เชื้อไวรัสอีโบลาเป็นเชื้อไวรัสที่อันตราย เนื่องจากผู้ที่ติดเชื้อมีอัตราการตายสูงบุคลากรการแพทย์เป็นกลุ่มหนึ่งซึ่งเสี่ยงต่อการได้รับเชื้อไวรัสอีโบลาจากการให้บริการทางการแพทย์ โรงพยาบาลเปรียบเสมือนประตูด่านสำคัญที่ต้องมีการเฝ้าระวังเชื้อไวรัสอีโบลา และป้องกันอย่างถูกวิธี เพราะหากพบเชื้อไวรัสอีโบลาเกิดขึ้นนั้น หมายถึง การส่งเสริมให้มีการแพร่ระบาดสู่ชุมชนได้อย่างรวดเร็ว เพราะเป็นจุดศูนย์รวมของประชากรหลายพื้นที่ การศึกษานี้ เป็นการวิจัยเชิงพรรณนาแบบภาคตัดขวาง(Cross-sectionalเdescriptiveเstudy) เพื่อศึกษาระดับความพร้อม และความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยที่มีผลต่อความพร้อมในการรับมือกับการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสอีโบลาของบุคลากรการแพทย์ โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในจังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยคัดเลือกกลุ่มตัวอย่างจำนวนทั้งหมด 245 คน โดยใช้วิธีการเก็บรวบรวมข้อมูลโดยแบบสอบถาม ซึ่งประกอบด้วยข้อมูลทั่วไป การบริหารจัดการของโรงพยาบาล แบบวัดความรู้เกี่ยวกับการป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสอีโบลา ความพร้อมในการรับมือกับการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสอีโบลา และทัศนคติเกี่ยวกับโรคติดเชื้อไวรัสอีโบลา และการป้องกันการติดเชื้อ วิเคราะห์ข้อมูลโดยสถิติเChiเ-เsquareเTestเและเSpearman’s RankเCorrelationเCoefficients
ผลการศึกษาพบว่า จากจำนวนบุคลากรทั้งหมด 245 คน มีความพร้อมในการรับมือกับการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสอีโบลาอยู่ในระดับปานกลาง 101 คน คิดเป็นร้อยละ 41.2 ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับความพร้อมในการรับมือกับการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสอีโบลาอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ได้แก่ ได้แก่ การบริหารจัดการของโรงพยาบาล (p < 0.001) ความรู้เกี่ยวกับโรคติดเชื้อไวรัสอีโบลา (pเ