด้านวัตถุประสงค์ในการบริหารความเสี่ยง ส่วนผลการดำเนินงานธุรกิจ SMEs ค้าปลีก ที่มีทุนจดทะเบียน และระยะเวลาในการดำเนินงานที่แตกต่างกันส่งผลต่อการดำเนินงานที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นด้านลูกค้า ด้านกระบวนการภายในองค์กร ด้านการเรียนรู้และพัฒนา ด้านการเงิน แต่ธุรกิจ SMEs ค้าปลีกที่มีจำนวนพนักงานแตกต่างกันไม่ส่งผลต่อการดำเนินงาน พิจารณาความสัมพันธ์พบว่าประสิทธิภาพการบริหารความเสี่ยงของธุรกิจมีความสัมพันธ์และผลกระทบต่อผลการดำเนินงาน ดังนั้น ธุรกิจ SMEs ค้าปลีกต้องคอยดูแล ประเมินสถานการณ์ต่างๆเพื่อควบคุมความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นทั้งภายในและภายนอกองค์กร เพื่อป้องกันหรือลดผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นต่อผลการดำเนินงาน