The two farming systems (organic an

The two farming systems (organic and conventional)
studied at farm level in Central Italy has
emphasized interesting differences on soil quality.
It became obvious that organic management affects
soil microbiological and chemical properties by increasing soil nutrient availability, microbial biomass
and microbial activity, which represent a set of sensitive
indicators of soil quality. The microbial biomass
activity was not the only most sensitive reactions to
different management because others soil chemical
properties were affected (i.e. electrical conductivity,
nitrate-N and phosphorus contents). The increased
enzymatic activities in the organically managed soil
expedite mineralization and mobilization of available
nutrients, which may also estimated to be a potential of
eutrophication for adjacent ecosystems. Moreover, in
the two management systems studied, soil properties
linked to available nitrogen (MBN, MBC/MBN ratio
and nitrate) depend variously on seasonal effects. This
is due to the leaching of nitrate caused by seasonal
rainfall. Apparently, in Central Italy, the organic
managed soil needs more than 7 years to improve the
total soil organic carbon content. However, after this
period in the studied area under Mediterranean climatic
regime, the available nutrient content and the microbiological
soil properties resulted early sensitive
indicators of soil quality.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ระบบการทำฟาร์มสอง (อินทรีย์ และธรรมดา)ศึกษาระดับฟาร์มในอิตาลีกลางมีเน้นความแตกต่างน่าสนใจคุณภาพดินเป็นที่ชัดเจนว่า การจัดการเกษตรอินทรีย์มีผลต่อคุณสมบัติทางจุลชีววิทยา และทางเคมีของดิน โดยการเพิ่มดินธาตุอาหารพร้อมใช้งาน ชีวมวลจุลินทรีย์และ กิจกรรมจุลินทรีย์ การแสดงชุดสำคัญตัวบ่งชี้ของคุณภาพดิน ชีวมวลจุลินทรีย์กิจกรรมไม่ใช่ปฏิกิริยาที่สำคัญที่สุดเท่านั้นจัดการแตกต่างกันเนื่องจากผู้อื่นของดินเคมีคุณสมบัติได้รับผลกระทบ (เช่นค่าการนำไฟฟ้าN ไนเตรตและฟอสฟอรัสเนื้อหา) ที่เพิ่มขึ้นดิน organically จัดการกิจกรรมเอนไซม์ในระบบเร่ง mineralization และการเคลื่อนไหวของสารอาหาร ซึ่งอาจประเมินเป็น ศักยภาพของเคในระบบนิเวศที่อยู่ติดกัน นอกจากนี้ ในศึกษาระบบการจัดการสอง คุณสมบัติของดินเชื่อมโยงการใช้ไนโตรเจน (MBN อัตราส่วนของช่อง MBC/MBNและไนเตรต) เพิ่มขึ้นอยู่กับผลของฤดูกาล นี้เนื่องจากการละลายของไนเตรตที่เกิดตามฤดูกาลปริมาณน้ำฝน เห็นได้ชัด ในอิตาลีกลาง การเกษตรอินทรีย์มีการจัดการดินต้องมากกว่า 7 ปีในการปรับปรุงการเนื้อหาคาร์บอนอินทรีย์ของดินทั้งหมด อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้ระยะเวลาในพื้นที่ที่ studied climatic เมดิเตอร์เรเนียนระบอบการปกครอง มีธาตุอาหารเนื้อหา และการทางจุลชีววิทยาคุณสมบัติของดินให้ตรงตามช่วงตัวบ่งชี้ของคุณภาพดิน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

สองระบบการทำฟาร์ม ( อินทรีย์และ )
ศึกษาระดับฟาร์มในภาคกลางของอิตาลีมีการเน้นความแตกต่างที่น่าสนใจเกี่ยวกับคุณภาพดิน
.
มันก็กลายเป็นที่เห็นได้ชัดว่าการจัดการเกษตรอินทรีย์มีผลต่อ
ดินจุลชีววิทยา เคมี โดยการเพิ่มธาตุอาหารในดินมีกิจกรรม
จุลินทรีย์และจุลินทรีย์ที่เป็นชุดของตัวชี้วัดที่สําคัญ
คุณภาพดิน .มวลชีวภาพจุลินทรีย์ คือ กิจกรรม
ไม่ใช่แค่อ่อนไหวที่สุดต่อการจัดการที่แตกต่างกันเพราะคนอื่นคุณสมบัติทางเคมี
คุณสมบัติดังกล่าว ( เช่น การนำไฟฟ้า และปริมาณฟอสฟอรัส
nitrate-n ) เพิ่มเอนไซม์ในการจัดการกิจกรรม

ดินอนินทรีย์และอินทรีย์เร่งระดมของสารอาหารที่มีอยู่
ซึ่งอาจเป็นไปได้ ศักยภาพของ
บานชื่นที่อยู่ติดกัน ระบบนิเวศวิทยา นอกจากนี้ ในระบบการจัดการศึกษา
2
, คุณสมบัติของดินกับไนโตรเจนที่มีอยู่ ( MBN MBC / MBN อัตราส่วน
และไนเตรท ) ขึ้นอยู่อย่างหลากหลายในผลตามฤดูกาล นี้
เนื่องจากการละลายของไนเตรท เกิดจากปริมาณน้ำฝนตามฤดูกาล

เห็นได้ชัดว่า ในภาคกลางของอิตาลี , อินทรีย์
การจัดการความต้องการดินมากกว่า 7 ปีเพื่อปรับปรุง
ดินอินทรีย์คาร์บอนรวมเนื้อหา อย่างไรก็ตามหลังจากที่ระยะเวลาในพื้นที่ศึกษานี้

เมดิเตอร์เรเนียนภูมิอากาศภายใต้ระบอบการปกครอง ที่มีสารอาหารและคุณสมบัติของดิน จุลินทรีย์ ส่งผลเร็วไว

ตัวชี้วัดคุณภาพดิน