In 2003, the U.S. Department of Edu

In 2003, the U.S. Department of Education, National Center for Education Statistics completed the National Assessment of Adult Literacy (NAAL; Kutner, Greenberg, Jin, & Paulson, 2006). This was conducted with the goal of measur• ing the status of English adult literacy in the United States and for the first time included a specific section to measure health literacy. TI1e health literacy section focused on the ability to read, understand, and apply health-related information in English (White, 2008) and focused on health tasks that were grouped into clin i• cal, preventive, and navigation of the health system categories. As reported in the NAAL, many adults have difficulty functioning in the health care system due to a lack of health literacy skills. And according to the American Medical Association (AMA) report (Weiss, 2007) Health Literacy and Patient Safety: Help Patients Understand, "poor health literacy is a stronger predictor of a person's health status than age, income, employment status, education level and race:' Additional research has shown that even well-educated persons of all ages, races, and socio• economic levels can experience low health literacy as they are expected to take on more responsibility for prevention and self-management of chronic illness.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ใน 2003 ที่ฝ่ายการศึกษา ศูนย์แห่งชาติสำหรับการศึกษาสถิติเสร็จในชาติการประเมินของผู้ใหญ่ Literacy (NAAL Kutner นเบิร์ก จิน และ Paulson, 2006) นี้จัดทำเป้าหมายของ ing measur• สถานะของความรู้ทางภาษาอังกฤษสำหรับผู้ใหญ่ในสหรัฐอเมริกา และแรก เวลารวมส่วนเฉพาะการวัดความรู้ทางสุขภาพ ส่วนความรู้สุขภาพ TI1e เน้นความสามารถในการอ่าน เข้าใจ และนำข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพในอังกฤษ (สีขาว 2008) และมุ่งเน้นงานสุขภาพที่ถูกจัดกลุ่มเป็น clin i• cal มาตรการป้องกัน และนำทางสุขภาพระบบหมวดหมู่ ตามที่รายงานในการ NAAL ผู้ใหญ่หลายคนมีปัญหาในการทำงานในระบบการดูแลสุขภาพเนื่องจากการขาดทักษะสุขภาพ และตามรายงานของสมาคมแพทย์อเมริกัน (AMA) (Weiss, 2007) ความรู้ทางสุขภาพและความปลอดภัยของผู้ป่วย: ช่วยให้ผู้ป่วยเข้าใจ, "การรู้หนังสือสุขภาพที่ดีเป็นทำนายแข็งแกร่งของสถานะสุขภาพของคนมากกว่ารายได้ อายุ ระดับการศึกษา และการแข่งขัน สถานะการจ้างงาน:' เพิ่มเติมจากงานวิจัยว่า คนแม้ศึกษาทุกวัย การแข่งขัน และ socio• เศรษฐกิจระดับสามารถสัมผัสรู้สุขภาพต่ำคาดว่าจะใช้ความรับผิดชอบสำหรับการป้องกันและการจัดการตนเองเจ็บป่วยเรื้อรัง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ในปี 2003 สหรัฐอเมริกากรมสามัญศึกษาแห่งชาติศูนย์เพื่อการศึกษาสถิติเสร็จสิ้นการประเมินแห่งชาติรู้หนังสือสำหรับผู้ใหญ่ (NAAL; Kutner กรีนเบิร์กจินและพอลสัน, 2006) นี้ได้ดำเนินการโดยมีเป้าหมายของไอเอ็นจี measur •สถานะของการรู้หนังสือของผู้ใหญ่ภาษาอังกฤษในประเทศสหรัฐอเมริกาและเป็นครั้งแรกที่รวมส่วนที่เฉพาะเจาะจงในการวัดความรู้ด้านสุขภาพ TI1e ส่วนความรู้ด้านสุขภาพที่มุ่งเน้นความสามารถในการอ่านทำความเข้าใจและใช้ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพในภาษาอังกฤษ (สีขาว, 2008) และจดจ่ออยู่กับงานสุขภาพที่ถูกแบ่งออกเป็น Clin ผม• Cal, การป้องกันและการเดินเรือประเภทระบบสุขภาพ ขณะที่ในรายงาน NAAL, ผู้ใหญ่หลายคนมีปัญหาในการทำงานในระบบการดูแลสุขภาพเนื่องจากการขาดทักษะความรู้ด้านสุขภาพ และเป็นไปตามสมาคมการแพทย์อเมริกัน (AMA) รายงาน (ไวสส์ 2007) ความรู้ด้านสุขภาพและความปลอดภัยของผู้ป่วย: ช่วยให้ผู้ป่วยเข้าใจ "ความรู้สุขภาพไม่ดีเป็นปัจจัยบ่งชี้ที่แข็งแกร่งของสถ​​านะสุขภาพของบุคคลกว่าอายุรายได้สถานะการจ้างงาน, ระดับการศึกษาและการ การแข่งขัน: 'การวิจัยเพิ่มเติมได้แสดงให้เห็นว่าแม้ผู้ที่มีการศึกษาดีทุกวัยเชื้อชาติและสังคมระดับเศรษฐกิจ•สามารถสัมผัสประสบการณ์ความรู้สุขภาพต่ำที่สุดเท่าที่พวกเขาคาดว่าจะใช้ในความรับผิดชอบมากขึ้นในการป้องกันและการจัดการตนเองของการเจ็บป่วยเรื้อรัง