Transactions motive related to Y Si

Transactions motive related to Y Since money is a medium of exchange it can be used to carry out everyday transactions. Keynes believed that these transactions were proportional to income. Precautionary motive related to Y People hold money as a cushion against an unexpected need. This motive is determined primarily by the level of transactions that they expect to make in the future and that these transactions are proportional to income. Speculative motive Since money is also a store of value, Keynes called this reason for holding money the speculative motive. Keynes divided the assets that can be used to store wealth into two categories: money (that pays no interest rate) and bonds (that pays positive interest rates). Money demand is negatively related to i

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

แรงจูงใจของธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับเงิน Y ตั้งแต่กลางแลกสามารถใช้การดำเนินธุรกรรมประจำวันได้ Keynes เชื่อว่า ธุรกรรมเหล่านี้ได้สัดส่วนกับรายได้ Precautionary แรงจูงใจที่เกี่ยวข้องกับ Y คนถือเงินเป็นเบาะกับต้องไม่คาดคิด แรงจูงใจนี้จะถูกกำหนด โดยระดับของธุรกรรม ที่พวกเขาคาดว่าจะทำในอนาคต และ ที่ธุรกรรมเหล่านี้มีสัดส่วนรายได้เป็นหลัก เก็งกำไรแรงจูงใจเนื่องจากเงินยัง เก็บค่า เรียกว่าคีนส์ด้วยเหตุนี้การถือครองเงินจูงเก็งกำไร Keynes แบ่งสินทรัพย์ที่ใช้ในการจัดเก็บให้เป็นสองประเภท: เงิน (ที่ไม่มีอัตราดอกเบี้ยจ่าย) และตราสารหนี้ (ที่จ่ายอัตราดอกเบี้ยบวก) ต้องการเงินส่งผลเกี่ยวข้องกับผม

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การทำธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับแรงจูงใจ Y ตั้งแต่เงินเป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยนก็สามารถนำมาใช้ในการดำเนินการทำธุรกรรมในชีวิตประจำวัน คีเชื่อว่าการทำธุรกรรมเหล่านี้เป็นสัดส่วนกับรายได้ แรงจูงใจที่เกี่ยวข้องกับการระมัดระวัง Y คนถือเงินเป็นเบาะกับความจำเป็นที่ไม่คาดคิด แรงจูงใจนี้จะถูกกำหนดเป็นหลักโดยระดับของการทำธุรกรรมที่พวกเขาคาดหวังที่จะทำในอนาคตและว่าการทำธุรกรรมเหล่านี้เป็นสัดส่วนกับรายได้ แรงจูงใจในการเก็งกำไรเงินตั้งแต่ยังเป็นร้านค้าที่มีค่าที่เรียกว่าคีเหตุนี้สำหรับการถือครองเงินแรงจูงใจการเก็งกำไร คีแบ่งสินทรัพย์ที่สามารถนำมาใช้ในการจัดเก็บมากมายเป็นสองประเภท: เงิน (ที่จ่ายอัตราดอกเบี้ยไม่ได้) และพันธบัตร (ที่จ่ายอัตราดอกเบี้ยบวก) เรียกร้องเงินที่เกี่ยวข้องเชิงลบกับฉัน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับ Y ตั้งแต่แรงจูงใจเงินเป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยน มันสามารถใช้ในการดำเนินธุรกรรมประจำวัน เคนส์เชื่อว่าธุรกรรมเหล่านี้มีสัดส่วนรายได้ แรงจูงใจในการป้องกันที่เกี่ยวข้องกับ Y คนถือเงินเป็นเบาะกับความต้องการที่ไม่คาดคิด แรงจูงใจนี้จะถูกกำหนดเป็นหลัก โดยระดับของรายการที่พวกเขาคาดว่าจะทำในอนาคต และการทำธุรกรรมเหล่านี้เป็นสัดส่วนกับรายได้ เก็งกำไรแรงจูงใจเงินตั้งแต่ยังเป็นร้านค่า คีนนี้เรียกว่าเหตุผลที่ถือครองเงินแรงจูงใจเก็ง เคนส์แบ่งทรัพย์สินที่สามารถใช้เพื่อเก็บสมบัติได้เป็น 2 ประเภทคือ เงิน ( ที่ไม่จ่ายดอกเบี้ย ) และพันธบัตรที่จ่ายดอกเบี้ยบวก ) ความต้องการเงินมีความสัมพันธ์ทางลบกับผม