ศิลาจารึกพ่อขุนรามคำแหงมหาราช หรือ

ศิลาจารึกพ่อขุนรามคำแหงมหาราช หรือ 'ศิลาจารึกหลักที่ 1' เป็นศิลาจารึกที่บันทึกประวัติศาสตร์สมัยกรุงสุโขทัย ศิลาจารึกนี้ เจ้าฟ้ามงกุฎฯ (ต่อมาคือ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว) ขณะผนวชอยู่เป็นผู้ทรงค้นพบเมื่อวันกาบสี ขึ้น 8 ค่ำ เดือน 3 จ.ศ. 1214 ตรงกับ วันศุกร์ที่ 17 มกราคม ค.ศ.1834 หรือ พ.ศ. 2376[1] ณ เนินปราสาทเมืองเก่าสุโขทัย อำเภอเมือง จังหวัดสุโขทัย มีลักษณะเป็นหลักสี่เหลี่ยมด้านเท่า ทรงกระโจม สูง 111 ซม. หนา 35 ซม. เป็นหินทรายแป้งเนื้อละเอียด[2]มีจารึกทั้งสี่ด้าน ปัจจุบันเก็บอยู่ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร กรุงเทพมหานคร

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ศิลาจารึกพ่อขุนรามคำแหงมหาราชหรือ ' ศิลาจารึกหลักที่ 1' เป็นศิลาจารึกที่บันทึกประวัติศาสตร์สมัยกรุงสุโขทัยศิลาจารึกนี้เจ้าฟ้ามงกุฎฯ (ต่อมาคือพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว) ขณะผนวชอยู่เป็นผู้ทรงค้นพบเมื่อวันกาบสีขึ้น 8 ค่ำเดือน 3 จ.ศ. 1214 ตรงกับวันศุกร์ที่ 17 มกราคม ค.ศ.1834 หรือพ.ศ. 2376 ณ [1] เนินปราสาทเมืองเก่าสุโขทัยอำเภอเมืองจังหวัดสุโขทัยมีลักษณะเป็นหลักสี่เหลี่ยมด้านเท่าทรงกระโจมสูง 111 ซม หนา 35 ซม เป็นหินทรายแป้งเนื้อละเอียด [2] มีจารึกทั้งสี่ด้านปัจจุบันเก็บอยู่ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนครกรุงเทพมหานคร

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ศิลาจารึกพ่อขุนรามคำแหงมหาราชหรือ 'ศิลาจารึกหลักที่ 1' ศิลาจารึกนี้เจ้าฟ้ามงกุฎฯ (ต่อมาคือ ขึ้น 8 ค่ำเดือน 3 จ.ศ. 1214 ตรงกับวันศุกร์ที่ 17 มกราคม ค.ศ. 1834 หรือ พ.ศ. 2376 [1] ณ เนินปราสาทเมืองเก่าสุโขทัยอำเภอเมืองจังหวัดสุโขทัย ทรงกระโจมสูง 111 ซม. หนา 35 ซม พระนครกรุงเทพมหานคร

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ศิลาจารึกพ่อขุนรามคำแหงมหาราชค็อค ' ศิลาจารึกหลักที่ 1 ' เป็นศิลาจารึกที่บันทึกประวัติศาสตร์สมัยกรุงสุโขทัยศิลาจารึกนี้เจ้าฟ้ามงกุฎฯ ( ต่อมาคือพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว )ขึ้น 8 ค่ำเดือน 3 . . . .ศ . 1179 ตรงกับ 17 วันศุกร์ที่มกราคมค . ศ . 1834 ค็อคพ . ศ . 2376 [ 1 ] ณเนินปราสาทเมืองเก่าสุโขทัยอำเภอเมืองจังหวัดสุโขทัยมีลักษณะเป็นหลักสี่เหลี่ยมด้านเท่าทรงกระโจมสูง 111 ซม . หนา 35 ซม .เป็นหินทรายแป้งเนื้อละเอียด [ 2 ] มีจารึกทั้งสี่ด้านปัจจุบันเก็บอยู่ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนครกรุงเทพมหานคร