This information was prepared by th

This information was prepared by the National Cannabis Prevention and Information Centre in Australia, and used with permission. Some information may not be
accurate for U.S. readers.
Marijuana is the most widely used illicit drug in the Western world and, correspondingly, is frequently detected via urine testing1,2
in the workplace and in competitive sport.3 Urine testing in the workplace is conducted under the assumption that the substance in
question reduces productivity and increases risk of workplace accidents (thus is an ‘ergolytic’ drug).4 However, urine testing in
competitive sport is conducted under the assumption that the substance in question unfairly increases performance (thus is an
‘ergogenic’ drug).5 This begs the question, what role does marijuana really play in competitive sports?
Participation in competitive sports has been shown to be a protective factor against drug use6 with the notable exception of anabolic
steroids and other performance enhancing substances.7-12 It has been posited that some athletes are driven to use a range of
substances, including alcohol, due to increased pressure resulting from difficulties in balancing a social life along with full course
loads, as well as sport practice and work outs.13,14 Studies on the prevalence of performance enhancing substances in competitive
sport highlight that two to three per cent of adolescents (most studies are conducted with students) have used at least one substance,
although the frequency of performance enhancing substance use is likely to be higher for males compared to females,
older competitors compared to younger competitors and for competitors in a higher or more intensive level of competition.15-22
However, the information available on the frequency of marijuana and other illicit drug use by athletes is less clear.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ข้อมูลนี้ถูกเตรียมป้องกันกัญชาแห่งชาติและศูนย์ข้อมูลในออสเตรเลีย และใช้สิทธิ์ ข้อมูลบางอย่างอาจไม่ถูกต้องสำหรับผู้อ่านในสหรัฐอเมริกากัญชาเป็นยาเสพติดลักลอบใช้กันอย่างแพร่หลายในโลกตะวันตก และ ตามลำดับ มักตรวจพบทางปัสสาวะ testing1, 2ในทำงาน และ ในการแข่งขัน sport.3 ปัสสาวะทดสอบในทำงานจะดำเนินการภายใต้สมมติฐานที่สารในคำถามลดประสิทธิภาพ และเพิ่มความเสี่ยงของอุบัติเหตุที่ทำงาน (จึงเป็นยา 'ergolytic') .4 ไร ทดสอบในปัสสาวะแข่งขันกีฬาจะดำเนินการภายใต้สมมติฐานที่ว่า สารในคำถาม unfairly เพิ่มประสิทธิภาพ (จึงมี'ergogenic' ยาเสพติด) ครั้งที่ 5 นี้ begs คำถาม กัญชาไม่ว่าบทบาทจริง ๆ เล่นกีฬาแข่งขันมีส่วนร่วมในการแข่งขันกีฬาที่ได้รับการแสดงเป็น ปัจจัยป้องกันต่อต้านยาเสพติด use6 โดดเด่นยกเว้น anabolicสเตอรอยด์และประสิทธิภาพอื่น ๆ เพิ่มมันได้ได้ posited ที่ นักกีฬาบางคนจะขับเคลื่อนใช้ช่วง 12 substances.7สาร แอลกอฮอล์ ไปจนถึงครบกำหนดการเพิ่มความดันที่เกิดจากความยากลำบากในการสร้างสมดุลชีวิตสังคม ด้วยหลักสูตรเต็มโหลด เป็นกีฬาฝึก และศึกษา outs.13,14 ทำงานในส่วนของประสิทธิภาพที่เพิ่มประสิทธิภาพในการแข่งขันเน้นกีฬาที่สองถึงสามร้อยละของวัยรุ่น (ส่วนใหญ่การศึกษาจะดำเนินการกับนักเรียน) ใช้สารน้อยถึงแม้ว่าใช้ความถี่ของสารส่งเสริมประสิทธิภาพการทำงาน มีแนวโน้มที่จะสูงสำหรับเปรียบเทียบกับหญิง ชายคู่แข่งเก่าเปรียบเทียบ กับคู่แข่งน้อย และคู่แข่งในระดับสูงขึ้น หรือเข้มข้นขึ้นของ competition.15-22อย่างไรก็ตาม ข้อมูลที่พร้อมใช้งานบนความถี่ของกัญชาและใช้ยาเสพติดผิดกฎหมายอื่น ๆ โดยนักกีฬามีน้อยชัดเจน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ข้อมูลนี้ถูกจัดทำขึ้นโดยการป้องกันกัญชาแห่งชาติและศูนย์ข้อมูลในประเทศออสเตรเลียและใช้ที่มีสิทธิ์
ข้อมูลบางอย่างอาจจะไม่ถูกต้องสำหรับผู้อ่านที่สหรัฐ.
กัญชาเป็นส่วนใหญ่ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายยาที่ผิดกฎหมายในโลกตะวันตกและกลมกลืนมีการตรวจพบบ่อยผ่าน testing1,2
ปัสสาวะในสถานที่ทำงานและในการทดสอบปัสสาวะsport.3 การแข่งขันในสถานที่ทำงานจะดำเนินการ
ภายใต้สมมติฐานว่าสารในคำถามที่จะช่วยลดการผลิตและเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดอุบัติเหตุในสถานที่ทำงาน(จึงเป็นยาเสพติด 'ergolytic) 0.4
อย่างไรก็ตามการทดสอบปัสสาวะในการแข่งขันกีฬาจะดำเนินการภายใต้สมมติฐานว่าสารในคำถามเป็นธรรมผลการดำเนินงานเพิ่มขึ้น(จึงเป็น
ยาเสพติด 'ergogenic) 0.5 นี้ begs คำถามที่ว่าสิ่งที่มีบทบาทไม่กัญชาจริงๆเล่นในการแข่งขันกีฬา?
