DESCRIPTIONThe tdelete(), tfind(),

DESCRIPTION

The tdelete(), tfind(), tsearch(), and twalk() functions manipulate binary search trees. Comparisons are made with a user-supplied routine, the address of which is passed as the compar argument. This routine is called with two arguments, which are the pointers to the elements being compared. The application shall ensure that the user-supplied routine returns an integer less than, equal to, or greater than 0, according to whether the first argument is to be considered less than, equal to, or greater than the second argument. The comparison function need not compare every byte, so arbitrary data may be contained in the elements in addition to the values being compared.

The tsearch() function shall build and access the tree. The key argument is a pointer to an element to be accessed or stored. If there is a node in the tree whose element is equal to the value pointed to by key, a pointer to this found node shall be returned. Otherwise, the value pointed to by key shall be inserted (that is, a new node is created and the value of key is copied to this node), and a pointer to this node returned. Only pointers are copied, so the application shall ensure that the calling routine stores the data. The rootp argument points to a variable that points to the root node of the tree. A null pointer value for the variable pointed to by rootp denotes an empty tree; in this case, the variable shall be set to point to the node which shall be at the root of the new tree.

Like tsearch(), tfind() shall search for a node in the tree, returning a pointer to it if found. However, if it is not found, tfind() shall return a null pointer. The arguments for tfind() are the same as for tsearch().

The tdelete() function shall delete a node from a binary search tree. The arguments are the same as for tsearch(). The variable pointed to by rootp shall be changed if the deleted node was the root of the tree. The tdelete() function shall return a pointer to the parent of the deleted node, or a null pointer if the node is not found.

The twalk() function shall traverse a binary search tree. The root argument is a pointer to the root node of the tree to be traversed. (Any node in a tree may be used as the root for a walk below that node.) The argument action is the name of a routine to be invoked at each node. This routine is, in turn, called with three arguments. The first argument shall be the address of the node being visited. The structure pointed to by this argument is unspecified and shall not be modified by the application, but it shall be possible to cast a pointer-to-node into a pointer-to-pointer-to-element to access the element stored in the node. The second argument shall be a value from an enumeration data type:

typedef enum { preorder, postorder, endorder, leaf } VISIT;

(defined in ), depending on whether this is the first, second, or third time that the node is visited (during a depth-first, left-to-right traversal of the tree), or whether the node is a leaf. The third argument shall be the level of the node in the tree, with the root being level 0.

If the calling function alters the pointer to the root, the result is undefined.

RETURN VALUE

If the node is found, both tsearch() and tfind() shall return a pointer to it. If not, tfind() shall return a null pointer, and tsearch() shall return a pointer to the inserted item.

A null pointer shall be returned by tsearch() if there is not enough space available to create a new node.

A null pointer shall be returned by tdelete(), tfind(), and tsearch() if rootp is a null pointer on entry.

The tdelete() function shall return a pointer to the parent of the deleted node, or a null pointer if the node is not found.

The twalk() function shall not return a value.

ERRORS

No errors are defined.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

คำอธิบาย

t ลบ () tfind () tsearch () และ twalk () ฟังก์ชั่นจัดการกับต้นไม้ค้นหาแบบไบนารี การเปรียบเทียบจะทำกับกิจวัตรประจำวันจากผู้ใช้ที่อยู่ของที่ถูกส่งผ่านเป็นอาร์กิวเมนต์ compar ประจำนี้เรียกว่ามีข้อโต้แย้งที่สองซึ่งเป็นตัวชี้ไปยังองค์ประกอบถูกเปรียบเทียบ โปรแกรมจะให้แน่ใจว่าขั้นตอนการใช้งานที่ให้มากลับจำนวนเต็มน้อยกว่าเท่ากับหรือมากกว่า 0 ตามที่ว่าอาร์กิวเมนต์แรกคือการได้รับการพิจารณาน้อยกว่าเท่ากับหรือมากกว่าอาร์กิวเมนต์ที่สอง ฟังก์ชั่นการเปรียบเทียบไม่จำเป็นต้องเปรียบเทียบทุกไบต์เพื่อให้ข้อมูลโดยพลการอาจจะมีอยู่ในองค์ประกอบที่นอกเหนือไปจากค่าที่ถูกเปรียบเทียบ.

