Literature reviewIncreasing populat

Literature review
Increasing population and economic growth are putting stress on the Earth’s natural
resources. As the world’s population and economic output continue to increase
dramatically, a number of environmental issues have become serious: climate change;
energy depletion; water contamination; biodiversity and land use; chemicals, toxins,
and heavy metals; air pollution; waste management; ozone layer depletion; oceans and
fisheries; and deforestation (Esty and Winston, 2009). The world’s human population
reached seven billion in 2013, up from three billion in 1960, four billion in 1975, five
billion in 1987, and six billion in 1999 (United Nations, D.O.E.a.S.A., Population
Division, 2013a). The latest projections suggest that it will reach eight billion by 2025,
9.6 billion by 2050, and nearly 11 billion by 2100 (United Nations, D.O.E.a.S.A.,
Population Division, 2013b). Economic growth has followed a similar pattern. World
gross domestic product has risen from 11 trillion US dollars in 1980 to 74 trillion in 2013
(International Monetary Fund, 2014).
Businesses, recognizing the risks associated with the degradation of natural
resources, are beginning to take action to become more sustainable enterprises.
Walmart worked with the sustainability consortium to develop product sustainability
measurement and reporting systems (Walmart, 2014). Clorox created an entire brand
(Green Works) of environmentally friendly cleaning supplies. In 1994, interface carpet,
originally a carbon intensive business, set a goal to have a net zero impact on the
environment by 2020 and is making significant progress (Anderson, 2010). Many
multinational corporations have decided to collaborate to find solutions to the
sustainability problem. For example, the World Business Council for Sustainable
Development, led by CEO’s from nearly 200 member companies with combined
revenues of over seven trillion US dollars, addresses issues related to natural capital
(ecosystems, forests, water, energy and climate, electric utilities, and greenhouse gas
management), social capital (inclusive growth and performance and evaluation),
business applications (sustainability in cement, chemicals, tires, building efficiency,
mobility, and urban infrastructure), capacity building (consumption and value chain,
education, people, and future leaders), and financial capital (reporting and investment).
At the same time, consumers have grown increasingly troubled about the state of the
environment. Awareness of environmental concerns has risen, and many individuals are
willing to support companies that are developing and launching greener products to
reduce their environmental impact. A 2013 study of 30,000 online consumers across
60 countries found that 55 percent will pay extra for products and services from companies
committed to positive social and environmental impact, compared to 50 percent in 2012
and 45 percent in 2011 (Nielsen, 2014). This study also found that 52 percent of consumers
made at least one purchase in the past six months from one or more socially responsible
companies and 52 percent check product packaging to ensure sustainable impact

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