มีส่วนร่วมในการแข่งขันกีฬาได้รับการแสดงจะเป็นปัจจัยป้องกัน use6 ยาเสพติดด้วยความทึ่งยกเว้นของ anabolic
เตียรอยด์และประสิทธิภาพการทำงานอื่น ๆ เสริมสร้างสาร 0.7-12 จะได้รับการ posited ว่านักกีฬาบางคนถูกผลักดันที่จะใช้ช่วงของสารรวมทั้งเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เนื่องจากความดันที่เพิ่มขึ้นเป็นผลมาจากความยากลำบากในการปรับสมดุลชีวิตทางสังคมพร้อมกับหลักสูตรเต็มรูปแบบโหลดเช่นเดียวกับการปฏิบัติการกีฬาและลึกหนาบางงาน13,14 ศึกษาความชุกของการเสริมสร้างประสิทธิภาพการทำงานของสารในการแข่งขันกีฬาไฮไลท์ที่สองถึงสามร้อยละของวัยรุ่น(การศึกษาส่วนใหญ่จะดำเนินการกับนักเรียน) ได้ใช้เวลาอย่างน้อยหนึ่งสารแม้ว่าความถี่ของการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้สารมีแนวโน้มที่จะสำหรับเพศชายที่สูงขึ้นเมื่อเทียบกับหญิงคู่แข่งที่มีอายุมากกว่าเมื่อเทียบกับคู่แข่งที่อายุน้อยกว่าและคู่แข่งในระดับที่สูงขึ้นหรืออย่างเข้มข้นมากขึ้นของ competition.15-22 อย่างไรก็ตามข้อมูลที่มีอยู่กับความถี่ของกัญชาและอื่น ๆ ที่ใช้ยาเสพติดที่ผิดกฎหมายโดยนักกีฬาไม่ชัดเจน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ข้อมูลนี้ถูกเตรียมโดยศูนย์ข้อมูลแห่งชาติป้องกัน และกัญชาในออสเตรเลีย และใช้ที่มีสิทธิ์ ข้อมูลบางอย่างอาจไม่ถูกต้องสำหรับผู้อ่าน
. .
กัญชาเป็นยาเถื่อนที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในโลกตะวันตก และต้องกัน , มักพบผ่านทางปัสสาวะ testing1,2
ในสถานที่ทำงานและในกีฬาที่แข่งขัน3 ปัสสาวะทดสอบในสถานที่ทำงานจะดำเนินการภายใต้ข้อสมมติว่าสารใน
คำถามลดผลผลิตและเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดอุบัติเหตุในสถานที่ทำงาน ( จึงเป็น ' ' ergolytic ยา ) 4 อย่างไรก็ตาม ปัสสาวะทดสอบ
การแข่งขันกีฬาจะดําเนินการภายใต้สมมติฐานว่า สารเพิ่มประสิทธิภาพ ( ในคำถามที่ไม่เป็นธรรม จึงเป็น 'ergogenic
ยา ' ) . 5 นี้ begs คำถาม ,บทบาทอะไรไม่กัญชาจริงๆเล่นแข่งขันกีฬา ?
มีส่วนร่วมแข่งขันกีฬาได้ถูกแสดงเป็น ป้องกัน ต้านยาเสพติด use6 ด้วยข้อยกเว้นของเตียรอยด์ anabolic และเพิ่มประสิทธิภาพอื่น ๆ
substances.7-12 ได้รับการ posited ว่านักกีฬาบางคนจะขับเคลื่อนการใช้ช่วงของ
สาร ได้แก่ แอลกอฮอล์เนื่องจากการเพิ่มความดันที่เกิดจากความสมดุลชีวิตสังคมพร้อมกับโหลดหลักสูตร
เต็ม รวมทั้งการฝึกกีฬาและออกไปทำงาน 13,14 การศึกษาความชุกสารเสริมประสิทธิภาพในไฮไลท์กีฬาแข่งขัน
ที่ 2 ถึง 3 ร้อยละของวัยรุ่น ( การศึกษาส่วนใหญ่จะดำเนินการกับนักเรียน ) มีการใช้อย่างน้อยหนึ่งสาร
,แม้ว่าความถี่ในการเสริมประสิทธิภาพการใช้สารเสพติดมีแนวโน้มที่จะสูงขึ้นสำหรับเพศชายเมื่อเทียบกับเพศหญิง
คู่แข่งเก่าเมื่อเทียบกับคู่แข่ง และคู่แข่งในเด็กสูงกว่าหรือมากกว่าระดับเข้มข้นของการแข่งขัน 15-22 ปี
อย่างไรก็ตาม ข้อมูลพร้อมใช้งานบนความถี่ของกัญชาและอื่น ๆ การใช้ยา โดยนักกีฬามีความชัดเจนน้อยลง