tsearch (ฟังก์ชั่น) จะเป็นผู้สร้างและเข้าถึงต้นไม้ข้อโต้แย้งที่สำคัญคือตัวชี้ไปยังองค์ประกอบที่จะเข้าถึงหรือจัดเก็บไว้ ถ้ามีโหนดในต้นไม้ที่มีองค์ประกอบเท่ากับค่าชี้ไปที่สำคัญตัวชี้ไปยังโหนดพบนี้จะถูกนำกลับไป มิฉะนั้นค่าชี้ไปที่สำคัญจะได้รับการแทรก (นั่นคือโหนดใหม่ถูกสร้างขึ้นและค่าของคีย์จะถูกคัดลอกไปยังโหนดนี้) และตัวชี้ไปยังโหนดนี้กลับเพียง แต่ชี้จะถูกคัดลอกเพื่อการประยุกต์ใช้จะมั่นใจได้ว่าการเรียกเก็บข้อมูลประจำ จุดอาร์กิวเมนต์ rootp กับตัวแปรที่ชี้ไปยังโหนดรากของต้นไม้ ค่าตัวชี้ null ตัวแปรชี้ไป rootp หมายถึงต้นไม้ที่ว่างเปล่าในกรณีนี้ตัวแปรจะต้องได้รับการตั้งค่าให้ชี้ไปที่โหนดซึ่งจะเป็นที่รากของต้นไม้ใหม่

เหมือน tsearch ().tfind () จะค้นหาโหนดในต้นไม้กลับชี้ไปหากพบ แต่ถ้ามันไม่ได้พบ tfind () จะกลับตัวชี้โมฆะ ข้อโต้แย้งสำหรับ tfind () เป็นเช่นเดียวกับ tsearch ().

t ลบ () ฟังก์ชันจะลบโหนดจากต้นไม้ค้นหาไบนารี ข้อโต้แย้งที่มีเช่นเดียวกับ tsearch ()ตัวแปรชี้ไป rootp จะมีการเปลี่ยนแปลงหากโหนดที่ถูกลบเป็นรากของต้นไม้ ฟังก์ชั่น t ลบ () จะกลับตัวชี้ไปยังผู้ปกครองของโหนดลบหรือตัวชี้โมฆะถ้าโหนดไม่พบ.

twalk () ฟังก์ชันจะสำรวจต้นไม้ค้นหาไบนารี อาร์กิวเมนต์รากเป็นตัวชี้ไปยังโหนดรากของต้นไม้จะได้รับการสำรวจ(โหนดในต้นไม้อาจจะถูกใช้เป็นรากเดินด้านล่างโหนดที่.) การกระทำอาร์กิวเมนต์เป็นชื่อของกิจวัตรประจำวันที่จะเรียกในแต่ละโหนด ประจำวันนี้ในที่สุดก็จะเรียกว่ามีสามข้อโต้แย้ง อาร์กิวเมนต์แรกจะต้องเป็นที่อยู่ของโหนดที่มีการเข้าเยี่ยมชม โครงสร้างชี้ไปอาร์กิวเมนต์นี้ไม่เกี่ยวกับบุคคลและจะไม่สามารถแก้ไขได้โดยการใช้โปรแกรมประยุกต์แต่มันจะเป็นไปได้ที่จะโยนโหนดชี้ไปในตัวชี้ไปชี้เพื่อองค์ประกอบในการเข้าถึงองค์ประกอบที่เก็บไว้ในโหนด อาร์กิวเมนต์ที่สองจะเป็นค่าจากการแจกแจงชนิดข้อมูล:

typedef enum {preorder, postorder, endorder ใบ} เยี่ยมชม;

(ที่กำหนดไว้ใน ) ขึ้นอยู่กับว่านี้เป็นครั้งแรกที่สอง หรือครั้งที่สามว่าโหนดเข้าชม (ในเชิงลึกครั้งแรกจากซ้ายไปขวาสำรวจเส้นทางของต้นไม้) หรือไม่ว่าจะเป็นโหนดใบ อาร์กิวเมนต์ที่สามจะต้องเป็นระดับของโหนดในต้นไม้ที่มีระดับความเป็นราก 0.

ถ้าฟังก์ชั่นการโทรเปลี่ยนแปลงตัวชี้ไปยังราก, ผลที่ได้คือไม่ได้กำหนด.

ค่าตอบแทน

ถ้าโหนดที่พบ ทั้ง tsearch () และ tfind () จะกลับตัวชี้ไปยังมัน ถ้าไม่ tfind () จะกลับมาเป็นตัวชี้โมฆะและ tsearch () จะกลับตัวชี้ไปยังรายการที่แทรก.

ชี้โมฆะจะได้รับการส่งกลับโดย tsearch () ถ้ามีพื้นที่ไม่เพียงพอที่จะสร้างโหนดใหม่.

