เบ็คแฮม เริ่มต้นชีวิตในวัยเด็กที่มหานครลอนดอน และได้รับอิทธิพลและการปลูกฝังความรักที่มีต่อทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จากเท็ด เบ็คแฮม บิดาที่มักจะหอบหิ้วเจ้าหนูเดวิด ไปชมเกมของเร้ด เดวิลส์ ที่สนามโอลด์ แทรฟฟอร์ดบ่อยๆ และสิ่งนี้ได้กลายเป็นความผูกพันชั่วชีวิตของเบ็คแฮม ที่มีต่อทีมปีศาจแดง
พรสวรรค์ของเบ็คแฮม เริ่มโดดเด่นเหนือเพื่อนร่วมรุ่นและเป็นกำลังสำคัญในการพาทีมคว้าแชมป์เอฟเอ ยูธคัพ ในปี 1992 โดยเป็นผู้ทำประตูชัยให้ทีมเอาชนะคริสตัล พาเลซ ได้ด้วยในเกมนัดที่ 2 ก่อนที่จะได้รับโอกาสจากอเล็กซ์ เฟอร์กูสันให้ขึ้นมาสู่ทีมชุดใหญ่
เบ็คแฮม ลงสัมผัสเกมแรกให้กับทีมชุดใหญ่ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในปี 1992 ด้ยการลงเป็นตัวสำรองในเกมลีก คัพ ในนัดที่พบกับไบรจ์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน ก่อนจะได้เซ็นสัญญาอาชีพฉบับแรก แต่ก็ยังต้องอยู่ในทีมชุดสำรองเป็นส่วนใหญ่ กระนั้นก็ยังพาทีมคว้าแชมป์ลีกสำรองได้
ในฤดูกาล 1994-1995 เฟอร์กี้ ส่งเบ็คแฮม ไปขัดเกลาตัวเองที่เปรสตัน นอร์ธ เอนด์ ซึ่งเบ็คแฮม ก็ได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์ในการเล่นเป็นทีมตัวจริงอย่างเต็มที่ก่อนที่จะกลับมาและมีโอกาสลงเล่นในเกมพรีเมียร์ลีก เกมแรกในเกมที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พบกับคู่แค้นอย่างทีม "ยูงทอง" ลีดส์ ยูไนเต็ด ในวันที่ 2 เม.ย.1995 และเริ่มเข้ามามีส่วนในทีมชุดใหญ่ของเฟอร์กี้ มากขึ้นเรื่อยๆพร้อมกับเพื่อนร่วมรุ่นอีกหลายคนอย่าง แกรี่-ฟิล พี่น้องเนวิลล์ ,นิคกี้ บัตต์ ,พอล สโคลส์ ที่เป็นที่รู้จักกันในนาม Fergie's Babe
แต่จุดเริ่มต้นตำนานจริงๆของเบ็คแฮม คือการทำประตูมหัศจรรย์ด้วยการยิงจากระยะกว่าครึ่งสนามในเกมที่พบกับวิมเบิลดัน ในเดือน ส.ค. 1996 ซึ่งเบ็คแฮม แสดงให้เห็นถึงพรสวรรค์ในการวางบอลเข้าสามเหลี่ยมสุดที่นีล ซัลลิแวน ผู้รักษาประตูวิมเบิลดัน จะวิ่งกลับไปรับทันได้
ประตูนี้ทำให้ชื่อของเดวิด เบ็คแฮม เป็นที่รู้จักของคนอังกฤษและกลายเป็น "ประตูทอง" ของชีวิตเขาอย่างแท้จริง
เบ็คแฮม ถูกเรียกตัวติดทีมชาติอังกฤษทันทีไม่นานหลังยิงประตูดังกล่าว และลงเล่นเกมทีมชาตินัดแรกในวันที่ 1 ก.ย. ในนัดที่พบกับมอลโดวา ในเกมฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกก่อนที่จะช่วยพาแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก และคว้ารางวัลนักฟุตบอลดาวรุ่งยอดเยี่ยมแห่งปีของสถาบันพีเอฟเอ มาครองได้
ชื่อเสียงของมิดฟิลด์รูปหล่อขจรขจายไปทั่ว และในช่วงนี้เองที่เขาเริ่มพบกับวิคตอเรีย อดัมส์ หนึ่งในสมาชิกนักร้องวงสไปซ์เกิร์ล ที่ต่อมากลายเป็นคู่แท้ปาฏิหารย์และมีส่วนช่วยส่งเสริมกันและกันจนกลายเป็นคู่รักที่โด่งดังมากที่สุดในโลกคู่หนึ่ง และมีครอบครัวที่อบอุ่นด้วยลูกชายสุดน่ารักทั้ง 3 คือบรู๊คลีน โรเมโอ และโจเซฟ
แต่ชีวิตของเบ็คแฮม ก็ไม่ได้มีแต่ขาขึ้นเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ครั้งหนึ่งเขาเคยเกือบต้องกลายเป็นนักฟุตบอลไร้อนาคตด้วยซ้ำ เมื่อถูกตราหน้าว่าเป็นคนที่ทำให้ทีมชาติอังกฤษ ต้องพ่ายแพ้ต่อทีมชาติอาร์เจนติน่า ในเกมรอบที่ 2 ของฟุตบอลโลก 1998 ที่ประเทศฝรั่งเศส หลังโดนใบแดงไล่ออกจากสนามด้วยการทำท่าจะถีบใส่ดีเอโก้ ซิเมโอเน่ กองกลางจอมตุกติกของทีมฟ้าขาว
ในปี 1999 ชีวิตของเบ็คแฮม พลิกกลับมาถึงจุดสูงสุดในการเล่นให้กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ด้วยการมีส่วนพาทีมคว้าเทรเบิ้ลแชมป์ - พรีเมียร์ลีก ,เอฟเอ คัพ และยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ด้วยฟอร์มการเล่นที่สุดยอดไม่ว่าจะเป็นการเปิดบอลจากริมเส้น การยิงลูกฟรีคิกระดับพระกาฬ และความมุ่งมั่นทุ่มเทจนเสียงโห่ที่เคยมีกลายเป็นเสียงเชียร์อย่างสุดกำลัง ในปีนี้เองเบ็คแฮม ยังได้อันดับที่ 2 ของรางวัลนักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปีของยุโรป หรือบัลลงดอร์ และที่ 2 ในรางวัลนักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปีของฟีฟ่าอีกด้วย
หลังจากนั้นกราฟชีวิตของเบ็คแฮม ก็พุ่งขึ้นเป็นจรวด เขากลายเป็นซูเปอร์สตาร์ลูกหนังที่โด่งดังที่สุดในโลกและยังคงประสบค