การทบทวนวรรณกรรมประชากรเพิ่มขึ้นและเศรษฐกิจจะวางความเครียดในธรรมชาติของโลกทรัพยากร ผลผลิตทางเศรษฐกิจและประชากรของโลกยังคงเพิ่มขึ้นอย่างมาก จำนวนของปัญหาสิ่งแวดล้อมได้กลายเป็นจริงจัง: การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศสูญเสียพลังงาน น้ำปนเปื้อน ความหลากหลายทางชีวภาพและที่ดินใช้ สารเคมี สารพิษและ โลหะหนัก มลพิษทางอากาศ เสียการจัดการ สูญเสียชั้นโอโซน มหาสมุทร และประมง และตัดไม้ทำลายป่า (Esty และวินสตัน 2009) ประชากรมนุษย์ของโลกถึงเจ็ดพันล้าน ขึ้นจากสามพันล้านในปี 1960 สี่พันล้านในปี 1975 ห้าในปี 1987 และล้านหกพันล้านในปี 1999 (ประชากรแห่งสหประชาชาติ D.O.E.a.S.A.หาร 2013a) คาดการณ์ล่าสุดแนะนำว่า มันจะถึงแปดพัน 25689.6 พันล้านภายในปี 2050 และเกือบ 11 ล้าน โดย 2100 (สหประชาชาติ D.O.E.a.S.A.ประชากรหาร 2013b) เติบโตทางเศรษฐกิจตามรูปแบบที่คล้ายกัน โลกผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศได้เพิ่มขึ้นจาก 11 ล้านล้านดอลลาร์ในปี 1980 ถึง 74 ล้านในปี 2556(เงินกองทุนระหว่างประเทศ 2014)ธุรกิจ ตระหนักถึงความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการเสื่อมสภาพของธรรมชาติทรัพยากร เป็นจุดเริ่มต้นการดำเนินการเป็น ผู้ประกอบการอย่างยั่งยืนเพิ่มเติมวอลมาร์กับ consortium ความยั่งยืนในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ยั่งยืนการวัดและการรายงานระบบ (Walmart, 2014) Clorox สร้างเป็นแบรนด์ทั้งหมด(ทำงานสีเขียว) ทำความสะอาดสิ่งแวดล้อมอุปกรณ์ ในปี 1994 พรม อินเตอร์เฟซเดิม ธุรกิจเร่งรัดคาร์บอน ตั้งเป้าหมายจะมีสุทธิศูนย์ผลกระทบต่อการสภาพแวดล้อมในปี 2563 และจะทำให้มีความคืบหน้า (แอนเดอร์สัน 2010) หลายกลุ่มบริษัทข้ามชาติได้ตัดสินใจจะทำงานร่วมกันเพื่อค้นหาโซลูชันเพื่อการปัญหาความยั่งยืน ตัวอย่างเช่น ในโลกสภาอย่างยั่งยืนร่วมพัฒนา นำ โดยซีอีโอของบริษัทสมาชิกเกือบ 200 ด้วยรายได้กว่าเจ็ดล้านล้านเหรียญสหรัฐ ที่อยู่ปัญหาที่เกี่ยวข้องกับธรรมชาติทุน(ระบบนิเวศ ป่า น้ำ พลังงาน และสภาพภูมิอากาศ ไฟฟ้าสาธารณูปโภค และก๊าซเรือนกระจกการจัดการ ทุนทางสังคม (รวมเจริญเติบโต และประสิทธิภาพการทำงาน และการประเมินผล),โปรแกรมประยุกต์ทางธุรกิจ (ยั่งยืนในปูนซีเมนต์ เคมีภัณฑ์ ยาง อาคารประสิทธิภาพเคลื่อนไหว และโครงสร้างพื้นฐานในเมือง), กำลังการผลิต (ปริมาณการใช้และห่วงโซ่คุณค่าการศึกษา ผู้คน และผู้นำในอนาคต), และเงินทุน (การรายงานและการลงทุน)ในเวลาเดียวกัน ผู้บริโภคมีการเติบโตมากขึ้นเรื่อย ๆ ปัญหาเกี่ยวกับสถานะของการสิ่งแวดล้อม การรับรู้ของสิ่งแวดล้อมได้เพิ่มขึ้น และมีบุคคลหลายคนยินดีที่จะสนับสนุนบริษัทที่พัฒนา และเปิดตัวผลิตภัณฑ์สีเขียวลดผลกระทบสิ่งแวดล้อม การศึกษาผู้บริโภคออนไลน์ 30,000 ข้าม 201360 ประเทศพบว่า ร้อยละ 55 จะจ่ายเพิ่มเติมสำหรับผลิตภัณฑ์และบริการจากบริษัทเพื่อสังคม และสิ่งแวดล้อมผลกระทบในเชิงบวก เมื่อเทียบกับร้อยละ 50 ในปี 2555และร้อย ละ 45 ในปี 2554 (นีล 2014) ศึกษานี้ยังพบว่าร้อยละ 52 ของผู้บริโภคผู้ซื้ออย่างน้อยหนึ่งใน 6 เดือน จากหนึ่ง หรือรับผิดชอบต่อสังคมมากขึ้นบริษัทและร้อยละ 52 ตรวจสอบบรรจุภัณฑ์ของผลิตภัณฑ์เพื่อให้ผลกระทบอย่างยั่งยืน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การทบทวนวรรณกรรม
ที่เพิ่มขึ้นของประชากรและการเติบโตทางเศรษฐกิจจะวางความเครียดในธรรมชาติของโลก
ทรัพยากร ในขณะที่ประชากรของโลกและผลผลิตทางเศรษฐกิจยังคงเพิ่มขึ้น
อย่างมากจำนวนของปัญหาสิ่งแวดล้อมได้กลายเป็นที่ร้ายแรง: เปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
พร่องพลังงาน การปนเปื้อนน้ำ ความหลากหลายทางชีวภาพและการใช้ที่ดิน; สารเคมีสารพิษ
และโลหะหนัก; มลภาวะทางอากาศ; การจัดการของเสีย; การสูญเสียชั้นโอโซน; มหาสมุทรและ
การประมง; และตัดไม้ทำลายป่า (Esty และวินสตัน 2009) ประชากรมนุษย์ในโลก
ถึงเจ็ดพันในปี 2013 เพิ่มขึ้นจากสามพันล้านในปี 1960 สี่พันล้านในปี 1975 ห้า
พันล้านดอลลาร์ในปี 1987 และ 6000000000 ในปี 1999 (United Nations, DOEaSA ประชากร
ส่วน 2013a) ประมาณการล่าสุดแสดงให้เห็นว่ามันจะถึงแปดพันในปี 2025,
9600000000 ภายในปี 2050 และเกือบ 11 พันล้านโดย 2100 (United Nations, DOEaSA,
ประชากรส่วน 2013b) การเติบโตทางเศรษฐกิจได้ตามรูปแบบที่คล้ายกัน โลก
ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศได้เพิ่มขึ้น 11 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐใน 1,980-74000000000000 ในปี 2013
(กองทุนการเงินระหว่างประเทศ 2014).
ธุรกิจตระหนักถึงความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการย่อยสลายของธรรมชาติ
ทรัพยากรเป็นจุดเริ่มต้นในการดำเนินการที่จะกลายเป็นผู้ประกอบการที่ยั่งยืนมากขึ้น
วอลมาร์ทำงานร่วมกับหุ้นส่วนการพัฒนาอย่างยั่งยืนในการพัฒนาความยั่งยืนของผลิตภัณฑ์
การวัดและการรายงานระบบ (Walmart 2014) Clorox สร้างแบรนด์ทั้งหมด
(สีเขียวธิการ) อุปกรณ์ทำความสะอาดเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ในปี 1994 พรมอินเตอร์เฟซ
เดิมคาร์บอนธุรกิจเร่งรัดกำหนดเป้าหมายที่จะมีศูนย์สุทธิผลกระทบต่อ
สภาพแวดล้อมในปี 2020 และจะทำให้ความคืบหน้าอย่างมีนัยสำคัญ (Anderson, 2010) หลาย
บริษัท ข้ามชาติได้ตัดสินใจที่จะทำงานร่วมกันเพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาให้กับ
ปัญหาการพัฒนาอย่างยั่งยืน ยกตัวอย่างเช่นสภาธุรกิจโลกเพื่อการยั่งยืน
การพัฒนานำโดยซีอีโอจากเกือบ 200 บริษัท สมาชิกที่มีรวม
รายได้กว่าเจ็ดล้านล้านดอลลาร์สหรัฐที่อยู่ในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับทุนทางธรรมชาติ
(ระบบนิเวศป่าไม้, น้ำ, พลังงานและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ, สาธารณูปโภคไฟฟ้าและ ก๊าซเรือนกระจก
การจัดการ) ทุนทางสังคม (การเจริญเติบโตรวมและผลการดำเนินงานและการประเมินผล)
ใช้งานทางธุรกิจ (การพัฒนาอย่างยั่งยืนในซีเมนต์, สารเคมี, ยาง, การสร้างประสิทธิภาพ
การเคลื่อนไหวและโครงสร้างพื้นฐานในเมือง) สร้างขีดความสามารถ (การบริโภคและห่วงโซ่คุณค่า,
การศึกษา, ผู้คนและ ผู้นำในอนาคต) และทุนทางการเงิน (รายงานและการลงทุน).
ในขณะเดียวกันผู้บริโภคมีการเติบโตมากขึ้นเรื่อย ๆ ที่มีปัญหาเกี่ยวกับสถานะของ
สภาพแวดล้อม ความตระหนักในปัญหาสิ่งแวดล้อมได้เพิ่มขึ้นและประชาชนจำนวนมากมีความ
ยินดีที่จะสนับสนุน บริษัท ที่มีการพัฒนาและการเปิดตัวผลิตภัณฑ์เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเพื่อ
ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม การศึกษา 2013 ของผู้บริโภคออนไลน์ 30,000 ทั่ว
60 ประเทศพบว่าร้อยละ 55 จะต้องจ่ายเพิ่มสำหรับสินค้าและบริการจาก บริษัท
มุ่งมั่นที่จะส่งผลกระทบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมในเชิงบวกเมื่อเทียบกับร้อยละ 50 ในปี 2012
และร้อยละ 45 ในปี 2011 (นีลเซ่น 2014) การศึกษาครั้งนี้ยังพบว่าร้อยละ 52 ของผู้บริโภค
ได้ซื้ออย่างน้อยหนึ่งในหกเดือนที่ผ่านจากหนึ่งหรือมากกว่าความรับผิดชอบต่อสังคม
บริษัท และ 52 เปอร์เซ็นต์บรรจุภัณฑ์ของผลิตภัณฑ์การตรวจสอบเพื่อให้แน่ใจว่าส่งผลกระทบต่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ทบทวนวรรณกรรมการเพิ่มประชากรและการขยายตัวทางเศรษฐกิจจะวางความเครียดในธรรมชาติของโลกทรัพยากร เป็นประชากรของโลก และผลผลิตทางเศรษฐกิจยังคงเพิ่มขึ้นอย่างมาก , จำนวนของปัญหาสิ่งแวดล้อมจะ ร้ายแรง ภูมิอากาศเปลี่ยนแปลงการสูญเสียพลังงาน ; การปนเปื้อนน้ำ ความหลากหลายทางชีวภาพและการใช้ประโยชน์ที่ดิน ; สารเคมี , สารพิษ ,และโลหะหนัก ; มลพิษ ; ของเสีย ; การลดลงของชั้นโอโซน ; มหาสมุทรและการประมงและป่าไม้ ( และของวินสตัน , 2009 ) ประชากรมนุษย์โลกถึง 7 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 3 พันล้านในปี 1960 , สี่และห้าใน 1975พันล้านในปี 1987 และหกพันล้านในปี 1999 ( สหประชาชาติ , d.o.e.a.s.a. ประชากรส่วน ที่มีมากกว่า ) ประมาณการล่าสุดว่ามันจะถึงแปดพันล้านโดยปี 20259.6 พันล้านโดย 2050 , และเกือบ 11 พันล้านโดย 2100 ( มติ d.o.e.a.s.a. , ,ส่วนประชากร 2013b ) การเติบโตทางเศรษฐกิจได้ตามรูปแบบที่คล้ายคลึงกัน โลกผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศได้เพิ่มขึ้นจาก 11 ล้านล้านดอลลาร์ในปี 1980 ถึง 74 ล้านใน 2013( กองทุนการเงินระหว่างประเทศ ปี 2014 )ธุรกิจ , ตระหนักถึงความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการย่อยสลายของธรรมชาติทรัพยากร เริ่มดําเนินการเป็นองค์กรที่ยั่งยืนมากขึ้น .สำหรับทำงานกับความยั่งยืนของเครือข่ายเพื่อพัฒนาความยั่งยืนของผลิตภัณฑ์การวัดและการรายงานระบบ ( Walmart , 2014 ) การศึกษาการสร้างแบรนด์ทั้งหมด( งานสีเขียวที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด ในปี 1994 , อินพรมเดิมทีคาร์บอนเข้มข้นธุรกิจ ตั้งเป้าให้มีเครือข่ายศูนย์ผลกระทบต่อโดยภายในปี 2020 และมีความก้าวหน้าอย่างมีนัยสำคัญ ( Anderson , 2010 ) หลายบริษัท ข้ามชาติได้ตัดสินใจที่จะทำงานร่วมกันเพื่อหาโซลูชั่นให้ปัญหาที่ยั่งยืน ตัวอย่างเช่น สภาธุรกิจโลกเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนพัฒนา นำโดย ซีอีโอจากบริษัทสมาชิกรวมกันเกือบ 200 ด้วยรายได้กว่า 7 ล้านล้านดอลลาร์ สรอ. ที่อยู่ในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับทุนธรรมชาติ( ระบบนิเวศ ป่า น้ำ พลังงาน และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สาธารณูปโภค ไฟฟ้า และก๊าซ เรือนกระจกการจัดการ ) , ทุน ( รวมการเจริญเติบโตและผลการปฏิบัติงานและประเมินผล )โปรแกรมประยุกต์ทางธุรกิจ ( ในปูนซีเมนต์ ความยั่งยืน เคมีภัณฑ์ ยาง ประสิทธิภาพอาคารการเคลื่อนไหว และโครงสร้างพื้นฐานของเมือง ) , อาคารการผลิตการบริโภคและห่วงโซ่คุณค่าการศึกษา , คน , และอนาคตผู้นำ ) และทุนทางการเงิน ( รายงานและการลงทุน )ในขณะเดียวกัน ผู้บริโภคมีการเติบโตมากขึ้น มีปัญหาเกี่ยวกับสถานะของสิ่งแวดล้อม ความตระหนักด้านสิ่งแวดล้อมเพิ่มขึ้น และบุคคลหลายยินดีสนับสนุน บริษัท ที่พัฒนาและเปิดตัวผลิตภัณฑ์สีเขียวไปการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมของพวกเขา เป็น 2013 การศึกษาออนไลน์ของผู้บริโภค , ข้าม60 ประเทศ พบว่า ร้อยละ 55 จะจ่ายเพิ่มสำหรับสินค้าและบริการจากบริษัทมุ่งมั่นที่จะส่งผลกระทบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมเป็นบวก เมื่อเทียบกับร้อยละ 50 ใน 2012และร้อยละ 45 ในปี 2011 ( ( 2014 ) การศึกษานี้ยังพบว่าร้อยละ 52 ของผู้บริโภคอย่างน้อย ก็ซื้อหนึ่งในหกเดือนที่ผ่านมาจากหนึ่งหรือมากกว่าหนึ่งที่รับผิดชอบต่อสังคมบริษัท และร้อยละ 52 ตรวจสอบบรรจุภัณฑ์เพื่อให้แน่ใจว่าผลกระทบที่ยั่งยืน