ชี้โมฆะจะได้รับการส่งกลับโดย t ลบ () , tfind () และ tsearch () ถ้า rootp เป็นตัวชี้โมฆะที่รายการ.

t ลบ () ฟังก์ชันจะกลับตัวชี้ไปยังผู้ปกครองของโหนดที่ถูกลบหรือตัวชี้โมฆะถ้าโหนดไม่พบ.

twalk () ฟังก์ชันจะไม่คืนค่า.



ข้อผิดพลาดไม่มีข้อผิดพลาดจะถูกกำหนด

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

อธิบาย

ต้นไม้ค้นหาแบบทวิภาคใช้ฟังก์ชัน tdelete(), tfind(), tsearch() และ twalk() จะเปรียบเทียบกับการให้ผู้ใช้ประจำ อยู่ที่ถูกส่งผ่านเป็นอาร์กิวเมนต์ compar ขั้นตอนนี้เรียกว่า มีอาร์กิวเมนต์สอง ซึ่งเป็นตัวชี้ไปยังองค์ประกอบเปรียบเทียบ แอพลิเคชันจะให้แน่ใจว่า ขั้นตอนที่ให้ผู้ใช้ส่งกลับค่าจำนวนเต็มน้อยกว่า เท่ากับ หรือ 0 ตามว่าอาร์กิวเมนต์แรกจะพิจารณาน้อยกว่า เท่ากับ มากกว่า หรืออาร์กิวเมนต์ที่สองมากกว่า เปรียบฟังก์ชันเปรียบเทียบต้องไม่เทียบทุกไบต์ เพื่อกำหนดข้อมูลอาจมีอยู่ในองค์ประกอบนอกเหนือจากค่าที่เปรียบเทียบ

ฟังก์ชัน tsearch() จะสร้าง และเข้าถึงแผนภูมิ อาร์กิวเมนต์สำคัญเป็นตัวชี้ถึงองค์ประกอบที่จะเข้าถึง หรือจัดเก็บ ถ้ามีโหนในองค์ประกอบมีค่าเท่ากับค่าที่ชี้ไปตามคีย์ ชี้นี้พบโหนจะถูกส่งกลับ มิฉะนั้น จะแทรกค่าที่ชี้ไปตามคีย์ (นั่นคือ สร้างโหนดใหม่ และค่าของคีย์จะถูกคัดลอกโหนนี้), และส่งกลับค่าตัวชี้ไปโหนดนี้ ตัวชี้เฉพาะจะถูกคัดลอก ดังนั้นแอพลิเคชันจะให้แน่ใจว่า ขั้นตอนการเรียกจัดเก็บข้อมูล อาร์กิวเมนต์ rootp ชี้ไปตัวแปรที่ชี้ไปโหนดรากของทรี ค่าตัวชี้เป็น null สำหรับตัวแปรบ่งชี้ rootp แสดงแผนภูมิเป็นว่างเปล่า ในกรณีนี้ ตัวแปรจะถูกตั้งค่าให้ชี้ไปที่โหนดซึ่งจะเป็นรากของใหม่ทรี

เช่น tsearch() tfind() จะค้นหาโหนดในทรี ความตัวชี้นั้นถ้าพบ อย่างไรก็ตาม ถ้าไม่พบ tfind() จะกลับตัวชี้เป็น null อาร์กิวเมนต์สำหรับ tfind() จะเหมือนกับ() tsearch

ฟังก์ชัน tdelete() จะลบโหนตัวจากต้นไม้ค้นหาแบบทวิภาค อาร์กิวเมนต์ไม่เหมือนกับ tsearch() จะสามารถเปลี่ยนตัวแปรบ่งชี้ rootp ถ้าโหนดที่ถูกลบ รากของต้นไม้ ฟังก์ชัน tdelete() จะกลับตัวชี้ไปที่หลักของโหนดที่ถูกลบ หรือตัวชี้เป็น null ถ้าไม่พบโหน

ฟังก์ชัน twalk() จะข้ามต้นไม้ค้นหาแบบทวิภาค อาร์กิวเมนต์รากเป็นตัวชี้ไปโหนดรากของจะได้ไม่เหมือนกัน (โหนดใด ๆ ในต้นไม้อาจจะใช้เป็นรากเดินเล่นด้านล่างโหน) อาร์กิวเมนต์แอคชันเป็นชื่อของชุดคำสั่งจะเรียกในแต่ละโหนด ขั้นตอนนี้ จะ เรียกว่าอาร์กิวเมนต์ที่สามที่ อาร์กิวเมนต์แรกจะเป็นอยู่ของโหนที่การเยี่ยมชม โครงสร้างที่ชี้ไปตามนี้จะไม่สามารถระบุได้ และจะไม่สามารถปรับเปลี่ยนแอพลิเคชัน แต่ก็จะไปโยนชี้ไปโหนในองค์การชี้การชี้การประกอบถึงองค์ประกอบที่จัดเก็บในโหน อาร์กิวเมนต์ที่สองจะเป็นค่าจากการแจงนับข้อมูลชนิด:

