In 1823, the UK passed the Excise A

In 1823, the UK passed the Excise Act, legalizing the distillation (for a fee), and this put a practical end to the large-scale production of Scottish moonshine.[7]
In 1831, Aeneas Coffey patented the Coffey still, allowing for cheaper and more efficient distillation of whisky. In 1850, Andrew Usher began producing a blended whisky that mixed traditional pot still whisky with that from the new Coffey still. The new distillation method was scoffed at by some Irish distillers, who clung to their traditional pot stills. Many Irish contended that the new product was, in fact, not whisky at all.[15]
By the 1880s, the French brandy industry was devastated by the phylloxera pest that ruined much of the grape crop; as a result, whisky became the primary liquor in many markets.[7]
During the Prohibition era in the United States lasting from 1920 to 1933, all alcohol sales were banned in the country. The federal government made an exemption for whisky prescribed by a doctor and sold through licensed pharmacies. During this time, the Walgreens pharmacy chain grew from 20 retail stores to almost 400.[16]

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ในปี 1823, สหราชอาณาจักรผ่านกฎหมายภาษีสรรพสามิต, กฎหมายการกลั่น (ค่าธรรมเนียม) และใส่ปลายปฏิบัติเพื่อการผลิตขนาดใหญ่ของแสงจันทร์ scottish. [7]
ในปี 1831, aeneas เบนจามินเบนจามินยังคงจดสิทธิบัตรช่วยให้ การกลั่นที่ถูกกว่าและมีประสิทธิภาพมากขึ้นของวิสกี้ ใน 1850แอนดรูนำเริ่มผลิตวิสกี้ผสมที่ผสมหม้อแบบดั้งเดิมยังคงวิสกี้กับที่จากเบนจามินใหม่ยังคง วิธีการกลั่นใหม่ที่ถูกเยาะเย้ยโดยบางส่วนกลั่นไอริชที่ยังยึดติดกับภาพนิ่งหม้อแบบดั้งเดิมของพวกเขา หลายไอริชเกี่ยงว่าผลิตภัณฑ์ใหม่ได้ในความเป็นจริงไม่ได้วิสกี้เลย. [15]
โดยยุค 1880อุตสาหกรรมบรั่นดีฝรั่งเศสได้รับการเสียหายจากศัตรูพืชชาที่ทำลายมากของพืชองุ่น;. เป็นผลให้กลายเป็นวิสกี้สุราหลักในตลาดจำนวนมาก [7]
ในยุคห้ามในประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นเวลานาน 1920-1933 ทั้งหมด การขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไม่ได้รับอนุญาตในประเทศรัฐบาลทำยกเว้นวิสกี้กำหนดโดยแพทย์และขายผ่านร้านขายยาที่ได้รับอนุญาต ในช่วงเวลานี้ห่วงโซ่ร้านขายยา Walgreens เพิ่มขึ้นจาก 20 ร้านค้าปลีกเกือบ 400. [16]

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ใน 1823, UK ผ่านพระราชบัญญัติสรรพสามิต legalizing กลั่น (สำหรับค่าธรรมเนียม), และการย้ายนี้เป็นจริงที่สิ้นสุดการผลิตขนาดใหญ่ของสกอตแลนด์มูนไชน์[7]
จดสิทธิใน 1831, Coffey อีเนียสบัตรยังคง Coffey อนุญาตให้ถูกกว่า และเพิ่มประสิทธิภาพการกลั่นของวิสกี้ ใน 1850 แอนดรูอัชเชอร์เริ่มผลิตวิสกี้ผสมที่ผสมหม้อแบบดั้งเดิมยังคงวิสกี้กับจากยังคง Coffey ใหม่ วิธีการกลั่นใหม่ถูก scoffed ที่ โดยบาง distillers ไอริช ที่พืชเพื่อซื้อที่ดินตรงหม้อแบบดั้งเดิมของพวกเขา หลายไอริช contended ที่ ผลิตภัณฑ์ใหม่ไม่ ในความเป็นจริง วิสกี้เลย[15]
โดยปัจจุบัน อุตสาหกรรมบรั่นดีฝรั่งเศสถูกทำลาย โดยแมลง phylloxera ที่เจ๊งมากพืชองุ่น ดัง วิสกี้เป็น เหล้าหลักในหลายประเทศ[7]
ระหว่างยุค Prohibition ในสหรัฐอเมริกายาวนานจาก 1920 ถึงปี 1933 ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทั้งหมดถูกห้ามในประเทศ รัฐบาลทำข้อยกเว้นสำหรับวิสกี้ที่กำหนด โดยแพทย์ และขายผ่านร้านขายยาที่ได้รับใบอนุญาต ในช่วงเวลานี้ โซ่ยา Walgreens โตจากร้านค้าปลีก 20 ไปเกือบ 400[16]

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ในสหราชอาณาจักร 1823 ที่ผ่านมาทำหน้าที่ตัดเอา ภาษี สรรพสามิตการกลั่น(โดยคิดค่าธรรมเนียม)และในส่วนนี้มาทำที่ใช้งานได้จริงในการผลิตขนาดใหญ่ของชาวสกอตแสงจันทร์.[ 7 ],
ใน 1831 อินี - แอ็ซ coffey coffey จดสิทธิบัตรแล้วยังช่วยให้สำหรับการกลั่นราคาถูกกว่าและมี ประสิทธิภาพ มากขึ้นของวิสกี้ ใน 1850แอนดรูว์เจ้าหน้าที่ต้อนรับเป็นต้นเริ่มผลิตวิสกี้ผสมที่ผสมผสาน Pot แบบดั้งเดิมพร้อมด้วยวิสกี้ยัง coffey ใหม่ว่าจากที่ยังคงอยู่ วิธีการกลั่นใหม่ได้หัวเราะเยาะโดย distillers ไอริชที่เกาะหม้อสดวกสบายแบบดั้งเดิมของพวกเขา ไอริชจำนวนมากนำมาร้องทุกข์ต่อว่า ผลิตภัณฑ์ ใหม่ที่อยู่ในความเป็นจริงแล้วไม่ได้ดื่มวิสกี้ที่ทั้งหมด.[ 15 ]
โดยไปตั้งแต่ทศวรรษ 1880 ) sอุตสาหกรรมบรั่นดีฝรั่งเศสที่ได้เกิดความเสียหายอย่างรุนแรงโดย phylloxera ที่กำจัดแมลงที่วอดวายจำนวนมากของพืชองุ่นเป็นผลมาจากที่กลายเป็นเหล้าวิสกี้หลักในตลาดจำนวนมาก.[ 7 ],
ในระหว่างยุคการห้ามในประเทศสหรัฐอเมริกาที่ใช้งานได้ยาวนานจาก 1920 ถึง 1933 ยอดขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทั้งหมดเป็นสิ่งต้องห้ามในประเทศได้รัฐบาลกลางสหรัฐที่ทำให้ได้รับการยกเว้นสำหรับวิสกี้ตามที่กำหนดไว้โดยแพทย์และจำหน่ายผ่านร้านขายยาถูกต้อง ในระหว่างช่วงเวลาดังกล่าวนี้เครือร้านขายยา walgreens ที่ขยายตัวจาก 20 ร้านค้าปลีกเกือบ 400 .[ 16 ]