เชื้อรา Aspergillus oryzae จัดอยู่ใ

เชื้อรา Aspergillus oryzae จัดอยู่ในกลุ่มจุลินทรีย์ที่มีการสะสมลิปิดสูง (oleaginous microorganism) มีที่สามารถสร้างและสะสมลิปิดภายในเซลล์ในปริมาณสูงมากกว่า 40% ของปริมาณชีวมวลแห้ง โดยขึ้นอยู่กับสภาวะการเพาะเลี้ยง A. oryzae มีความสำคัญในอุตสาหกรรมอาหารหมัก นอกจากนี้ยังได้รับความสนใจในการเป็นแหล่งผลิตสารที่มีความสำคัญและมีมูลค่าสูงหลายชนิดเช่น เอ็นไซม์ กรดไขมันไม่อิ่มตัวจำเป็น ทั้งนี้เนื่องจาก A. oryzae เป็นเชื้อราที่มีความปลอดภัย สามารถใช้สับสเตรทได้หลากหลาย มีการเจริญเติบโตได้อย่างรวดเร็ว มีระบบการส่งถ่ายยีน (transformation system) และการแสดงออกของยีน (gene expression) ที่มีประสิทธิภาพซึ่งเอื้อต่อการพัฒนาสายพันธุ์ด้วยเทคนิคทางชีวโมเลกุล

เนื่องจากรา A. oryzae เป็นเชื้อราที่มีเส้นใย ในกระบวนการเลี้ยงด้วยอาหารเหลว (submerge cultivation) เส้นใยมักเกาะกันเป็นก้อนหรือที่เรียกว่า pellet การเกิดสัณฐานวิทยา (morphology) ในลักษณะนี้ส่งผลต่อการรับสารอาหารและออกซิเจนของเชื้อรา เนื่องจากเชื้อราที่อยู่ข้างใน pellet จะได้รับสารอาหารและออกซิเจนไม่ทั่วถึงซึ่งส่งผลกระทบต่อผลผลิตสารที่สนใจ มีรายงานวิจัยพบว่าเมื่อทำการเลี้ยงเชื้อราในอาหารเหลวที่มีการเติมเม็ดบีด (microparticle) เซลมีการเจริญและมีสะสมลิปิดสูงขึ้น เนื่องจากมีการเจริญในลักษณะเป็นเส้นใยสั้นๆที่มีกระจายตัว (dispersed mycelia) ทำให้เซลได้รับออกซิเจนและสารอาหารได้อย่างทั่วถึง แต่อย่างไรการเติม microparticle ลงไปในอาหารเป็นการเพิ่มค่าใช้จ่ายในกระบวนการผลิต ดังนั้นการดัดแปลงพันธุกรรมให้เชื้อรามีลักษณะทางสัณฐานวิทยาที่สนใจด้วยเทคนิคทาง
ชีวโมเลกุลจึงได้รับความสนใจ มีรายงานพบว่าการบกพร่องของยีน Chitin synthase B (ChsB) โดยเป็นยีนที่เกี่ยวข้องกับการสังเคราะห์ไคติน ซึ่งเป็นองค์ประกอบที่สำคัญของพนังเซล ส่งผลต่อสัณฐานวิทยาของเชื้อรา ทำให้รามีการเจริญในลักษณะที่เป็นเส้นใยสั้นๆ ดังนั้นในงานวิจัยนี้จึงมีความสนใจที่จะดัดแปลงพันธุกรรมเชื้อรา A. oryzae ให้มีความบกพร่องต่อการทำงานของยีน ChsB เพื่อนำเชื้อกลายพันธุ์ที่ได้ไปใช้เป็นแหล่งในการผลิตกรดไขมันที่มีมูลค่าสูงต่อไป ในการยับยั้งการทำงานของยีนจำเป็นต้องอาศัยพลาสมิคที่จำเพาะซึ่งมีลำดับเบสของยีนที่ต้องการยับยั้งอยู่บนพลาสมิด โดยขนาบข้างส่วนของยีนที่ใช้ในการคัดเลือกทรานฟอแม้นส์ (trasformant) ซึ่งในงานวิจัยนี้ได้ทำการสร้างพลาสมิดเพื่อใช้ในการยับยั้งการทำงานของยีน ChsB ในรา