เยี่ยมชม typedef enum {รับ postorder, endorder ลีฟ}

(defined in ) ขึ้นอยู่ กับว่านี้เป็นที่แรก สอง หรือสาม เวลาที่โหนเข้าชม (ในระหว่างที่ความลึกการ ซ้ายไปขวาข้ามต้น), หรือว่าโหนดที่เป็นโหนดปลายสุด อาร์กิวเมนต์ที่สามเป็นระดับของโหนดในทรี มีรากอยู่ระดับ 0

ถ้าฟังก์ชันเรียกเปลี่ยนแปลงตัวชี้ไปยังราก ผลคือไม่

กลับค่า

ถ้าพบโหน tsearch() และ tfind() จะตอบตัวชี้ ถ้า ไม่ tfind() จะกลับตัวชี้เป็น null tsearch() จะกลับตัวชี้ไปที่แทรกสินค้า

ตัวชี้เป็น null จะถูกส่งกลับ โดย tsearch() ถ้าไม่มีเนื้อที่ว่างเพียงพอเพื่อดำเนินการใหม่โหน

ตัวชี้เป็น null จะกลับ ทาง tdelete(), tfind(), tsearch() ถ้า rootp เป็นตัวชี้เป็น null บนรายการ

ฟังก์ชัน tdelete() จะกลับตัวชี้หลักของโหนดที่ถูกลบ, หรือตัวชี้เป็น null ถ้าไม่พบโหน

twalk() ฟังก์ชันจะส่งกลับค่า

พลาด

กำหนดข้อผิดพลาดไม่

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

คำอธิบาย tdelete

ที่() tfind () t ค้นหา()และ twalk ()ฟังก์ชันต้นคว้าไบนารีการค้นหา การเปรียบเทียบเป็นประจำทำให้มีผู้ใช้ให้มาที่แอดเดรสของซึ่งจะถูกส่งต่อไปที่อาร์กิวเมนต์ compar ได้ เป็นประจำนี้เรียกว่าพร้อมด้วยสองอาร์กิวเมนต์ซึ่งเป็นตัวชี้ให้กับส่วนประกอบที่ถูกเมื่อเทียบกับ แอปพลิเคชันที่จะต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าเป็นประจำผู้ใช้ที่ให้มาจะกลับจำนวนเต็มที่น้อยกว่ามากกว่าหรือเท่ากับ 0 ตามไม่ว่าอาร์กิวเมนต์แรกที่จะต้องได้รับการพิจารณาให้น้อยกว่าหรือเท่ากับหรือมากกว่าอาร์กิวเมนต์ที่สองได้. ฟังก์ชันการเปรียบเทียบที่ไม่จำเป็นต้องเปรียบเทียบ byte ทุกดังนั้นข้อมูลตาม อำเภอ ใจอาจมีอยู่ในส่วนประกอบที่รวมถึงค่าที่ได้รับเมื่อเทียบกับ.

t ค้นหา()ฟังก์ชันจะสร้างและการเชื่อมต่อทรีอาร์กิวเมนต์สำคัญที่เป็นตัวชี้เพื่อที่สามารถเข้าถึงได้หรือจัดเก็บ หากมีโหนดหนึ่งในทรีที่มีส่วนที่จะเท่ากับมูลค่าที่ชี้โดยปุ่มตัวชี้ไปยังโหนดนี้พบว่าจะมีการส่งกลับ มิฉะนั้นค่าที่ชี้ไปยังคีย์จะต้องใส่(ที่เป็นโหนดใหม่ที่จะถูกสร้างขึ้นและค่าของคีย์จะถูกคัดลอกไปยังโหนดนี้)และตัวชี้ไปยังโหนดนี้กลับมาเฉพาะตัวชี้จะถูกคัดลอกไปดังนั้นแอปพลิเคชันที่จะต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าเป็นประจำการโทรจะจัดเก็บข้อมูลได้ อาร์กิวเมนต์ rootp ชี้ไปยังที่หลากหลายซึ่งจุดในโหนดรากของต้นไม้ ค่าตัวชี้ไม่มีผลสำหรับปรับเปลี่ยนที่ชี้โดย rootp แสดงทรีว่างอยู่ในกรณีนี้ได้จะได้รับการตั้งจุดไปยังโหนดซึ่งจะเป็นที่รากของต้นใหม่.

