Historically, Burmese art was based

Historically, Burmese art was based on Buddhist or Hindu cosmology and myths. There are several regional styles of Buddha images, each with certain distinctive characteristics. For example, the Mandalay style, which developed in the late 1800s, consists of an oval-shaped Buddha with realistic features, including naturally curved eyebrows, smaller but still prominent ears, and a draping robe.[4] There are 10 traditional arts.
In addition to the traditional arts are silk weaving, pottery, tapestry making, gemstone engraving, and gold leaf making. Temple architecture is typically of brick and stucco, and pagodas are often covered with layers of gold leaf while monasteries tend to be built of wood (although monasteries in cities are more likely to be built of modern materials). A very common roofing style in Burmese architecture is called pyatthat (ပြာသာဒ်), which is a multi-tiered and spired roof.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ประวัติศาสตร์ ศิลปะพม่าถูกตามจักรวาลวิทยาของศาสนาพุทธหรือฮินดูและตำนาน มีหลายรูปแบบภูมิภาคของพระพุทธรูป มีลักษณะเฉพาะโดดเด่น เช่น สไตล์มัณฑะเลย์ ซึ่งพัฒนาในช่วงปลายปี ประกอบด้วยพระที่ทรงรีมีคุณสมบัติจริง รวมถึงคิ้วโค้งตามธรรมชาติ หูที่เล็กลง แต่ยังคงโดดเด่น และตะทสามารถ [4] มีศิลปะดั้งเดิม 10นอกจากศิลปะดั้งเดิมจะทอผ้าไหม เครื่องปั้นดินเผา พรม อัญมณีแกะสลัก และทำการทำทองคำเปลว สถาปัตยกรรมคือโดยทั่วไปของอิฐและปูนปั้น และเจดีย์มักปกคลุม ด้วยชั้นของทองในขณะที่วัดมักจะสร้างจากไม้ (แม้ว่าในเมืองมีแนวโน้มที่สร้างขึ้นของวัสดุสมัยใหม่) แบบหลังคาทั่วไปมากในสถาปัตยกรรมพม่าเรียกว่า pyatthat (ပြာသာဒ်), ซึ่งมีหลังคาหลายชั้น และ spired

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ประวัติศาสตร์ศิลปะพม่าอยู่บนพื้นฐานของชาวพุทธหรือฮินดูจักรวาลวิทยาและตำนาน มีหลายรูปแบบในระดับภูมิภาคของพระพุทธรูปแต่ละคนมีลักษณะที่โดดเด่นบางอย่าง ตัวอย่างเช่นรูปแบบมั ณ ฑะเลซึ่งการพัฒนาในช่วงปลายปี 1800 ประกอบด้วยพระพุทธรูปไข่ที่มีคุณสมบัติที่มีเหตุผลรวมถึงคิ้วโค้งตามธรรมชาติที่มีขนาดเล็ก แต่ก็ยังหูที่โดดเด่นและเสื้อคลุมแต่งตัวได้. [4] มี 10 ศิลปะแบบดั้งเดิม
นอกจากนี้ยังมีศิลปะการทอผ้าแบบดั้งเดิมผ้าไหม, เครื่องปั้นดินเผา, การทำผ้าม่านแกะสลักพลอยและทองคำทำใบ สถาปัตยกรรมวัดเป็นปกติของอิฐและปูนปั้นและเจดีย์มักจะถูกปกคลุมด้วยชั้นของทองในขณะที่พระราชวงศ์มีแนวโน้มที่จะถูกสร้างขึ้นจากไม้ (แม้ว่าพระราชวงศ์ในเมืองมีแนวโน้มที่จะได้รับการสร้างขึ้นจากวัสดุที่ทันสมัย) รูปแบบหลังคาที่พบบ่อยมากในงานสถาปัตยกรรมพม่าเรียกว่า pyatthat (ပြာသာဒ်) ซึ่งเป็นหลังคาหลายชั้นและแหลม

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ประวัติศาสตร์ศิลปะพม่าอยู่ตามแนวพุทธหรือฮินดูจักรวาลวิทยาและตำนาน มีลักษณะที่หลายภูมิภาคของพระพุทธรูปแต่ละคนมีลักษณะที่โดดเด่นบางอย่าง ตัวอย่างเช่นรูปแบบมัณฑะเลย์ ซึ่งพัฒนาขึ้นในปลาย 1800 , ประกอบด้วย รูปไข่ รูปพระพุทธเจ้าด้วยคุณสมบัติมีเหตุผล รวมทั้งธรรมชาติโค้งคิ้ว ขนาดเล็กลง แต่ยังคงโดดเด่นหูและสอดเสื้อ [ 4 ] มี 10 ศิลปะแบบดั้งเดิมนอกจากศิลปะแบบดั้งเดิมเป็นผ้าไหมทอผ้า เครื่องปั้นดินเผา การทำพรม , พลอยแกะสลัก , และแผ่นทองทำ วัดสถาปัตยกรรมโดยทั่วไปของอิฐและปูนปั้น และเจดีย์มักจะถูกปกคลุมด้วยชั้นของทอง ในขณะที่วัดมักจะถูกสร้างขึ้นจากไม้ ( แต่วัดในเมืองมีแนวโน้มที่จะถูกสร้างขึ้นจากวัสดุที่ทันสมัย ) สไตล์หลังคาที่พบบ่อยมากในสถาปัตยกรรมพม่าเรียกว่า pyatthat ( ပြာသာဒ် ) ซึ่งเป็นหลายฉัตรและ spired หลังคา