A. oryzae ด้วยเทคนิค yeast assembly โดยอาศัยกระบวนการ homologous recombination ในยีสต์ Saccharomyces cerevisiae ช่วยในการเชื่อมต่อชิ้นส่วนของยีน ChsB เข้ากับยีนคัดเลือกอย่างจำเพาะเจาะจง ซึ่งเป็นเทคนิคที่ง่าย รวดเร็ว และไม่ต้องอาศัยเอ็นไซม์ตัดจำเพาะ (restriction enzyme) และเอ็นไซม์ ligase ในการตัดและเชื่อมต่อชิ้นดีเอ็นเอ โดยพลาสมิคที่สร้างขึ้นนี้จะทำไปส่งถ่ายเข้าสู่เชื้อรา A. oryzae เพื่อยัยยั้งการทำงานของยีน ChsB ต่อไป

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เชื้อรา Aspergillus แห้งระดับต่าง ๆ จัดอยู่ในกลุ่มจุลินทรีย์ที่มีการสะสมลิปิดสูง (oleaginous จุลินทรีย์) มีที่สามารถสร้างและสะสมลิปิดภายในเซลล์ในปริมาณสูงมากกว่าของปริมาณชีวมวลแห้ง 40% โดยขึ้นอยู่กับสภาวะการเพาะเลี้ยงแห้งระดับต่าง ๆ A. มีความสำคัญในอุตสาหกรรมอาหารหมักนอกจากนี้ยังได้รับความสนใจในการเป็นแหล่งผลิตสารที่มีความสำคัญและมีมูลค่าสูงหลายชนิดเช่นเอ็นไซม์กรดไขมันไม่อิ่มตัวจำเป็นทั้งนี้เนื่องจากแห้งระดับต่าง ๆ A. เป็นเชื้อราที่มีความปลอดภัยสามารถใช้สับสเตรทได้หลากหลายมีการเจริญเติบโตได้อย่างรวดเร็วมีระบบการส่งถ่ายยีน (การเปลี่ยนแปลงระบบ) ที่มีประสิทธิภาพซึ่งเอื้อต่อการพัฒนาสายพันธุ์ด้วยเทคนิคทางชีวโมเลกุลและการแสดงออกของยีน (ยีน) เนื่องจากราแห้งระดับต่าง ๆ A. เป็นเชื้อราที่มีเส้นใยในกระบวนการเลี้ยงด้วยอาหารเหลว (ปลูกที่จมลงใต้น้ำ) เส้นใยมักเกาะกันเป็นก้อนหรือที่เรียกว่าเม็ด (สัณฐานวิทยา) การเกิดสัณฐานวิทยาในลักษณะนี้ส่งผลต่อการรับสารอาหารและออกซิเจนของเชื้อราเนื่องจากเชื้อราที่อยู่ข้างในเม็ดจะได้รับสารอาหารและออกซิเจนไม่ทั่วถึงซึ่งส่งผลกระทบต่อผลผลิตสารที่สนใจมีรายงานวิจัยพบว่าเมื่อทำการเลี้ยงเชื้อราในอาหารเหลวที่มีการเติมเม็ดบีด (microparticle) เซลมีการเจริญและมีสะสมลิปิดสูงขึ้นเนื่องจากมีการเจริญในลักษณะเป็นเส้นใยสั้นๆที่มีกระจายตัว (ดิspersed mycelia) ทำให้เซลได้รับออกซิเจนและสารอาหารได้อย่างทั่วถึงแต่อย่างไรการเติม microparticle ลงไปในอาหารเป็นการเพิ่มค่าใช้จ่ายในกระบวนการผลิตดังนั้นการดัดแปลงพันธุกรรมให้เชื้อรามีลักษณะทางสัณฐานวิทยาที่สนใจด้วยเทคนิคทางชีวโมเลกุลจึงได้รับความสนใจมีรายงานพบว่าการบกพร่องของยีน Chitin synthase B (ChsB) โดยเป็นยีนที่เกี่ยวข้องกับการสังเคราะห์ไคตินซึ่งเป็นองค์ประกอบที่สำคัญของพนังเซลส่งผลต่อสัณฐานวิทยาของเชื้อราทำให้รามีการเจริญในลักษณะที่เป็นเส้นใยสั้น ๆ ดังนั้นในงานวิจัยนี้จึงมีความสนใจที่จะดัดแปลงพันธุกรรมเชื้อราแห้งระดับต่าง ๆ A. ให้มีความบกพร่องต่อการทำงานของยีน ChsB เพื่อนำเชื้อกลายพันธุ์ที่ได้ไปใช้เป็นแหล่งในการผลิตกรดไขมันที่มีมูลค่าสูงต่อไปในการยับยั้งการทำงานของยีนจำเป็นต้องอาศัยพลาสมิคที่จำเพาะซึ่งมีลำดับเบสของยีนที่ต้องการยับยั้งอยู่บนพลาสมิดโดยขนาบข้างส่วนของยีนที่ใช้ในการคัดเลือกทรานฟอแม้นส์ (trasformant) ซึ่งในงานวิจัยนี้ได้ทำการสร้างพลาสมิดเพื่อใช้ในการยับยั้งการทำงานของยีน ChsB ในรา แห้งระดับต่าง ๆ A. ด้วยเทคนิคยีสต์แอสเซมบลีโดยอาศัยกระบวนการ homologous recombination ในยีสต์ Saccharomyces cerevisiae ช่วยในการเชื่อมต่อชิ้นส่วนของยีน ChsB เข้ากับยีนคัดเลือกอย่างจำเพาะเจาะจงซึ่งเป็นเทคนิคที่ง่ายรวดเร็วและไม่ต้องอาศัยเอ็นไซม์ตัดจำเพาะ (เอนไซม์จำกัด) และเอ็นไซม์ ligase ในการตัดและเชื่อมต่อชิ้นดีเอ็นเอโดยพลาสมิคที่สร้างขึ้นนี้จะทำไปส่งถ่ายเข้าสู่เชื้อราแห้งระดับต่าง ๆ A. เพื่อยัยยั้งการทำงานของยีน ChsB ต่อไป

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เชื้อรา Aspergillus oryzae (จุลินทรีย์น้ำมัน) 40% ของปริมาณชีวมวลแห้งโดยขึ้นอยู่กับสภาวะการเพาะเลี้ยง A. oryzae มีความสำคัญในอุตสาหกรรมอาหารหมัก เอ็นไซม์กรดไขมันไม่อิ่มตัวจำเป็นทั้งนี้เนื่องจาก A. oryzae เป็นเชื้อราที่มีความปลอดภัยสามารถใช้สับสเตรทได้หลากหลายมีการเจริญเติบโตได้อย่างรวดเร็วมีระบบการส่งถ่ายยีน (ระบบการเปลี่ยนแปลง) และการแสดงออกของยีน ( การแสดงออกของยีน) A. oryzae เป็นเชื้อราที่มีเส้นใยในกระบวนการเลี้ยงด้วยอาหารเหลว (จมลงใต้น้ำการเพาะปลูก) เม็ดการเกิดสัณฐานวิทยา (สัณฐานวิทยา) เนื่องจากเชื้อราที่อยู่ข้างในเม็ด (microparticle) (เส้นใยแยกย้ายกันไป) แต่อย่างไรการเติม microparticle มีรายงานพบว่าการบกพร่องของยีนไคตินเทสบี (ChsB) ส่งผลต่อสัณฐานวิทยาของเชื้อรา A. oryzae ให้มีความบกพร่องต่อการทำงานของยีน ChsB (trasformant) ChsB ในราA. oryzae ด้วยเทคนิคประกอบยีสต์โดยอาศัยกระบวนการรวมตัวกันอีกคล้ายคลึงกันในยีสต์ Saccharomyces cerevisiae ช่วยในการเชื่อมต่อชิ้นส่วนของยีน ChsB ซึ่งเป็นเทคนิคที่ง่ายรวดเร็วและไม่ต้องอาศัยเอ็นไซม์ตัดจำเพาะ (เอนไซม์ จำกัด ) และเอ็นไซม์ ligase ในการตัดและเชื่อมต่อชิ้นดีเอ็นเอ A. oryzae เพื่อยัยยั้งการทำงานของยีน ChsB ต่อไป