เช่น t ค้นหา()tfind ()จะค้นหาสำหรับโหนดในทรีที่เดินทางกลับสู่ตัวชี้ให้หากพบ แต่ถึงอย่างไรก็ตามหากไม่ได้พบ tfind ()จะกลับไปตัวชี้ไม่มีผล อาร์กิวเมนต์ที่สำหรับ tfind ()จะเหมือนกับของ t ค้นหา().

tdelete ที่()ฟังก์ชันจะลบโหนดหนึ่งจากทรีการค้นหาไบนารี อาร์กิวเมนต์ที่จะเหมือนกับของ t ค้นหา()ปรับเปลี่ยนที่ชี้ rootp โดยจะมีการเปลี่ยนแปลงได้หากโหนดที่ถูกลบรากของต้นไม้ tdelete ()จะต้องกลับไปใช้งานตัวชี้แม่ของลบโหนดหรือที่ตัวชี้ไม่มีผลให้หากโหนดที่ไม่พบ. twalk

ที่()ฟังก์ชันที่จะขัดขวางการค้นหาทรีไบนารี อาร์กิวเมนต์รากเป็นตัวชี้ไปยังโหนดรากของต้นไม้ที่จะขวางกั้น(โหนดใดๆในทรีที่อาจใช้เป็นหลักสำหรับการเดินเที่ยวที่ด้านล่างโหนดที่.)การดำเนินการข้อถกเถียงก็คือชื่อของเป็นประจำเพื่อเป็นการปลุกเร้าขึ้นที่โหนดแต่ละครั้ง เป็นประจำนี้ในทางกลับกันถูกเรียกว่าพร้อมด้วยสามอาร์กิวเมนต์ อาร์กิวเมนต์แรกจะเป็นที่อยู่ของโหนดที่กำลังเยี่ยมชม โครงสร้างที่ชี้โดยอาร์กิวเมนต์แห่งนี้คือไม่สามารถระบุและจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงได้โดยแอปพลิเคชันแต่มันจะเป็นไปได้ที่จะหล่อตัวชี้ - การ - โหนดที่เข้าสู่ตัวชี้ - การ - ตัวชี้ - - ส่วนที่จะเข้าใช้องค์ประกอบที่จัดเก็บไว้ในโหนดนั้น อาร์กิวเมนต์ที่สองที่จะได้รับความคุ้มค่าจากระบุ ประเภท ข้อมูล:

typedef enum { preorder postorder endorder ใบ}เที่ยวชม

(ตามที่กำหนดไว้ใน<การค้นหา. h - - >)ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับว่าเป็นที่แรกที่สองหรือที่สามที่โหนดที่ได้รับการเยี่ยมชม(ในระหว่างความลึกที่เป็นครั้งแรกข้ามไปทางซ้ายไปขวาของทรี)หรือไม่ว่าจะโหนดที่มีใบไม้ที่. อาร์กิวเมนต์ที่สามจะต้องอยู่ในระดับที่ของโหนดที่ในทรีที่มีรากที่เป็นระดับ 0 .

หากเปิดใช้ฟังก์ชันการโทรที่ตอนนี้สถานการณ์ก็ไม่เหมือนเดิมแล้ว"ตัวชี้ไปยังรูทซึ่งมีผลให้ได้รับยังไม่กำหนดชัดเจน”

คืน ค่า

หากโหนดที่พบได้ t ค้นหา()และ tfind ()ทั้งสองฝ่ายจะต้องกลับไปเป็นตัวชี้ หากไม่ tfind ()จะกลับไปตัวชี้ไม่มีผลและ t ค้นหา()จะกลับมาที่ตัวชี้เพื่อที่ใส่ไว้รายการ.

ที่มีค่าเป็นนัลตัวชี้จะได้เดินทางกลับโดย t ค้นหา()หากมีพื้นที่ว่างไม่เพียงพอใช้ในการสร้างที่ใหม่โหนด.

ที่มีค่าเป็นนัลตัวชี้จะได้เดินทางกลับโดย tdelete (), tfind (),และ T ค้นหา()หาก rootp เป็นตัวชี้ที่มีค่าเป็นนัลสำหรับการเข้าชม.

ที่ tdelete ()ฟังก์ชันจะต้องกลับไปที่ตัวชี้เพื่อที่แม่ของโหนดที่ถูกลบออกแล้วหรือตัวชี้ไม่มีผลหากโหนดนั้นไม่พบ. twalk

ที่()ฟังก์ชันจะไม่กลับไปเป็นค่า.

ข้อผิดพลาด

ไม่มีข้อผิดพลาดนั้นมีการกำหนด