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เชื้อรา Aspergillus oryzae จัดอยู่ในกลุ่มจุลินทรีย์ที่มีการสะสมลิปิดสูง ( ที่ผสมด้วยน้ำมันระเหย ) มีที่สามารถสร้างและสะสมลิปิดภายในเซลล์ในปริมาณสูงมากกว่า 40% ของปริมาณชีวมวลแห้งโดยขึ้นอยู่กับสภาวะการเพาะเลี้ยง .ผลการมีความสำคัญในอุตสาหกรรมอาหารหมักนอกจากนี้ยังได้รับความสนใจในการเป็นแหล่งผลิตสารที่มีความสำคัญและมีมูลค่าสูงหลายชนิดเช่นเอ็นไซม์กรดไขมันไม่อิ่มตัวจำเป็นทั้งนี้เนื่องจาก .ผลการเป็นเชื้อราที่มีความปลอดภัยสามารถใช้สับสเตรทได้หลากหลายมีการเจริญเติบโตได้อย่างรวดเร็วมีระบบการส่งถ่ายยีน ( ระบบการ ) และการแสดงออกของยีน ( ยีน )

เนื่องจากรา .ผลการเป็นเชื้อราที่มีเส้นใยในกระบวนการเลี้ยงด้วยอาหารเหลว ( เพาะเม็ดจม ) เส้นใยมักเกาะกันเป็นก้อนหรือที่เรียกว่าการเกิดสัณฐานวิทยา ( สัณฐาน ) ในลักษณะนี้ส่งผลต่อการรับสารอาหารและออกซิเจนของเชื้อราเม็ดจะได้รับสารอาหารและออกซิเจนไม่ทั่วถึงซึ่งส่งผลกระทบต่อผลผลิตสารที่สนใจมีรายงานวิจัยพบว่าเมื่อทำการเลี้ยงเชื้อราในอาหารเหลวที่มีการเติมเม็ดบีด ( microparticle ) เซลมีการเจริญและมีสะสมลิปิดสูงขึ้น( การกระจายเส้นใย ) ทำให้เซลได้รับออกซิเจนและสารอาหารได้อย่างทั่วถึงแต่อย่างไรการเติม microparticle ลงไปในอาหารเป็นการเพิ่มค่าใช้จ่ายในกระบวนการผลิตชีวโมเลกุลจึงได้รับความสนใจมีรายงานพบว่าการบกพร่องของยีนไคตินและ B ( chsb ) โดยเป็นยีนที่เกี่ยวข้องกับการสังเคราะห์ไคตินซึ่งเป็นองค์ประกอบที่สำคัญของพนังเซลส่งผลต่อสัณฐานวิทยาของเชื้อราดังนั้นในงานวิจัยนี้จึงมีความสนใจที่จะดัดแปลงพันธุกรรมเชื้อรา .ให้มีความบกพร่องต่อการทำงานของยีน chsb เพื่อนำเชื้อกลายพันธุ์ที่ได้ไปใช้เป็นแหล่งในการผลิตกรดไขมันที่มีมูลค่าสูงต่อไป oryzaeโดยขนาบข้างส่วนของยีนที่ใช้ในการคัดเลือกทรานฟอแม้นส์ ( trasformant ) ซึ่งในงานวิจัยนี้ได้ทำการสร้างพลาสมิดเพื่อใช้ในการยับยั้งการทำงานของยีน chsb ในรา
A .ผลการเปรียบเทียบการประกอบโดยอาศัยกระบวนการในยีสต์ด้วยเทคนิคยีสต์ Saccharomyces cerevisiae ช่วยในการเชื่อมต่อชิ้นส่วนของยีน chsb เข้ากับยีนคัดเลือกอย่างจำเพาะเจาะจงซึ่งเป็นเทคนิคที่ง่ายรวดเร็ว( เอนไซม์ไลเกสในการตัดและเชื่อมต่อชิ้นดีเอ็นเอจำกัด ) และเอ็นไซม์โดยพลาสมิคที่สร้างขึ้นนี้จะทำไปส่งถ่ายเข้าสู่เชื้อรา .